เป็นแต่เพียงธรรม ไม่มีใครบังคับบัญชาได้


    สนทนาธรรมที่สหรัฐอเมริกา ๘


    ท่านอาจารย์ วันนี้เราก็ได้ศึกษาพระธรรมที่ทรงแสดงไว้ให้เราฟัง ๔๕ พรรษา เมื่อ ๒,๕๐๐ กว่าปี แล้วเราก็ยังมีโอกาสได้ยินได้ฟังเรื่องนามธรรม เรื่องรูปธรรม เรื่องจิต เรื่องเจตสิก แล้วเราก็จะศึกษาได้อีกต่อไปทั้งในชาตินี้ และชาติต่อๆ ไปด้วย ถ้าชาตินี้เราไม่ทิ้ง แต่ว่าถ้าชาตินี้เราได้ยินนิดหนึ่ง แล้วเราก็เบื่อ แล้วเราก็ไปสนใจอย่างอื่น ชาติหน้าไม่ทราบว่าจะได้ต่ออีกหรือเปล่า เพราะว่าไม่มีใครรู้ว่าเราจะอยู่ที่ไหน แล้วชาติหน้าจริงๆ จะเป็นเมื่อไร เย็นนี้ก็ได้ พรุ่งนี้ก็ได้ เมื่อไรก็ได้

    เพราะฉะนั้น โอกาสทองในชีวิต ซึ่งดิฉันคิดว่า ไม่มีอะไรที่จะประเสริฐเท่า แม้ว่าแก้วแหวนเงินทอง ก็ไม่ได้ให้ความสุขกับเราได้ตลอดกาล ชั่วขณะที่เราพอใจ แต่เวลาเรามีความทุกข์ แหวนเพชรนิลจินดาทำให้เราหายทุกข์หรือเปล่า หรือความทุกข์ก็ยังคงเป็นทุกข์ แต่ถ้าเราได้ฟังพระธรรมแล้วมีความเข้าใจ ไม่ว่าชาติไหน แล้วมีสติคือระลึกได้ถึงพระธรรม แล้วก็เห็นความจริงของธรรมว่า เป็นแต่เพียงธรรม ไม่มีใครบังคับบัญชาได้ เพราะว่าทุกคนปรารถนาสุขอย่างเดียว ไม่มีใครปรารถนาทุกข์เลย แต่ทุกชีวิตต้องมีทั้งสุข และทุกข์ตามเหตุตามปัจจัย ไม่มีใครทำให้ นอกจากจิตไม่ดีเกิดขึ้นเป็นเหตุ แม้ว่าจะดับไปแล้ว จิตต่อไปเกิดขึ้นสะสมสืบต่อไปทุกๆ ขณะ ก็เป็นปัจจัยทำให้จิตที่เป็นผลเกิดขึ้น ที่เราใช้คำว่าวิบาก คือ ผลของกรรม ขณะแรกที่สุด คือ ขณะเกิด นี่เป็นผลของกรรม เพราะว่าขณะนั้นเราไม่ได้ทำกรรมอะไรเลย แต่ว่ากรรมที่ทำแล้วทำให้จิตที่เกิดมีสภาพต่างกัน จิตที่ทำหน้าที่นี้มี ๑๙ ชนิด ประกอบด้วยปัญญาก็มี ไม่ประกอบด้วยปัญญาก็มี เป็นผลของอกุศลก็มี เป็นผลของกุศลระดับต่างๆ ก็มี

    เพราะฉะนั้น เราเหมือนกับอยู่ในโลกส่วนตัวของแต่ละคน คือ จิตแต่ละจิตจะไม่ก้าวก่ายกันเลย จิตของคนนี้เกิดแล้วก็ดับไป เห็นแล้วก็ดับ แล้วก็คิดเรื่องอะไรก็ตามแต่ ก็อยู่ตรงนี้ของคนนี้ ไปแลกเปลี่ยนกันไม่ได้ แต่จิตนี้สามารถจะคิดเรื่องคนอื่นได้ เรื่องความเป็นตัวตน เรื่องประเทศ เรื่องชาติ เรื่องอะไรก็แล้วแต่ เพราะฉะนั้น เราต้องสามารถแยกสมมติสัจจะกับปรมัตถสัจจะ ยิ่งเรียนก็ยิ่งมีคำเยอะ ก็ขอไว้โอกาสต่อไป

    ผู้ฟัง ทำไมคน ๑ คนที่เป็นชาวพุทธจะต้องเรียนพุทธศาสนา

    ท่านอาจารย์ ประการที่ ๑ ชื่ออะไรคะ ชื่อชาวพุทธ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องชื่อนี้ ชื่ออื่นไปเลย แต่ถ้าชื่อนี้เป็นชาวพุทธแล้วจะให้เรียนอะไร จะให้ฟังอะไร ถ้าไม่ฟังคำสอน เพราะฉะนั้น เราเคยเป็นชาวพุทธที่ไม่ได้ฟังคำสอนมานาน ต่อไปนี้เราก็จะได้รู้ว่าถ้าเราชื่อว่าชาวพุทธ เราก็ต้องฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมจนกว่าจะเข้าใจในคำสอนจริงๆ


    หมายเลข 9299
    21 ส.ค. 2567