พระอริยบุคคลที่ดับกิเลสมี ๔ ขั้น


    สนทนาธรรมที่สหรัฐอเมริกา ๒๐๕


    ความจริงมีพระอริยบุคคลที่ดับกิเลสมี ๔ ขั้น ไม่ใช่ว่าจากความเป็นปุถุชนก็ไปเป็นพระอรหันต์เลย ขั้นที่ ๑ เป็นพระโสดาบัน อาจจะชินหู แต่ว่าคิดว่าแบบพระอรหันต์ เพราะว่าคนมักจะบอกว่า ฉันไม่ใช่พระโสดาบัน อย่างกับไม่ใช่พระอรหันต์ เพราะว่าเขาคิดว่าต้องไม่โกรธ ไม่โลภ ไม่หลง ไม่อะไรเลยทั้งสิ้น แต่พระโสดาบันเพียงแต่ว่าอบรมเจริญปัญญารู้แจ้งสภาพธรรมที่เป็นอริยสัจจธรรมตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดง ดับความเห็นผิด ความไม่รู้ในลักษณะของสภาพธรรมที่ทรงแสดงว่า สภาพธรรมเกิดจึงปรากฏ

    นี่คะเราค่อยๆ ฟังไปทีละนิด แม้ว่าเราไม่ประจักษ์การเกิดเลย แต่เหตุผลมีไหมว่า สภาพธรรมที่ปรากฏเพราะเกิด ถ้าไม่เกิดจะปรากฏได้อย่างไร ต้องเกิดแล้วปรากฏ แล้วดับ เพราะฉะนั้น กว่าจะประจักษ์เกิด สภาพธรรมที่ปรากฏเกิดแล้วดับ จะยากสักแค่ไหน แต่จริง ทรงแสดงเหตุผลประการต่างๆ ให้เห็นถูกต้องตามความเป็นจริงว่า เป็นอย่างนั้น อย่างนั้น อย่างนั้น

    เพราะฉะนั้น แม้เพราะเหตุนี้พระผู้มีพระภาคทรงเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เราเริ่มเห็นพระคุณ แล้วก็ยังพระธรรมอีก ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ คุณมัณฑนาเคยพูดไหมคะ เคยสวดใช่ไหมคะ คำแปลก็คือ มีพระธรรมเป็นสรณะ แต่พระธรรมจะเป็นสรณะ พระพุทธเจ้าจะเป็นสรณะ พระสงฆ์จะเป็นสรณะได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่อริยะ อริยะ คือผู้ประเสริฐ ที่ภาษาไทยเราใช้คำว่า อารยะ มาจากคำว่าอริยะ แต่ประเสริฐคนละอย่าง อารยธรรมก็ประเสริฐทางโลก โลกชอบสิ่งใหม่ๆ ที่วิจิตร อะไรที่ใครทำให้วิจิตรขึ้นมาก็สรรเสริญ รางวัลที่ ๑ รางวัลชมเชย ก็แล้วแต่จะประดิษฐ์อะไรที่ใหม่ขึ้นมา นั่นทางโลก เป็นอารยะทางโลก ความเจริญทางโลก แต่ความเจริญทางจิตใจ ทางธรรม ต้องเป็นเรื่องของสภาพธรรมที่ไม่ใช่ความเจริญทางด้านวัตถุ แต่ว่าเป็นความเจริญที่ทำให้ผู้นั้นสามารถที่จะดับกิเลส ไม่เกิดอีกเลย เป็นขั้นๆ อย่างพระโสดาบันท่านก็ดับความเห็นผิด ความไม่รู้ในการเกิดดับของสภาพธรรม แต่ท่านก็ยังมีโลภะ โทสะ โมหะ จะเกิดอีกอย่างมากเพียง ๗ ชาติ ฟังแล้วไม่อยากเป็น ใช่ไหมคะ เกิดอีก ๗ ชาติ ดูสิ เราหมดสนุก หมดอะไรๆ ไปตั้งเยอะ แค่ ๗ จะพออย่างไร ประเดี๋ยวก็ชอบ ประเดี๋ยวก็ชอบ ประเดี๋ยวก็ชอบ แค่ ๗ ใช่ไหม เหมือนไม่อยาก แต่ไม่ต้องกลัว ไม่ถึง ไม่ถึงแน่นอน ถ้าเรายังอยากจะเกิด แล้วก็ไม่อยาก จะเป็นพระโสดาบัน ไม่มีทางถึง เพราะว่าไม่ใช่ถึงด้วยความอยากหรือไม่อยาก แต่ถึงด้วยการอบรมเจริญปัญญาถึงระดับที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมหรือยัง ถ้ายังไม่ถึง ไม่ต้องไปพยายามไขว่คว้า เหมือนกับมดตัวเล็กอยู่ข้างล่าง แล้วภูเขาหิมาลัยอยู่ข้างบน คนละเรื่องเลย แต่ถ้าค่อยๆ เดิน ค่อยๆ อบรมไปทีละชาติ ๒ ชาติ ปัญญานั่นแหละที่จะทำให้เราบ่ายหน้าไปสู่ทางที่จะดับกิเลส แล้วก็ค่อยคลายความติดข้องในความเป็นเรา ในการที่จะยังมีเราต่อไป


    หมายเลข 9552
    20 ส.ค. 2567