สนทนาธรรมที่สหรัฐอเมริกา ๑๐๑


    ผู้ฟัง ท่านอาจารย์แสดงว่า การที่จะศึกษาสติปัฏฐานสูตร ก็ควรจะเป็นบุคคลที่มีความมั่นคงในเรื่องของสภาพธรรมทั้งหลาย เพื่อที่จะไม่ต้องสงสัยว่า บรรพต่างๆ ที่ท่านแสดงไว้มีความหมายว่าอย่างไร เพราะว่าตามความเป็นจริงก็เป็นเรื่องของธรรมที่มีจริงทั้งหมด ไม่ใช่เป็นเรื่องของบัญญัติ ทีนี้ผมก็มีความสงสัยว่า บุคคลที่ควรจะศึกษาสติปัฏฐานสูตร หมายความว่าต้องเป็นบุคคลที่มีความเข้าใจธรรมอย่างมั่นคงที่สุดแล้ว หรือครับ

    ท่านอาจารย์ จริงๆ แล้วเราศึกษาสติปัฏฐานสูตรเพื่ออะไร ถ้าเรามีความรู้ความเข้าใจแล้วว่า ทุกอย่างที่มีจริง ไม่ใช่ตัวตน แล้วก็จะต้องอบรมเจริญปัญญาเพื่อที่จะรู้ความจริง เพราะฉะนั้น จะแยกโดยนัยไหนๆ เราก็มีความเข้าใจแล้ว ก็เพื่อให้รู้สภาพธรรมที่มีจริงที่กำลังปรากฏ ต้องใส่ชื่อไหมว่า ขณะนี้เรากำลังเป็นหรือว่าระลึกเป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน

    เพราะฉะนั้น ต่อให้จำแนกโดยนัยใดๆ ก็สามารถที่จะรู้ได้ว่า จุดประสงค์หรือความจริงขณะนั้น ที่ทรงแสดงอย่างนั้นเพื่ออะไร

    ผู้ฟัง ก็เหมือนกับว่า ถ้าเรามีความเข้าใจมั่นคงในเรื่องของสติปัฏฐานแล้ว ความจริงก็ไม่ต้องศึกษามหาสติปัฏฐานสูตร เพราะว่าความเข้าใจก็มีอยู่แล้ว

    ท่านอาจารย์ เมื่อมีความเข้าใจ จะรู้ไหมว่า ข้อความของทุกบรรพหมายความว่าอะไร แล้วทรงจำแนกๆ เพื่ออะไร เพื่อไม่ให้หลงลืม สราคจิตก็ไม่ให้หลงลืม ไม่ใช่บอกชื่อว่า อยู่ในหมวดนี้ อะไรๆ อย่างนั้น แต่ให้รู้ว่าขณะนี้มีหรือเปล่า แล้วก็ควรระลึกหรือเปล่า หรือว่าควรไปทำอย่างอื่น เพราะว่าไม่ชอบสราคจิต เมินเฉย เมินจากสภาพธรรมไปหาอะไรก็ไม่รู้ มีจริงแท้ๆ มีปัจจัยเกิดขึ้นเป็นไปก็ไม่ยอมจะรู้ จะไปทำอย่างอื่น แล้วเมื่อไรจะรู้ ก็มีแต่โลภะกับความเห็นผิดว่า เป็นเราที่จะเลือกที่จะทำ ทุกอย่างเพื่อตัวเอง เพราะความรักตัว ไม่ใช่เพราะความรู้ว่าเป็นธรรม ไม่มีตัว นี่คือความมั่นคง ไม่มั่นคงก็ไม่ถึง อย่างไรก็ไม่ถึง เพราะว่าสีลัพพตปรามาสมาแล้ว มาแล้วก็ไม่เห็นด้วย ปัญญาก็ไม่เกิด


    หมายเลข 9394
    21 ส.ค. 2567