เหตุใดผู้หญิงไม่ควรบวช
ผู้ฟัง ขออนุญาตเรียนถามท่านอาจารย์ ถ้าไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ ก็ไม่อยากคิดถึง แต่พอพูดถึงก็เลยคิด คิดแล้วก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่า กรณีที่ถามถึงว่า ผู้หญิงบวช ในส่วนตัว จะมีความรู้สึกว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นหญิงหรือชายที่จะได้ศึกษาหรือได้เรียนรู้ หรืออะไรในเรื่องของพระธรรม พูดถึงจุดนี้ก็เลยอยากเรียนถามว่า พระพุทธเจ้า คือตัวเองยังไม่เคยศึกษาในลักษณะนี้ ท่านมีเหตุผลหรือมีการคิดที่ท่านคิดอย่างไรถึงจะต้องเป็นผู้ชายที่บวช เพราะว่าพอฟังแล้ว ให้คำตอบตัวเองไม่ได้ว่า ทำไมถึงไม่ให้ผู้หญิงบวช แล้วผู้หญิงถูกยกย่องอยู่แล้ว แต่ทำไมต้องจำกัดว่า เป็นผู้ชายบวช หมายถึงถ้าไม่คิดในแง่ของการศึกษาพระธรรม ในแง่ของการบวชเป็นพระ
ท่านอาจารย์ ขอเชิญคุณสุภีร์คะ
อ.สุภีร์ เพราะว่าการที่จะประพฤติปฏิบัติในเพศของบรรพชิต ซึ่งต่างจากเพศของคฤหัสถ์ เพศของคฤหัสถ์มีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย อาหารเอย อะไรเอยก็สะดวกสบาย แต่เพศบรรพชิต อาหารก็หาลำบาก สิ่งต่างๆ เครื่องนุ่งห่ม อะไรทุกประการก็ลำบากมาก ฉะนั้นผู้ที่จะบำเพ็ญวัตรปฏิบัติในเพศบรรพชิตที่บริบูรณ์ได้ ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งมาก แล้วก็ต้องมีกำลังกายที่เหมาะสม มีจิตใจที่เข้มแข็ง ก็คืออยู่ในกาลสมัยที่สามารถบรรลุธรรมได้ แล้วก็ต้องมีความอดทนในเรื่องของร่างกาย จึงจะสามารถที่จะประพฤติวัตรปฏิบัติให้ถูกต้องตามธรรมวินัยได้
ฉะนั้นเพศหญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ จึงไม่สามารถที่จะประพฤติปฏิบัติให้เต็มได้ ในเมื่อตอนหลัง ๆ ยุคหลังๆ ที่ไม่มีปัญญาพอ เมื่อผู้หญิงบวชเข้าไปแล้ว ต้องลำบากมากในการเป็นอยู่ เพราะว่ามีอันตรายมาก เพราะเหตุว่าเป็นคนที่ร่างกายอ่อนแอ แล้วก็อาจจะมีพวกบุรุษ พวกอะไรต่างๆ คนที่ไม่ดีก็มีเยอะในบ้านเมือง ก็อาจจะทำร้ายได้ อะไรได้ ก็ต้องอยู่ในสถานที่ที่พระภิกษุอยู่ อันนี้เป็นเหตุผลที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ต้องการให้บวช เพราะเหตุว่าเป็นเพศที่อ่อนแอเหมือนกับว่าบ้านเรือนไหนที่มีผู้หญิงมาก มีคนอ่อนแอมาก โจรก็สามารถที่จะเข้าไปปล้น ไปอะไรได้ หรือนาข้าวมีหนอน มีอะไรที่คอยชอน คอยไช คอยเจาะอยู่ ข้าวกล้าก็ไม่สมบูรณ์ ไม่บริบูรณ์ พระธรรมวินัยนี้ก็เช่นเดียวกัน ถ้ามีเพศสตรีที่ไปบวช ก็จะเป็นเช่นนั้น ถ้าทุกท่านค่อยๆ พิจารณาก็จะสามารถเห็นได้ครับ
ท่านอาจารย์ การบรรลุคุณธรรมเป็นพระอริยบุคคลไม่ได้จำกัดเพศ และไม่ได้จำกัดกาลด้วย เพราะฉะนั้น ผู้ที่ได้ฟังพระธรรมในครั้งพุทธกาล ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ที่บวชก็มี ที่ไม่บวชก็มี ไม่ใช่ว่าต้องบวชเสมอไป หรือถึงแม้ว่าในสมัยนี้ถึงไม่บวชเลย ทั้งชายทั้งหญิงที่อบรมเจริญปัญญาก็รู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับการสะสมของแต่ละคน
ที่เราจะมีความเห็นถูกเพิ่มขึ้น เราก็คงจะต้องความเข้าใจว่า เรามีความเห็นผิดอะไรที่ยังเหลืออยู่บ้างที่จะต้องทิ้งไปก่อน แล้วเราถึงจะรับสิ่งที่ถูกต้องเพิ่มขึ้นได้ เพราะว่าถ้าเรายังมีความเห็นผิดเหลืออยู่ เราก็ยังเก็บความเห็นผิดๆ นั้นไว้ แล้วความเห็นถูกก็ไม่สามารถที่จะเจริญได้ เพราะว่าความเห็นถูกต้องไม่เหมือนกับความเห็นผิด
ธรรมถ้าเอาบุคคลเอาชื่อออก เป็นธรรมล้วนๆ จะสะดวกต่อการที่จะเข้าใจ