โลกไม่ปรากฎ - โลกว่างเปล่า
ผู้ฟัง เรียนถามอาจารย์ คำว่า "โลกไม่ปรากฏกับโลกว่างเปล่า" เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ท่านอาจารย์ ในชีวิตประจำวัน ขณะนอนหลับสนิท มีโลกปรากฏไหม ไม่มีนะ แต่ยังคงมีตา มีหู แล้วก็มีนามธรรม คือ จิตเกิดดับ แต่ไม่ปรากฏ เพราะเหตุว่าขณะนั้นเป็นภวังคจิต เหมือนกับขณะที่ปฏิสนธิกับจุติ เพราะเหตุว่าขณะนั้นไม่ได้อาศัยตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีโลกปรากฏเลย ไม่มีความคิดนึกเรื่องโลก ไม่เห็น ไม่ได้ยินทั้งสิ้น นั่นคือขณะที่ไม่รู้อารมณ์ทางหนึ่งทางใดใน ๖ ทาง อันนี้คงไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหม
ถึงความหมายที่ว่า โลกว่างเปล่า ขณะหนึ่งที่จิตเกิดขึ้น ทำกิจหนึ่งแล้วดับ ไม่มีอะไรเหลือเลย จิตขณะก่อน ไม่เห็นจิตขณะนี้ ต่างคนต่างเกิด คือ จิตขณะเมื่อสักครู่นี้เกิด แล้วก็ดับไป ฉันใด จิตขณะนี้ ก็เกิดแล้วก็ดับไป และสิ่งที่ปรากฏ ดับ ไม่ใช่ว่าเกิดจิตเก่าซ้ำอยู่ตลอดเวลา หรือว่ามีอายุยาวนาน ถ้าจะยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือ เสียง เมื่อสักครู่นี้หายไปไหน มี ขณะที่กำลังปรากฏแล้วว่างเปล่า คือ ไม่สามารถที่จะเอาเสียงนั้นกลับมา ให้เป็นเสียงขณะที่จิตกำลังได้ยิน เหมือนขณะก่อนได้ แม้ว่าเราจะเปิดวิทยุ หรือว่าเปิดเทป ฟังเพลงซ้ำไปซ้ำมา แต่ให้ทราบว่า แต่ละขณะที่เสียงปรากฏ ไม่ใช่เสียงเดิม
เพราะฉะนั้นสิ่งใดก็ตาม ซึ่งเกิดแล้วดับหมดสิ้นไป หาไม่ได้อีกแล้ว นั่นคือความว่างเปล่า เพราะฉะนั้นชีวิตทั้งหมด ตั้งแต่ขณะปฏิสนธิ หาขณะปฏิสนธิไม่ได้แล้ว ขณะที่ปฏิสนธิจิตดับ แล้วภวังคจิตเกิดต่อ ก็หาปฐมภวังค์ไม่ได้อีก หรือขณะเมื่อสักครู่นี้ ซึ่งเหมือนกับเดี๋ยวนี้ที่เห็น แต่เป็นคนละขณะ คือ ขณะที่เห็นก่อนนี้ ไม่ใช่ขณะที่กำลังเห็นเดี๋ยวนี้ และเห็นขณะก่อนที่ดับ ก็ว่างเปล่าจริงๆ คือ ไม่มีอีกแล้ว แม้แต่สิ่งที่ปรากฏกับจิตเห็น วาระก่อนก็ว่างเปล่า คือ ว่าไม่ใช่รูปเดิม ที่จิตก่อนเห็นอีกแล้ว
เพราะฉะนั้นก็จะเห็นได้ว่า ชีวิตตลอดตั้งแต่เกิดจนตาย ว่างเปล่า เพราะเหตุว่าไม่มีสิ่งใดที่เหลือ ทุกอย่างเกิด และดับหมด แต่ว่ามีสิ่งซึ่งเกิดต่อ แล้วจิตก็เกิดขึ้นรู้อารมณ์ต่อไปเรื่อยๆ ในสังสารวัฏฏ์ ก็ดูประหนึ่งว่า ไม่มีอะไรซึ่งว่างเปล่า แต่ความจริงแล้ว ชั่วขณะซึ่งเกิดปรากฏ แล้วหมดสิ้นไป นั่นคือความหมายของว่างเปล่า
ผู้ฟัง มันเหมือนกันไหม กับโลกไม่ปรากฏ
ท่านอาจารย์ ชีวิตประจำวัน ขณะใดที่ไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ลิ้มรส ไม่คิดนึกใดๆ ทั้งสิ้น ไม่รู้อารมณ์ทางหนึ่งทางใดใน ๖ ทาง ขณะนั้นโลกปรากฏไหม ตอบเองนะคะ นี่ตอนหนึ่ง
ผู้ฟัง ไม่ปรากฏ
ท่านอาจารย์ แล้วก็ทั้งๆ ที่เห็นดับแล้ว ผู้ที่ประจักษ์จริงๆ ก็รู้ว่า ขณะเห็นขณะต่อไป ไม่ใช่ขณะก่อน สิ่งที่ปรากฏทางตา หรือจะเป็นเสียง หรือจะเป็นกลิ่น ก็ไม่ใช่อันเดิม เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่ปรากฏ ชั่วขณะที่ปรากฏสั้น เป็นปริตตธรรม สั้นมาก และก็ดับหมดไปเลย นี่คือความหมายของว่างเปล่า
ผู้ฟัง เพราะฉะนั้นที่ว่าว่างจากตัวตนนั้น นัยของคำว่า ว่างจากตัวตน หมายความว่าอย่างไร
ท่านอาจารย์ ถ้าว่างแล้ว จะมีตัวตนได้อย่างไร ก็สัมพันธ์กันไปหมดเลย สาระทั้งตัวตน ก็ไม่มีทั้งนั้น ในเมื่อว่าง
ผู้ฟัง นั่นหมายความว่า เห็นแต่สิ่งที่ปรากฏ เกิดขึ้นดับไปแล้ว ก็วางเฉย ใช่ไหม
ท่านอาจารย์ ทุกอย่างหมดเลยทุกขณะ
ผู้ฟัง ทุกอย่างหมดเลย ขอบคุณครับ
ผู้ฟัง แต่พอโลกว่างเปล่านี้ มันไปถึงสติปัฏฐานแล้ว ใช่ไหม อยากให้อาจารย์อธิบาย
ท่านอาจารย์ ก็ต้องเข้าใจความจริงของสภาพธรรม ตั้งแต่ขั้นฟัง ก่อนจะถึงสติปัฏฐานด้วยซ้ำไป ต้องเข้าใจความจริง และก็ต้องรู้ลักษณะของสภาพธรรมพอที่สติจะระลึก และก็รู้ความจริงอย่างนี้
ผู้ฟัง โดยที่ว่า ก็ต้องเป็นเรื่องเป็นราวอีก ว่าไม่ยึดมั่น ถือมั่น ว่าเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล
ท่านอาจารย์ บอกให้ไม่ยึด ก็ไม่ยึดไม่ได้ ต้องปัญญาเกิด