เทวดามีรูปกายไหม
ผู้ฟัง อยากทราบว่าเทวดามีรูปกายไหม เขาบอกว่ามีกายละเอียดกายหยาบ
ท่านอาจารย์ ถ้าพูดถึงสภาพธรรมจะต้องมีลักษณะที่ต่างกัน ๒ อย่าง นามธรรมกับรูปธรรม เพราะฉะนั้น บางภูมิที่เกิดของสัตว์ก็จะมีทั้งนามกาย และรูปกาย บางภูมิก็มีแต่รูปกาย ไม่มีนามกายซึ่งมีอยู่ภูมิเดียว คืออสัญญสัตตาพรหม ซึ่งมีแต่รูปไม่มีนาม และในอรูปพรหมภูมิก็มีแต่นามธรรมไม่มีรูปธรรม เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ใช่ภูมิ ๕ ภูมิ คือไม่ใช่อสัญญาสัตตาพรหมภูมิ ไม่ใช่อรูปพรหมภูมิ ๔ ภูมิที่เหลือทั้งหมดก็เป็นภูมิที่มีทั้งนาม และรูป ซึ่งขณะใดที่นามธรรมเกิดต้องอาศัยรูป และความวิจิตรของรูปก็ต่างกันไปตามภพภูมิด้วย มนุษย์ก็เป็นอย่างนี้ ภูมิสวรรค์ก็ต่างกันไป และอบายภูมิก็ต่างกันไป เพราะฉะนั้นเราจะค่อยๆ ศึกษาให้เข้าใจจริงๆ และเราก็จะรู้ความหมายของคำที่เราใช้ด้วย อย่างขณะนี้ที่เห็น ต้องเป็นอายตนะที่มีการประชุมรวมกันจึงเกิดเห็นโต๊ะ เก้าอี้จะมีอายตนะ หรือเป็นอายตนะไหม
ผู้ฟัง ไม่เป็น
ท่านอาจารย์ ถ้าไม่มีการรู้สิ่งนั้น ไม่มีการกระทบกับกายปสาทก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นจึงเข้าใจได้ ขณะใดก็ตามที่มีการรู้ สภาพรู้เกิดขึ้น ขณะนั้นก็เป็นอายตนะที่จะทำให้รู้สิ่งที่กระทบซึ่งก็เป็นอายตนะด้วย
เพราะฉะนั้นค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ เข้าใจไปในลักษณะของนามธรรม และรูปธรรมก็จะเข้าใจขึ้น แต่ว่าเพียงเรื่องราว จนกว่าจะรู้ลักษณะของสภาพธรรมก่อน แล้วจึงจะรู้ถึงความเป็นอายตนะของสภาพธรรมนั้นๆ
ผู้ฟัง อย่างนี้เทวดาก็มีร่างกายเหมือนกัน
ท่านอาจารย์ มีกี่ภูมิที่มีเฉพาะรูปอย่างเดียว และนามอย่างเดียว อสัญญสัตตาพรหมมีแต่รูป อรูปพรหมภูมิมีแต่นาม ที่เหลือต้องมีทั้งนามธรรม และรูปธรรม
ผู้ฟัง คำว่า “รูปธรรม” ของเทวดาเป็นเหมือนกายละเอียดหรือเปล่า
ท่านอาจารย์ เรามองไม่เห็น
ผู้ฟัง แล้วเป็นกายไหม
ท่านอาจารย์ ต้องเป็น เพราะประชุมรวมกัน
ผู้ฟัง แล้วจะมีธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม เหมือนกันหรือเปล่า
ท่านอาจารย์ แน่นอน รูปทั้งหมดมี ๒๘ ประเภทที่ทรงแสดงไว้ รูปปรมัตถ์ที่มีจริงๆ ๒๘ แต่ว่ารูปที่เป็นใหญ่เป็นประธาน ๔ คือธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ถ้ากล่าวว่าเป็นรูปที่ประธานหมายความว่า จะปราศจากรูปที่เป็นประธานไม่ได้เลย รูปอื่นทั้งหมดอีก ๒๔จะต้องเกิด หรือเป็นอาการของธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ซึ่งเป็นประธานนั่นเอง
ผู้ฟัง แสดงว่าเทวดาก็มี “กลาป”
ท่านอาจารย์ ต้องมี คือการฟังธรรม ต้องไม่ลืมตั้งแต่ต้น ต้องสอดคล้องตั้งแต่คำแรก เช่น รูปธรรม นามธรรม ภูมิที่มีขันธ์ ๕ คือมีทั้งรูปธรรม และนามธรรม ในภูมิที่มีขันธ์ ๕ นามธรรมที่เกิดต้องอาศัยรูป เหมือนกันหมดเลย คำนี้เปลี่ยนไม่ได้
เพราะฉะนั้นเมื่อเทวดาก็เป็นนามธรรม รูปธรรม อาศัยนามธรรมที่เกิด ก็ต้องอาศัยรูปด้วย และจะไปอาศัยรูปอื่นที่ไม่ใช่รูปที่ประชุมรวมกันที่เป็นกายของเทวดาก็ไม่ได้ ถ้าไม่มีสิ่งที่กระทบตาจิตเห็นเกิดได้ไหม
ผู้ฟัง ไม่ได้
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นเป็นปัจจัยให้เกิดจิตเห็นโดยเป็นอารมณ์
ที่มา ...