ปัญญาจำแนกตามลักษณะ


    อ.กฤษณา สักครู่นี้ท่านอาจารย์ก็ได้พูดถึงปัญญามีหลายระดับ มีขั้นการฟัง มีขั้นการศึกษาโดยสติเกิด ทีนี้อาจจะมีปัญญาอย่างอื่นๆ อีก เพราะว่าหลายระดับคงไม่ใช่เพียงแค่ ๒ อันนี้ก็ใคร่ขอเรียนถามท่านอาจารย์ว่า การแบ่งระดับขั้นของปัญญา แบ่งตามอะไร คือ ก็แบ่งตามความคมกล้า อ่อน แก่ หรือแบ่งตามระดับโลกียะ โลกุตตระ หรืออย่างไรคะอาจารย์คะ

    ท่านอาจารย์ ก็คงจำแนกไปตามลักษณะของปัญญา แล้วมีมาก ในพระไตรปิฏกก็แสดงไว้เยอะ ปัญญาอาจหาญ ปัญญาร่าเริง ปัญญากว้างขวาง ปัญญาลึก ก็แล้วแต่

    อ.กฤษณา คงจะมีตั้งแต่ระดับเบื้องต้นไปจนถึงระดับสูง ที่นี้ระหว่างเบื้องต้นกับระดับสูง ก็จะซอยไปอย่างไรแล้วแต่อีก ใช่ไหมคะ

    ท่านอาจารย์ ไม่จำเป็นเลย ขอให้เป็นความเห็นที่ถูกต้องก็แล้วกัน

    อ.กฤษณา แต่เป็นความเห็นที่ถูกต้องในต่างระดับกัน ใช่ไหมคะ

    ท่านอาจารย์ เพิ่มขึ้น

    พระคุณเจ้า ปัญญาที่จะเกิดในการปฏิบัติ มันย่อมเกื้อกูลกัน ปัญญาที่จะเกิดกับเราๆ ที่ปฏิบัติ มันจะเกิดสุตมยปัญญาแล้วก็ข้ามไปภาวนามยปัญญา จินตายังจะไม่เกิด มันจะมีเหตุผลอย่างไรที่อาตมาไม่เข้าใจเลย

    ท่านอาจารย์ อย่างที่ได้กราบเรียนให้ทราบแล้ว ถ้าเป็นปัญญาที่เป็นจินตาญาณจริงๆ ที่แสดงไว้ว่า สำหรับให้พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระปัจเจกพระพุทธเจ้าเท่านั้น หมายความถึงระดับสูงสุด ซึ่งไม่มีใครสามารถที่จะคิดเรื่องธรรมเอง แต่ว่าท่านทั้งสอง สามารถที่จะไตร่ตรองแล้วก็รู้ธรรมได้ โดยการที่ว่าเมื่อมีการไตร่ตรองตรงลักษณะของแนวทางคลองของธรรมแล้ว ก็เป็นเหตุให้ภาวนาปัญญาเกิดขึ้นด้วยตนเอง เพราะฉะนั้น จึงเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้า นั่นเป็นระดับที่สูงมาก เพราะว่าตั้งแต่เราเกิดมามีใครบ้างที่จะคิดว่า ขณะนี้เป็นสภาพธรรมที่ไม่ใช่ตัวตน เพราะฉะนั้นปัญญาขั้นนี้ที่จะเป็นจินตามยญาณได้ ต้องสำหรับผู้ที่อบรมปัญญามาที่จะบรรลุคุณธรรมเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้า นั่นเป็นระดับที่สูงมากเจ้าค่ะ แต่ว่าสำหรับทั่วๆ ไป ผู้เป็นสาวกต้องฟังพระธรรม

    เพราะฉะนั้นการที่เราจะคิดไตร่ตรอง อย่างตัวอย่างเมื่อกี้นี้ ที่กล่าวถึงว่า ถ้าจะพูดถึงสัมปฏิจฉันนจิตกับปัญจทวาราวัชชนจิต เป็นมโนธาตุ ถ้าไม่เคยมีการฟังมาก่อนเลย ใครจะคิดเรื่องอย่างนี้ ก็ไม่มีใครคิด แต่เมื่อฟังแล้วไม่ได้ทิ้งไป เพราะฉะนั้นก็มีการไตร่ตรองคิดถึงสิ่งที่ฟัง เพราะฉะนั้นก็มีส่วนของปัญญาที่เป็นการไตร่ตรองแต่สืบเนื่องมาจากการฟังด้วย เพราะเหตุว่าเมื่อเป็นสาวกแล้วไม่ฟัง ก็จะไม่คิดอย่างนี้ ไม่เหมือนผู้ที่ไม่ต้องฟังก็สามารถที่จะคิดได้

    เพราะฉะนั้นก็แสดงให้เห็นว่า ปัญญามีหลายระดับ แล้วแต่ว่าถ้าเป็นจินตาญาณของคนที่ไม่ใช่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือพระปัจเจกพระพุทธเจ้า จินตานั้นก็ยังต้องเนื่องมาจากการฟัง เพราะเหตุว่าเป็นเพียงปัญญาระดับที่ไม่ถึงขั้นของผู้ที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้า แล้วก็ต้องอาศัยการฟังด้วย


    หมายเลข 9090
    14 ส.ค. 2567