ทะนุถนอม-หวงแหน


    ผู้ฟัง มัจฉริยะต้องมีสัตว์ บุคคลเป็นอารมณ์ไหม อย่างเช่นในกรณีที่ไม่มีบุคคลที่สาม แต่ว่าเป็นสิ่งของ แล้วเราเกิดความเสียดาย ก็เก็บใส่ตู้เย็นไว้ ตัวเองก็ยังมีความรู้สึกว่า ในจุดนี้ก็คืออารมณ์ของมัจฉริยะคือตระหนี่แม้กระทั่งที่จะเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น

    ท่านอาจารย์ พอจะเอื้อเฟื้อแก่คนอื่น มีคนอื่นไหม

    ผู้ฟัง มี

    ท่านอาจารย์ กับการที่เราเก็บไว้เพราะเรายังพอใจในสิ่งนั้น คราวที่แล้วเราก็ได้พูดถึงคนที่รักของ และก็เก็บของที่รักอย่างดี เพราะว่าไม่ต้องการให้เสียหาย ก็ด้วยความพอใจ แต่ยังไม่ใช่มัจฉริยะ เพราะฉะนั้นโลภะก็จะทำให้เราติดข้องทะนุถนอมหวงแหน รักษาอย่างดี แต่ว่าจะมีมัจฉริยะก็เมื่อไม่ต้องการให้สิ่งนั้นสาธารณะทั่วไปกับบุคคลอื่น ต่างขณะ

    ผู้ฟัง แล้วก็ต้องมีบุคคลหรือบุคคลที่สาม อย่างเช่นคราวที่แล้วพูดถึงเมตตาก็ต้องมีสัตว์ มีบุคคลเป็นอารมณ์ อันนี้ก็เหมือนกันหรือคะ

    ท่านอาจารย์ ถ้าเรามีเสื้อสวยๆ ซักเองทะนุถนอม เราก็ไม่ได้คิดถึงว่า เราจะต้องไปหวงแหนอะไร แต่ว่าเราอยากจะให้สิ่งนั้นคงทนอยู่นานๆ

    ผู้ฟัง อันนั้นก็ตระหนี่เหมือนกันหรือ

    ท่านอาจารย์ โลภะติดข้องสิคะ เพราะฉะนั้น ก็เห็นโลภะว่าเราติดแค่ไหนตามความเป็นจริง ถ้าใครมาเช้าก็จะเห็นคุณหมอฉีดน้ำดอกไม้ ตระหนี่หรือว่ายังไง หรือว่าเป็นกุศล หรือว่าเป็นอะไร พอใจที่จะให้สิ่งนั้นคงอยู่ในสภาพนั้น ทะนุถนอม และด้วยการบูชา ด้วยกุศลจิตก็ได้ เพราะฉะนั้น ไม่มีใครสามารถที่จะไปรู้จิตของใครได้ เพราะว่าแม้แต่จิตของแต่ละคนก็เกิดดับสลับกันเร็วมาก เหมือนเห็นพร้อมกับได้ยิน พร้อมกับคิดนึกเรื่องราวต่างๆ ทั้งๆ ที่กำลังคิดนึกเรื่องราวต่างๆ ก็ยังเห็นอยู่ ก็แสดงให้เห็นว่าจิตเกิดดับรวดเร็วมาก


    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 160


    หมายเลข 9787
    31 ส.ค. 2567