อะไรประจักษ์แจ้งนิพพาน


    สนทนาธรรมที่สหรัฐอเมริกา ๑๐


    ผู้ฟัง มีคำถามว่าอะไรประจักษ์แจ้งนิพพาน มีคำตอบว่าจิต

    ท่านอาจารย์ ปัญญาเจตสิกที่เกิดกับจิต

    ผู้ฟัง ปัญญาเจตสิกที่เกิดกับจิต ไม่ใช่จิต ไม่ใช่โลกุตตรจิต

    ท่านอาจารย์ โลกุตตรจิตค่ะ ปัญญาระดับโลกุตตระ เพราะว่าถ้าเป็นปัญญาขั้นรู้การเกิดดับ รู้ลักษณะของนามธรรม และรูปธรรม เป็นปัญญาขั้นโลกียปัญญา แต่ปัญญาที่รู้แจ้งลักษณะของนิพพานเป็นโลกุตตรปัญญา เพราะฉะนั้น ทั้งจิต และเจตสิกทั้งหมดเป็นโลกุตตระ ไม่ใช่เฉพาะจิต หรือไม่ใช่เฉพาะเจตสิก แต่จิต และเจตสิกทั้งหมดที่เกิดร่วมกันเป็นโลกุตตระ เพราะว่าแม้แต่ผัสสะก็กระทบนิพพาน แม้แต่สัญญาเจตสิกก็จำลักษณะของนิพพาน เพราะฉะนั้น เมื่อมีนิพพานเป็นอารมณ์ ทั้งจิต และเจตสิกจึงเป็นโลกุตตระ

    ผู้ฟัง การประจักษ์แจ้งนิพพานก็จัดเป็นทั้งหมด ๔ ครั้ง

    ท่านอาจารย์ ความเป็นพระอรหันต์ ครั้งแรกก็เป็นพระโสดาบัน ดับเพียงแค่ความเห็นผิด ความไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ แต่ว่ากิเลสอื่นยังมี ยังเหลืออยู่ ที่จะต้องดับด้วยปัญญาที่เจริญขึ้น เพราะกิเลสนี้ก็มากมาย อวิชชาก็หนาแน่น ก็ต้องค่อยๆ เบาบางไปเป็นขั้นๆ เป็นลำดับ อย่างปัญญาของพระโสดาบันก็ไม่ใช่ปัญญาของพระสกทาคามี ซึ่งเป็นระดับสูงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง พระสกทาคามีมีความเบาบางในความติดข้องในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เบาบาง พอถึงพระอนาคามีก็ดับความพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ แต่ยังมีความยินดีในความเป็น ในชีวิต ต้องถึงพระอรหันต์ถึงจะหมด

    ผู้ฟัง กระผมอยากถามว่า พระอนาคามีทุกพระองค์ที่ไปอยู่สุทธาวาสนั้น ในสุทธาวาส ๖ ชั้น ...

    ท่านอาจารย์ สุทธาวาส ๕ ค่ะ

    ผู้ฟัง สุทธาวาส ๕ ชั้น แล้วก็พวกถึงอนาคามี จะมีวันเกิดใหม่ไหม

    ท่านอาจารย์ อาจจะเกิดในสุทธาวาสภูมิไม่ได้ เกิดในภูมิอื่น

    ผู้ฟัง เฉพาะอนาคามี

    ท่านอาจารย์ ที่ได้ปัญจมฌานด้วย รูปปัญจมฌาน

    ผู้ฟัง พระอนาคามีที่ไม่ได้ฌาน

    ท่านอาจารย์ เราต้องทราบเรื่องของฌาน คือ การอบรมความสงบของจิตจากรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส จนบรรลุถึงความสงบที่มั่นคงเป็นอัปนาสมาธิขั้นต่างๆ แต่ว่าปัญญาไม่ถึงระดับที่จะละความยินดี ติดข้องในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เป็นสมุจเฉท หมายความว่าโดยเด็ดขาด แต่ว่าผู้ที่เป็นพระอนาคามี ไม่ใช่ระงับความยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ชั่วคราวอย่างพวกที่ได้ฌาน

    เพราะฉะนั้น ความมั่นคงของความสงบ ต้องมีมาก ไม่ใช่ชั่วคราวอย่างผู้ที่เป็นคนที่ได้ฌาน เพราะฉะนั้น เวลาที่พระอนาคามีจุติจากโลกนี้ จะไม่เกิดในกามภูมิ เพราะไม่มีความติดข้องในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ

    ผู้ฟัง ถึงแม้จะไม่ได้ฌาน

    ท่านอาจารย์ แม้ว่าปกติจะไม่ได้ฌาน แต่ว่าเวลาที่โลกุตตรจิตเกิด ความแนบแน่นในอารมณ์ที่ประจักษ์แจ้งลักษณะของนิพพาน เท่ากับอัปนาสมาธิของฌานจิต เพราะฉะนั้น ก็เป็นเหตุที่ทำให้พระอนาคามีเกิดในรูปพรหมภูมิ

    ผู้ฟัง พูดได้ว่า พระอนาคามีทุกพระองค์ต้องเกิดสุทธาวาส

    ท่านอาจารย์ ไม่ใช่สุทธาวาส สุทธาวาสเป็นภูมิพิเศษ สำหรับพระอนาคามีที่ถึงปัญจมฌาน ยังมีภูมิของปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน เฉพาะปัญจมฌานจึงจะเกิดในสุทธาวาส แล้วต้องเป็นพระอนาคามีด้วย คือมีความบริสุทธิ์ถึง ๒ ขั้น


    หมายเลข 9301
    20 ส.ค. 2567