กำลังวาดภาพภพหน้า
โรคที่ไม่มียาอื่นรักษาได้เลย คือ โรคกิเลส กิเลสคือเพราะไม่รู้ จึงทำให้ติดข้อง ทำให้ไม่พอใจในเมื่อไม่ได้สิ่งที่น่าปรารถนาต้องการ และยังนำมาซึ่งกิเลสอื่นๆ ในชีวิตประจำวันของแต่ละคนมากมายมหาศาลเบาบางไปบ้างไหมเมื่อได้ฟังพระธรรม เตรียมตัวเป็นใครในชาติหน้า แขนขาด ตาบอด หรืออย่างไรคะ หรือว่าหวังว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ไม่ต้องเกิดในอบาย ไม่ต้องเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน มีรูปร่างประหลาดๆ ต่างๆ ไม่ต้องตกนรก เกิดในนรกขุมต่างๆ มีความทุกข์ทรมานต่างๆ ไม่ต้องเป็นเปรต เป็นอสุรกาย หรือว่าจะเป็นอะไร ไม่มีใครสามารถรู้ได้เลย สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น มีปัจจัยจึงเกิดขึ้น
เพราะฉะนั้น ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย ถ้าเป็นผลของกุศลกรรม พ้นจากการเกิดในอบายภูมิ เกิดเป็นมนุษย์ แต่ถ้าเป็นผลของกุศลกรรมอย่างอ่อน ก็ทำให้อกุศลเบียดเบียนได้ ทำให้เราพบเห็นบุคคลในโลกนี้เป็นคนพิการบ้าง เป็นคนหูหนวก ตาบอดบ้าง เป็นคนปัญญาอ่อนบ้าง มาจากไหนคะ ถ้าไม่ใช่มาจากชาติก่อนๆ
เพราะฉะนั้น ในขณะนี้ก็เป็นเหมือนนายช่างที่กำลังวาดภพต่อไปหรือชาติต่อไปว่า ใครจะมีฝีมือจะทำให้ชาติต่อไปเป็นอย่างไร สวยงาม หรือมีทุกสิ่งทุกอย่าง มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย แต่ไม่มีปัญญา หรือว่ามีปัญญา แต่ก็มีกุศลกรรมที่เบียดเบียนได้ เป็นคนค่อมก็ได้ เป็นอะไรก็ได้
เพราะฉะนั้น อะไรๆ ก็จะเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ซึ่งได้เป็นมาแล้ว และจะเป็นต่อไป แต่ทั้งหมดมาจากการกระทำในชาตินี้ด้วย
เพราะฉะนั้น ชาตินี้ชัดเจน กุศลกรรมเกิดเมื่อไร ก็เป็นที่พึ่ง อาศัยได้ว่า จะไม่ไปสู่อบายภูมิ แต่ถ้าอกุศลกรรมหรืออกุศลจิตมีมากๆ ใครก็ช่วยไม่ได้ แม้จะหวังอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามเหตุ
เพราะฉะนั้น จึงเห็นประโยชน์ที่มีโอกาสได้ฟังพระธรรม ได้เข้าใจพระธรรม ได้เข้าใจความจริง ก็เหมือนยารักษาคนตาบอดที่ไม่เห็นอะไรเลยตามความเป็นจริงให้มองเห็นได้ หรือคนที่ป่วยไข้อ่อนแรง ล้ามาก ทำกุศลใดๆ ก็ไม่ได้เลย ก็มีเรี่ยวแรงมีกำลัง ที่สามารถทำกุศลตามกำลังของปัญญาที่มีได้
เพราะฉะนั้น สาวกโพธิสัตว์หรือพระมหาโพธิสัตว์จะไม่หวังอย่างอื่น ไม่ได้หวังสมบัติของพระราชา หรือสมบัติของเศรษฐีมหาศาล หรือสมบัติของเทพชั้นต่างๆ แต่เพื่อปัญญา ความเห็นถูก ความเข้าใจถูก ปัญญาประเสริฐกว่ากุศลทั้งปวง และถ้าเป็นผลของปัญญาจริงๆ จะมีรูปร่างที่น่าเกลียดไหม ก็เป็นไปไม่ได้
เพราะฉะนั้น แม้แต่พระรูปกายของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก็มีภาวะที่เลิศกว่ารูปกายของบุคคลอื่น ด้วยบุญบารมี คือความดีที่ได้ทรงสะสม ทรงบำเพ็ญมา เพราะฉะนั้น ทรงประกอบพร้อมทุกอย่าง คนอื่นก็ลดลงมาตามลำดับขั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามที่ประเสริฐกว่าอย่างอื่นทั้งหมดก็คือปัญญา ไม่ว่าในยามใด จะสุข หรือจะทุกข์ จะเพลิดเพลิน ปัญญาก็สามารถรู้ความจริงเมื่อได้อบรมแล้ว