การฟังเหมือนการจับด้ามมีด
ผู้ฟัง ขณะเราคิดนึก ก็เป็นลักษณะที่คิดนึก ไม่ใช่ลักษณะของสภาพธรรมจริงๆ คือลักษณะที่เป็นนามธรรม และรูปธรรมจากความเข้าใจ สิ่งที่เราฟังมาก็ทำให้เราคิดนึก เพราะฉะนั้นเราคงเลี่ยงการคิดไม่ได้
ท่านอาจารย์ ไม่มีใครให้เลี่ยงเลย ทุกอย่างให้รู้ตามความเป็นจริงว่าไม่ใช่เราแต่เป็นสภาพธรรมแต่ละอย่าง ส่วนใหญ่จะมีตัวตนที่ไม่อยากให้คิดบ้าง อยากทำอย่างโน้นบ้าง อยากทำอย่างนี้บ้าง ไม่เห็นโลภะ ๘ ประเภทที่เรากล่าวถึงเลย ทั้งๆ ที่เราก็กล่าวมาตั้งนาน เป็นความติดข้องประกอบด้วยความเป็นผิด ไม่ใช่หนทางก็เข้าใจว่าเป็นหนทาง
ผู้ฟัง จากการศึกษาธรรม ถ้าเราจะศึกษาให้รู้เร็วๆ หรือเข้าใจเร็วๆ คงเป็นไปไม่ได้ ถ้าหากเรามีความมั่นคงในการศึกษาก็รู้ว่านี่เป็นหนทางที่ถูก การศึกษาเพื่อที่จะละแล้ว รู้สึกจะสบายกว่า
ท่านอาจารย์ ขณะนั้นจะไม่รู้เลยว่าพ้นจากโลภะมาระดับหนึ่ง คือไม่ใช่ให้เราไปทำสิ่งซึ่งไม่ใช่หนทางเลย แล้วก็เดือดร้อนใจด้วย แล้วก็เป็นทุกข์ด้วย เพราะว่ายังไงๆ ก็ไม่สมหวังแน่ โลภะจะทำให้เกิดปัญญารู้ลักษณะของสิ่งที่ปรากฏเป็นไปไม่ได้
ผู้ฟัง ถ้าจากการฟังแล้ว ทำให้เราเข้าใจว่าถ้าเราฟังแล้วเรามีความมุ่งหวังที่จะรู้อะไรเร็วๆ เป็นไปไม่ได้ และเป็นเรื่องยาก
ท่านอาจารย์ เป็นเครื่องกั้นทันที
ผู้ฟัง เพราะฉะนั้นการฟังเหมือนจับด้ามมีดจริงๆ
ท่านอาจารย์ ตรงตามที่ทรงแสดงทุกอย่าง
ผู้ฟัง เพราะฉะนั้นถ้าจะให้รู้เร็วๆ คงเป็นไปไม่ได้
ท่านอาจารย์ ถ้าเป็นไปได้ทุกคนก็รู้เร็วหมดใช่ไหม ใครจะอยากรู้ช้า
ที่มา ...