ความเห็นผิดที่ยึดถือสิ่งนั้นๆ ว่าเป็นเรา


    กิเลสมากมายเป็นมหาสมุทร กว่าจะค่อยๆ มีปัญญาซึมเข้าไปที่จะละความไม่รู้เป็นความรู้ เพราะเหตุว่าความไม่รู้ลองคิดว่า ซึมแค่ไหนที่จะเข้าไปถึงธรรมที่ติดแน่น ซึมทุกวัน แน่นทุกวัน และกว่าจะออกไปได้ทีละเล็กทีละน้อยก็จะต้องอาศัยปัญญาที่เกิดจากการฟัง การไตร่ตรอง และเป็นผู้ตรง คือฟังเพื่อเข้าใจธรรม เวลานี้เราก็เริ่มเห็นกำลังของโลภะว่ามาก และโลภะก็มีถึง ๘ ประเภทโดยประมวล ซึ่งความจริงก็หลากหลายมากมาย แต่ก็มีโลภะที่เกิดร่วมกับความเห็นผิด และก็มีโลภะที่ไม่ได้เกิดร่วมกับความเห็นผิด ไม่ว่าจะเกิดร่วมกับความเห็นผิดหรือไม่เกิดร่วมกับความเห็นผิด ก็ต้องประกอบด้วยเวทนา (ความรู้สึก) ซึ่งก็ไม่ใช่เรา บังคับก็ไม่ได้ จะให้โสมนัสหรือจะให้อุเบกขาไม่ได้เลย แล้วแต่เหตุปัจจัยทั้งสิ้น แต่เราพอที่จะรู้ตัวเอง ใช่ไหม ว่าขณะหนึ่งขณะใดความรู้สึกเป็นอย่างไร เช่นขณะนี้ความรู้สึกเป็นอะไร โทมนัสหรือเปล่า (ไม่โทมนัส) โสมนัสหรือเปล่า (แล้วแต่) ถ้าไม่ใช่โทมนัส โสมนัส ก็คืออุเบกขา อทุกขมสุข

    นี่คือเข้าใจสิ่งที่มีให้ถูกต้อง แม้ว่าชื่อจะเป็นภาษาบาลี แต่เมื่อเข้าใจลักษณะนั้นก็พอที่จะรู้ได้ว่า แม้ลักษณะนั้นก็เกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป ถึงจะเกิดร่วมกับโลภะก็มีความติดข้องหลากหลาย ความติดข้องขณะที่ไม่มีความเห็นผิดเลย ก็ติดข้องในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ ถ้าจะมีความเห็นผิดเกิดร่วมด้วย ก็มีความเห็นผิดที่ยึดถือสิ่งนั้นๆ ที่ปรากฏว่าเป็นเรา

    เพราะฉะนั้นไม่ไกลตัวเลย ใช่ไหม อยู่ที่ตัวเราตลอด แต่ถ้าไม่รู้ก็ไม่รู้ไปตลอดชาติ ก็ไม่รู้เรื่องภวังคจิต ทำไมต้องเกิดเห็นขึ้นมา ได้ยินขึ้นมา แล้วทำไมต้องมีโลภะ มีความติดข้อง แต่ทั้งหมดก็เป็นธรรม ซึ่งเราสามารถที่จะเข้าใจถูกได้ในวันหนึ่งว่า ไม่ใช่เรา สำหรับโลภมูลจิตโดยย่อก็คือว่าเกิดร่วมกับความเห็นผิด และไม่เกิดร่วมกับความเห็นผิด เกิดร่วมกับอุเบกขาเวทนาบ้าง เกิดร่วมกับโสมนัสเวทนาบ้าง แล้วก็มีกำลังกล้าที่อาศัยการสะสมมาที่จะเกิดคิดเห็นผิดไปต่างๆ นานา ด้วยตนเอง หรือว่าอาศัยการชักจูงของบุคคลอื่น เพราะว่าการคบหาสมาคม ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ จริงๆ แล้วไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคลเลย คบกับความเห็นหรือก็คบกับเรื่องราวต่างๆ จากสิ่งที่เราได้ยินได้ฟัง จากบุคคลนั้นบุคคลนี้ เพราะฉะนั้นรวมสรุปก็คือว่าคงจะไม่ต้องไปใช้ชื่อก็ได้ แต่สามารถที่จะเข้าใจถูกได้ ว่าขณะที่มีความติดข้องกำลังติดข้องในความเห็นผิด หรือว่าไม่มีความเห็นผิดเกิดร่วมด้วย แต่จริงๆ แล้วทั้งโลภะที่เกิดร่วมกับความเห็นผิด และไม่เกิดร่วมกับความเห็นผิด ขณะนั้น อกุศลใดๆ ไม่สามารถจะรู้ความจริงได้ ต้องเป็นปัญญาจึงจะสามารถจะรู้ได้


    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 133


    หมายเลข 9198
    28 ส.ค. 2567