ลาภที่เหนือลาภ


    ท่านอาจารย์ ขณะใดที่เข้าใจอย่างซาบซึ้งจริงๆ ขณะนั้นก็คือรู้ว่า ธรรมมีรสที่เลิศกว่ารสอื่น เพราะว่ารสอื่นชั่วคราวแค่กระทบลิ้น แต่รสของพระธรรมก็ทำให้เกิดปีติมากขึ้น

    คุณธีรพันธ์คะ วันนี้ได้ลาภหรือยัง

    อ.ธีรพันธ์ ได้แล้วครับ

    ท่านอาจารย์ ได้แล้ว ลาภอะไรคะ

    อ.ธีรพันธ์ ลาภคือศรัทธาที่มีความเข้าใจเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย

    ท่านอาจารย์ ถ้าเข้าใจคำนี้จริงๆ ก็จะเข้าใจว่า เป็นลาภที่เหนือลาภใดๆ ทั้งสิ้น เพราะว่าทุกคนมุ่งหวังแต่ลาภทางตา เห็นสิ่งที่น่าพอใจ ทางหูได้เสียง ทางจมูกได้กลิ่น ทางลิ้นก็ต้องรสอร่อย ทางกายก็กระทบสัมผัสสิ่งที่ไม่ทำให้เกิดทุกข์ ความเดือดร้อน นั่นก็เป็นลาภ แล้วยศล่ะได้บ้างหรือเปล่า

    อ.ธีรพันธ์ ก็ได้บ้าง

    ท่านอาจารย์ ชาวโลกปรารถนายศอื่น ใช่ไหมคะ แต่ยศจริงๆ ต้องเป็นความดี ถ้าไม่มีแล้วเป็นยศได้ไหม ความไม่ดีเป็นเกียรติยศได้ไหม แล้วยศอะไร คิดว่านั่นคือยศ นี่คือยศ ตำแหน่งต่างๆ หรืออะไรต่างๆ เข้าใจว่านั่นเป็นยศ แต่ยศอย่างนั้นหรือที่จะทำให้เป็นที่นับถือ เป็นที่กราบไหว้ ถ้าความไม่ประพฤติไม่ดี ที่ชาวโลกคิดว่าเป็นยศต่างๆ เป็นหรือเปล่า

    เพราะฉะนั้น จริงๆ แล้ว อย่างคนที่มามูลนิธิฯ เห็นอะไร เห็นคนที่พอใจ ที่เป็นเพื่อน เป็นมิตรสหาย เห็นหรือเปล่าคะ เห็น เป็นลาภหรือเปล่า เห็นอะไรๆ ที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นมิตรสหาย เป็นสิ่งสวยๆ งามๆ เป็นลาภหรือเปล่า เป็นหรือไม่เป็นคะ

    อ.คำปั่น เพราะว่าความหมายของลาภ ก็คือการได้มาซึ่งสิ่งที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ

    ท่านอาจารย์ มาเพื่อเหตุนี้หรือคะ อยากได้ลาภก็มาแล้วใช่ไหมคะ โลภะ ได้แล้วก็ยังมีกิเลสอีก เยอะเลยลาภ แต่การได้เข้าใจพระธรรมเป็นลาภอันประเสริฐได้แค่ไหน

    เพราะฉะนั้น ให้รู้ได้เลยว่า ลาภอื่นไม่ใช่ลาภประเสริฐ แต่เมื่อใดก็ตามที่ได้เข้าใจพระธรรม เมื่อนั้นแหละคือลาภอันประเสริฐ เพราะฉะนั้น มีลาภประเสริฐแค่ไหน มาเพื่อลาภประเสริฐที่จะได้มีศรัทธาที่มั่นคงในการรู้ว่า ชีวิตเกิดมาเพื่ออะไร ไม่ใช่กิน นอน ติดข้องซึ่งเป็นชีวิตประจำวัน แต่เพื่อได้รู้ความจริง ถึงความหลุดพ้นความไม่รู้ และกิเลสทั้งหลาย

    เพราะฉะนั้น ต้องเข้าใจถูกต้องจริงๆ ว่า มาแล้วกิเลสเยอะ เพราะต้องการลาภอย่างนี้ หรือมาเพื่อจะได้ลาภที่ประเสริฐกว่าลาภอื่น แต่จะได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับการเห็นคุณค่า และประโยชน์ที่ได้สะสมมา ซึ่งถ้าขณะนี้เห็นประโยชน์ที่ได้เข้าใจธรรม อันนี้จะติดตามไปที่จะทำให้ไม่มีสิ่งอื่นที่ต้องการ แต่เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดในชีวิต คือ การเห็นถูก เข้าใจถูกในธรรม

    เพราะฉะนั้น ก็จะเห็นได้ว่า การฟังธรรม เมื่อไรที่เข้าใจ เมื่อนั้นจึงจะเห็นว่า นี่คือลาภอันประเสริฐ แต่ถ้ายังไม่เข้าใจ จะคิดว่าเป็นลาภอันประเสริฐได้ไหม ฟัง แต่ไม่รู้เรื่อง ฟังแล้วติดในคำต่างๆ แต่ฟังเมื่อไร เห็นประโยชน์เมื่อไร จึงจะรู้ความหมายของคำว่า “ลาภอันประเสริฐยิ่งกว่าลาภอื่น”


    หมายเลข 9199
    19 ก.พ. 2567