ฝืนให้รู้จักตัวจริงของธรรมได้ไหม
แม้ในขณะนี้ที่กำลังเห็น ก็มีข้อความที่ได้ทรงพระมหากรุณาแสดงความจริงของธรรมว่าจิตขณะใดเป็นกุศล จิตขณะใดเป็นอกุศล จิตขณะใดเป็นวิบาก จิตขณะใดไม่ใช่ทั้งกุศล และอกุศล เพราะฉะนั้นการที่เรากล่าวถึงธรรมเรื่องราว และก็ไม่รู้จักตัวจริงของธรรม ก็จะมีความเข้าใจถูกต้องว่าจะไปฝืนให้รู้จักตัวจริงของธรรมด้วยความไม่รู้ หรือว่าด้วยความเข้าใจเพียงเล็กๆ น้อยๆ เป็นไปไม่ได้ แต่ต้องอาศัยการสะสม การฟัง และก็ค่อยๆ เข้าใจขึ้นจนถึงกาลที่สามารถที่จะมีการระลึก คือรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่ได้ยินได้ฟัง และก็เข้าใจขึ้น เมื่อนั้นจะเห็นตัวจริงของสิ่งที่เราได้ฟัง แม้แต่โลภมูลจิต ๘ ประเภท คือที่เกิดร่วมกับทิฏฐิ ๔ ที่ไม่เกิดร่วมกับทิฏฐิ ๔ ที่เกิดร่วมกับโสมนัส กับที่เกิดร่วมกับอุเบกขาเวทนาอย่างละ ๔ และที่มีกำลังเกิดเองโดยที่ไม่ต้องลังเล ไม่ต้องอาศัยการชักจูง การที่จะต้องคิดแล้วคิดอีกก็เกิดขึ้นมาได้ นั่นก็เป็นสิ่งที่มีจริง แล้วก็จะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เพราะเหตุว่า ผู้ที่อบรมเจริญปัญญาถ้ายังไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรมจริงๆ ก็เป็นเพียงเรื่องราว แต่ยังไม่สามารถที่จะละการเห็นว่าโลภะที่เกิดก็เป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่ง มีลักษณะอย่างนั้น เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เพราะฉะนั้นก็จะรู้ด้วยตัวเองว่ายังมีการที่จะต้องอบรมความรู้ความเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมต่อไป แต่ก็ต้องอาศัยการที่ได้ยินได้ฟัง และก็ค่อยๆ เข้าใจขึ้น
ที่มา ...