ฟังธรรมสนุกไหม


    ท่านอาจารย์ วันนี้ฟังธรรมสนุกไหมคะ ก่อนจะฟังต่อไป ที่ฟังมาแล้วสนุกไหมคะ หรือไม่สนุก ต้องตามความเป็นจริง สภาพธรรมเกิดแล้ว ใครรู้ ก็ตัวเองรู้ ฟังแล้วเบื่อหรือเปล่า พูดซ้ำๆ เรื่องสิ่งที่มีจริงเท่านั้นเอง ไม่ได้พูดเรื่องอื่นเลย แล้วคำที่ได้ยินก็ได้ยินมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน สนุกไหมคะ

    อ.กุลวิไล เป็นการเห็นถูกในสภาพธรรมตามความเป็นจริง สนุกเพราะติดข้องหรือเปล่า หรือเพราะว่าเข้าใจในสิ่งที่ทรงแสดง

    ท่านอาจารย์ บางวันสนุก บางวันไม่สนุกหรือเปล่า หรือบางวันก็สนุกน้อย นิดๆ หน่อยๆ บางวันก็สนุกมาก มีเสียงหัวเราะ มีเรื่องนั้นเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น วันนี้ผ่านมาแล้ว พอจะรู้ไหมว่า ได้ฟังธรรมแล้วสนุกไหม บางคนบอกว่า ซ้ำๆ ๆ เมื่อไรก็ซ้ำ วิทยุก็ฟัง ก็เรื่องนี้แหละก็ซ้ำ เพราะฉะนั้น วันนี้ทั้งวันเหมือนเดิม ซ้ำอีกแล้ว สนุกไหม ถ้าไม่สนุก ดีไหม ลองคิด เห็นไหมคะ เป็นเรื่องของการไตร่ตรอง เป็นเรื่องของปัญญาจริงๆ เราตามโลก และตามกิเลสมามาก จนเราไม่ได้คิดเลยว่า อะไรเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ แม้ฟังธรรม บางวันสนุก บางวันไม่สนุก บางวันสนุกมาก ก็ถามว่า สนุกดีไหม เริ่มรู้แล้วว่า ฟังธรรมแล้วยังอยากสนุกด้วยในสิ่งที่ฟัง ไม่ได้ฟังแต่สิ่งที่เป็นความจริง เกิดแล้วแก่ แล้วก็เจ็บ แล้วก็ตาย แล้วก็ไม่สามารถเอาอะไรไปได้เลย แม้แต่ร่างกายขณะนี้ก็ไม่ใช่ของเรา ที่ยังเคลื่อนไหวไปได้ พูดได้ ทำอะไรได้ ก็เพราะจิต ฟังอย่างนี้ แต่เข้าไปถึงในใจมั่นคงแค่ไหน ที่จะเห็นโทษของการที่ว่า แล้วเกิดมาทำไม เกิดมาเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ติดข้อง ไม่รู้ความจริง แล้วยังเกิดมาเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ติดข้องอีก เกิดมากินแล้วก็นอน ถูกต้องไหมคะ แต่ติดข้องด้วย ตื่นขึ้นมาอีกก็กินอีกแน่นอน หลายมื้อ แล้วก็นอนอีก แค่นี้เอง แล้วเกิดมาทำไม

    เพราะฉะนั้น ก็จะเห็นได้จริงๆ ว่า การฟังธรรม ประโยชน์อยู่ที่เข้าใจมั่นคงขึ้น แต่ถ้าใครวันนี้ไม่สนุก ไม่ใช่ชาดก ไม่ใช่เรื่องราว เห็นโลภะไหมคะ แม้ฟังธรรม ก็ยังต้องการ ซึ่งไม่รู้เลยว่า อยากได้ยินเรื่องสนุกๆ เรื่องที่เพลิดเพลิน

    เพราะฉะนั้น ถ้าไม่เห็นโลภะจริงๆ จะหมดโลภะได้อย่างไร โลภะมีแน่นอน เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ไม่มีใครเห็นโลภะตามความเป็นจริง เพราะฉะนั้น ก็ฟังธรรม ไม่ใช่เพียงแต่ว่า บางวันสนุก บางวันไม่สนุก แต่สาระอยู่ที่เข้าใจเพิ่มขึ้น และมั่นคงขึ้น

    ผู้ฟัง ท่านอาจารย์ถามว่า ฟังธรรมสนุกไหม จากที่ได้ฟังรู้ว่า มีความปีติ และชื่นชมยินดี แต่คำว่า สนุก ไม่เข้าใจว่าเป็นอย่างไร

    ท่านอาจารย์ ฟังพระธรรมมีหลายเรื่อง เรื่องชาดกก็มี เรื่องคนที่เป็นทาสี ในอดีต คิดจะผูกคอตายก็มี เป็นเรื่องจริง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ได้เห็นความหลากหลายของชีวิตทั้งในอดีต และแม้ในปัจจุบันด้วย บางเรื่องเศร้ามาก ไม่สนุกเลย บางเรื่องก็สนุกรื่นเริง ไปเที่ยวกันไหม ประเทศนั้นประเทศนี้ เป็นเรื่องสนุกหรือเปล่า

    เพราะฉะนั้น ก็จะเห็นได้ว่า ต้องเป็นผู้ตรงตามความเป็นจริงว่า ธรรมเป็นธรรม ความสนุก ความติดข้อง เพลิดเพลินมีจริงๆ เป็นธรรมซึ่งต่างกับความโศก ความทุกข์ต่างๆ

    เพราะฉะนั้น ทุกอย่างใครจะบังคับบัญชาไม่ได้ ชีวิตก็เปลี่ยนไปแต่ละชาติ แล้วยังชาตินี้ แต่ละวัน แต่ละขณะก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ นี่ก็แสดงให้เห็นว่า สนุกไหม หรือไม่สนุกเลยเกิดมาเป็นอย่างนี้ แต่จะว่าไม่สนุกเลย เป็นไปได้ไหม เพราะเหตุว่ามีบางขณะที่เพลิดเพลิน มีความพอใจ ก็ต้องตามความเป็นจริงว่า ขณะนั้นสนุกหรือเปล่า ไม่ใช่กำลังเพลิดเพลินแล้วบอกว่า ไม่สนุกเลย กำลังเพลิดเพลินก็เป็นความสนุก และเป็นความติดข้องด้วย ก็เป็นความจริง ต้องตรงตามความเป็นจริง

    เพราะฉะนั้น ที่ถามว่า ฟังธรรมแล้วสนุกไหม ผู้นั้นขณะนั้นต้องมีสติ สามารถรู้ลักษณะนั้น ซึ่งต่างกับลักษณะอื่นตามความเป็นจริง ฟังแล้วเป็นทุกข์ไหม ก็ต้องเป็นปัญญาอีกว่า ขณะที่ฟังมีความขุ่นใจ หรือเศร้าหมอง หรือเสียใจ ผิดหวัง เกิดขึ้นหรือเปล่า เพราะเหตุว่ายากจริงๆ ไม่มีอะไรยากเท่ากับเข้าใจ เห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏทุกวัน เห็นทุวันตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งถึงเดี๋ยวนี้ ก็ยังไม่รู้ความจริงของเห็น เสร้าไหม เสียใจไหม หรือว่าเบิกบานที่ยังมีโอกาสได้ฟังให้จะเข้าใจขึ้น นี่ค่ะ ก็ต้องเป็นผู้ที่ตรง

    เพราะฉะนั้น แม้แต่คำถามก็ทำให้สามารถเป็นผู้ตรงได้


    หมายเลข 9898
    19 ก.พ. 2567