ไม่ตามสิ่งที่ผิด



    ผู้ฟัง ขอกราบเรียนถามท่านอาจารย์ อาจจะเป็นความเห็นส่วนตัวสักเล็กน้อย บางครั้งจะมีความรู้สึกว่า การจะนำพระธรรมคำสอนมาใช้ในชีวิตประจำวัน หรือว่าใช้ในเชิงวิชาชีพ มันเป็นสิ่งที่ยาก แล้วบางครั้งเวลาเราทำ เราก็จะมีความรู้สึกสงสัย ไม่แน่ใจว่า ถูกต้องหรือเปล่า แล้วการให้ความรู้คนผิดๆ ก็คงจะเป็นโทษอย่างมหันต์ ความลังเลสงสัย ไม่แน่ใจมันจะเข้ามาตลอดเวลา แล้วบางครั้งเราก็รู้สึกว่า เราจะสวนกระแสไหวไหม เพราะว่ากระแสทางโลกยุคปัจจุบัน ต้องการอะไรที่ง่ายเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ สะดวกสบาย แล้วก็ธรรมอยู่ในกระแสของความคิดของคนไทยว่า เป็นเรื่องที่ง่ายไปเสียแล้ว ก็เลยรู้สึกว่า บางทีก็พบอุปสรรคมากเหลือเกินในการทำงาน เพื่อพระศาสนา ขอกราบเรียนถามว่า ความสงสัย ความลังเลใจ มันเป็นตัวที่บั่นทอนพอสมควร

    ท่านอาจารย์ วิธีที่จะหายสงสัย คือเราศึกษาเพิ่มขึ้นจนกระทั่งความสงสัยลดน้อยลงไป แต่ว่าเราก็คงจะไม่ลืมว่า โลกยุคนี้เป็นยุคเสื่อมของพระศาสนา อีกไม่นานเลยพระศาสนาจะอันตรธาน มีพระไตรปิฎกจริง มีอรรถกถาจริง มีตำราจริง แต่ไม่มีความเห็นถูกตามตำรา หรือว่าตามพระไตรปิฎกนั้น ก็เท่ากับว่าเพิ่มความเห็นผิดอย่างรวดเร็วมาก ยิ่งความเห็นผิดแพร่หลายมากเท่าไร ก็บั่นทอนความถูกต้องของพระศาสนามากเท่านั้น ซึ่งเราไม่มีทางจะไปทำอะไรได้เลยกับจิตใจของคนกับยุคสมัยของโลก แต่เราสามารถจะช่วยตัวเองได้ โดยการที่ว่าเป็นคนหนึ่งที่ไม่เห็นผิด ต้องอาจหาญร่าเริงกล้าหาญจริงๆ ต่อการที่จะอยู่ฝ่ายถูก ถ้าเราเห็นอย่างนี้คงไม่มีใครเอาเราไปฆ่าตาย ถ้าจะไม่ได้ลาภ ไม่ได้ยศ ไม่ได้สรรเสริญเพราะสอนถูก ก็ไม่เห็นเป็นไร เพราะเราไม่ได้ต้องการลาภ ยศ สรรเสริญจากพระศาสนา หรือจากใดๆ เพราะว่าต้องเป็นเรื่องละ

    สิ่งหนึ่งซึ่งทุกคนจะหลงทางจากพระศาสนา ก็คือว่า คำนึงถึงตัวเอง แล้วเป็นผู้ที่ติดในลาภ ยศ สรรเสริญ สักการะ แต่ถ้าเป็นผู้ที่เป็นเรื่องละโดยตลอด จะเห็นว่าลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย แล้วก็หมด ไม่เห็นมีอะไรที่ยั่งยืน การสรรเสริญจริงๆ สรรเสริญคุณความดี หรือว่าสรรเสริญเกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง ลองคิดดู ใครก็ตามที่มีเกียรติยศใหญ่ มีชื่อเสียงมาก มีเงินทองมหาศาล ก็เป็นที่ติเตียนในความประพฤติที่ไม่ดี ทางกายวาจา และรวมไปถึงใจด้วย ถ้าเป็นผู้ที่โหดร้าย แต่ว่าผู้ที่เป็นผู้ที่ดี เป็นกุศล ถึงจะไม่มีลาภ ยศ สรรเสริญ สุขอย่างนั้น แต่ก็ไม่มีใครไปติเตียน สิ่งหนึ่งที่เป็นอันตราย แม้แต่ผู้ที่ศึกษาธรรม ก็คือ การติดในสักการะ ในลาภ ยศ สรรเสริญ

    เพราะฉะนั้น ต้องเป็นผู้ที่มั่นคงจริงๆ เพื่อการละ ไม่ว่าจะศึกษา ไม่ว่าจะทำงานเผยแพร่ศาสนา ก็เป็นไปเพื่อการละ แต่ถ้าเป็นผู้ที่มีความเห็นถูกต้องจริงๆ จะเห็นคุณประโยชน์ของการเป็นผู้ที่มั่นคงในทางที่ถูกต้อง วันหนึ่งข้างหน้าก็จะได้ประโยชน์ใหญ่จริงๆ ที่จะเป็นผู้ที่ไม่ตามสิ่งที่ผิด หรือว่าตามหมู่คณะในทางที่ผิด เป็นผู้ที่กล้าที่จะยืนอยู่ในทางที่ถูกได้ ต้องเป็นที่สรรเสริญแน่ สำหรับผู้ที่มั่นคง


    หมายเลข 9791
    18 ส.ค. 2567