สภาพธรรมที่เข้าใจถูกในภพต่อๆ ไป
ผู้ฟัง เรื่องของการที่จะเกิดโกรธ เกิดชอบ ค่อนข้างที่จะเกิดขึ้น และลดลงไปได้รวดเร็ว ถ้าเผื่อสมมติกำลังของจิตที่เป็นกุศลเกิด ขณะนั้นจิตที่เป็นอกุศลก็ไม่เกิด ก็เพราะว่ากุศลเกิดต่อเนื่องกันมากกว่าอกุศลเกิด ตรงนี้เราจะพูดอย่างนี้ได้ไหม ถ้าพูดถึงกำลังของอกุศลที่เล็กๆ น้อยๆ
ท่านอาจารย์ ขณะที่กำลังฟังธรรม แม้ขณะนี้อกุศลเกิดบ้างหรือเปล่า
ผู้ฟัง มีครับ มีตลอด
ท่านอาจารย์ กำลังของใครมาก
ผู้ฟัง กำลังของอกุศลมาก
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นต้องรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง การดับกิเลสสามารถที่จะดับได้ แต่ต้องเป็นผู้ที่ตรง แล้วก็รู้ว่าขณะที่ฟังธรรมก็คือการอบรมความรู้ความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นปัจจัยให้มีการรู้ตรงลักษณะ ซึ่งขณะนี้ก็เป็นลักษณะของสภาพธรรมแต่ละอย่าง ปรากฏจริงๆ ทางตา มีลักษณะของสภาพธรรมปรากฏ ทางหู ก็มีลักษณะของสภาพธรรมปรากฏ เพราะฉะนั้นมีสภาพธรรมปรากฏโดยไม่รู้ลักษณะนั้นว่าเป็นธรรม เพราะฉะนั้นทั้งหมดที่เราฟังในแต่ละภพแต่ละชาติ เพราะว่าเราก็ไม่ทราบว่าเราจะมีอายุอีกนานเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นช่วงเวลาที่ยังมีอยู่ที่มีโอกาสจะได้ฟังพระธรรม ก็คือการสะสมความมั่นคงในการที่จะเข้าใจธรรมว่า เป็นธรรม เป็นอนัตตา ส่วนกำลังของปัญญาที่จะเพิ่มขึ้น แต่ละภพแต่ละชาติจนสามารถที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ก็แล้วแต่ว่ามีการสะสมความเข้าใจถูกมากน้อยแค่ไหน ระดับไหนด้วย แต่ต้องมีพื้นฐานที่มั่นคงคือสัจจญาณ เพราะว่าสิ่งใดๆ ก็ตามที่เราได้ฟัง เป็นเรื่องราว เป็นชื่อต่างๆ ของโลภะในพระไตรปิฎกพอเราจากโลกนี้ไปแล้วเราก็ลืม ชาติก่อนเราต้องเคยฟังพระธรรม ในภาษาอะไร เราบอกไม่ได้เลย แต่ว่า ถ้าเราเคยพูดภาษาบาลี เคยฟังธรรมภาษาบาลี ถ้าเราเกิดมา ยังคงพูดได้หรือเปล่า ภาษาบาลี ถ้าไม่เรียน นี่ก็แสดงให้เห็นว่าเรื่องของภาษาเป็นเพียงบัญญัติสมมติซึ่งมีการทรงจำช่วงขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ในการใช้ภาษานั้นๆ แต่ว่าสภาพธรรมที่สามารถจะเข้าใจถูก เวลาที่ได้ฟัง รู้ว่าทุกอย่างเป็นธรรม เพราะเหตุว่าเป็นสิ่งที่มีจริงแล้วก็ไม่มีใครสามารถบังคับบัญชาได้ด้วย และสิ่งที่มีปรากฏต้องเกิดขึ้น เพียงแค่นี้ ความเข้าใจของเราก็จะมั่นคงว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ที่ปรากฏ ต้องเกิด
ที่มา ...