บุญชำระใจ
ต้องเข้าใจจริงๆ ทุกอย่างที่เรามีโอกาสฟัง ประโยชน์ คือ ความเข้าใจถูก ความเห็นถูก เพราะฉะนั้น ก็ไม่ข้ามแต่ละคำ บางท่านก็บอกว่า ทำไมทุกคำควรจะเข้าใจ แต่ว่าทุกคำที่ฟังนั้นเข้าใจหรือ หรือไม่เข้าใจ แต่ก็ผ่านไป แม้แต่คำว่า “บุญ” เข้าใจว่าอย่างไร บุญกับบาปตรงกันข้ามกัน บาปเป็นสิ่งที่มีโทษ เศร้าหมอง ไม่สะอาด แต่บุญสะอาด ไม่เศร้าหมอง ไม่มีโทษ ตรงกันข้าม ถ้าไม่เข้าใจอย่างนี้ ทำบุญเพื่ออะไร
เพราะฉะนั้น จึงต้องรู้จริงๆ ว่า จิตใจเป็นอย่างไร สะสมความไม่ดีมากมาย แล้วจะชำระจิตนั้นให้สะอาดขึ้นได้ด้วยอะไร จึงเป็นผู้ที่ทำบุญ คือ ความดีเพื่อขัดเกลาอกุศล ถ้าอยากได้บุญมาก คนนั้นต้องการอะไร ถ้าไม่รู้ว่า ทำบุญทำไม และบุญคืออะไร ถ้าไม่ทำ ขณะนั้นเป็นอะไร ก็เป็นอกุศลเพิ่มขึ้น แล้วจะเอาอะไรไปชำระล้าง
เพราะฉะนั้น คนที่เห็นโทษของอกุศล ก็เห็นประโยชน์ของบุญ คือ การชำระล้างอกุศล จึงทำแต่สิ่งที่ดี ถ้าเข้าใจถูกต้องก็จะทำให้มีการชำระล้างจิตใจที่ไม่สะอาดจริงๆ นั่นคือผล แต่ไม่ใช่ต้องการอะไร เพราะถ้าต้องการ ก็เป็นการสะสมอกุศลต่อไปอีก ซึ่งไม่มีทางเลยที่จะเอาอกุศลนั้นๆ ออกไปได้ นอกจากความเห็นถูก ความเข้าใจถูก แม้แต่ในการกระทำที่ชื่อว่า บุญ ไม่ใช่เขาบอกว่า บุญ เราก็บุญ
เพราะฉะนั้น ทุกคำที่พระผู้มีพระภาคตรัส ผู้ฟังไม่ว่าจะเป็นมฆมานพหรือใครก็ตาม ต้องเข้าใจ ไม่ใช่ฟังเฉยๆ
เพราะฉะนั้น ตอนนี้ก็รู้แล้วว่า บุญคืออะไร ที่ฟังธรรม เพราะรู้ว่า ไม่รู้จักธรรม ไม่ฟังธรรม ไม่เข้าใจธรรม ก็ทำให้เกิดอกุศลมากมาย เพราะฉะนั้น อกุศลทั้งหลายจะลดน้อยลงไปได้ด้วยปัญญาที่เห็นถูก เข้าใจถูก
เพราะฉะนั้น ก็รู้จักบุญจริงๆ ว่าไม่ใช่ทำเพื่อหวังประโยชน์อื่นใดทั้งสิ้น แต่ทำเพราะจิตใจเต็มไปด้วยอกุศล ไม่มีทางอื่นจริงๆ ที่ทำให้จิตสะอาดขึ้น นอกจากความเห็นถูก ความเข้าใจถูก โดยไม่หวังว่า ทำอย่างนี้เพื่อจะได้อย่างไร ถ้าอย่างนั้นแล้วก็ไม่ได้ละคลายอะไร นอกจากเพิ่มความติดข้องขึ้น
พอพูดถึงบุญ เรารู้เลย ใครทำบุญ ทำอะไร เป็นบุญหรือเปล่า ถ้าขณะนั้นทำด้วยความต้องการ ไม่มีทางเป็นบุญ เพราะเหตุว่าไม่ได้ชำระล้างความต้องการ คืออกุศลเลย