ฟังเพื่ออะไร
ท่านอาจารย์ จุดประสงค์ของการเรียน เพื่ออะไร
ผู้ฟัง เพื่อว่าไม่เคยเข้ามาในนี้เลย เป็นศาสนาพุทธมาตั้งแต่เกิด แต่พอวันนั้นได้ไปฟังอภิธรรม นี่ใช่แล้วตัวเรา เราคิดอย่างนี้ทุกอย่าง แต่เราไม่เคยเจอคำพูดอย่างนี้ ได้เริ่มเรียนตรงนี้ ตัวเองก็รู้ว่าสายไปหน่อย สายไป ก็อยากจะเรียนไปให้รู้
ท่านอาจารย์ ต้องพิจารณาว่า เราเรียนเพื่ออะไร คือการกระทำทุกอย่างจะสำเร็จได้ เมื่อเรารู้จุดประสงค์ที่แท้จริง ถ้าเรายังไม่รู้จุดประสงค์ มันไปไหน เรียนไปตรงไหน เรียนไปทำอะไร เพราะฉะนั้น แม้แต่การเรียน ซึ่งบางทีเราอาจจะข้ามไป คิดว่าก็มีประโยชน์ดี ดีกว่าไม่เรียน แต่ถึงกระนั้นความละเอียดของพระธรรม ที่จะทำให้เราเข้าถึงพระธรรมจริงๆ ก็ต้องรู้ก่อนว่า เราเรียนทำไม เรียนเพื่ออะไร
ผู้ฟัง คือที่ฟังมาทั้งหมด แล้วก็ฟังเทปของท่านอาจารย์มานานพอสมควร สิ่งที่ข้องใจอยู่ในตัวก็คือ ขณะนี้ เราไม่สามารถ ตัวเราเอง เราเรียนไปเพื่ออะไร อันนี้ถามอยู่ในใจตลอด ทีนี้ วันนี้ ขอถามเลยว่า เราควรเรียนเพื่ออะไร แต่ที่ผ่านมา ถามว่าเรียนเพื่ออะไร สิ่งที่เราได้กับตัวเองนั้นก็คือ การขัดเกลาตัวเองไปตั้งหลายอย่าง และสามารถตัดสินใจตัวเองว่า เรากำลังทำ สิ่งที่เราทำ เหมือนกับมีคนมาชวนไปไหนสักอย่าง เราจะรู้เลยว่า เราควรปฏิเสธ หรือเราควรตอบรับ อันนั้นบอกว่าเป็นประโยชน์ในการที่เรียนมานี้มาก แต่วันนี้ก็อยากทราบเหมือนกันว่า เราควรเรียนเพื่ออะไร และการปฏิบัตินั้นควรทำอะไรมากไปกว่านี้บ้าง
ท่านอาจารย์ เรื่องของธรรม ถ้าเพียงฟัง ซึ่งทุกคนชอบฟัง แต่ฟังแล้วต้องคิด เพราะอะไรคะ เป็นปัญญาของผู้ฟัง ถ้าไม่คิด เป็นปัญญาหรือเป็นเรื่องราวของผู้พูด ผู้พูดจะพูดอะไรก็ได้ คนฟังก็ฟังไป แต่การที่พุทธศาสนาต่างกับศาสนาอื่น ก็คือว่า เมื่อผู้ที่ไปเฝ้าฟังพระธรรมแล้วเกิดปัญญาของตัวเอง แต่ปัญญาของตัวเองไม่ใช่ได้มาง่ายๆ จากการฟัง ฟังคือหูได้ยิน ต่างคนต่างได้ยิน ต้องต่างคนต่างคิดพิจารณาในสิ่งที่ได้ฟังด้วย มิฉะนั้นแล้วจะไม่ใช่ปัญญาของเราแน่นอน ฟังมาว่าอย่างไรก็จำไว้แล้วก็พูดอย่างที่จำ มันไม่ใช่ปัญญาของเรา แต่ว่าขณะใดที่ฟังแล้วก็พิจารณาเหตุผล เริ่มมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ขณะนั้นเป็นปัญญา ซึ่งสมบัติหรือมรดกซึ่งทุกคนจะได้รับจากพระศาสนา หรือจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติ เพราะทุกสิ่งเหล่านี้ได้มาแล้วก็สูญไป หมดไปได้ จากไปทางหนึ่งทางใดก็ได้ ทั้งที่ยังมีชีวิต หรือว่าหมดชีวิตแล้ว แต่ว่าสิ่งหนึ่งซึ่งประเสริฐกว่านั้นคือปัญญา ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
เพราะฉะนั้น ต้องทราบว่า เรามีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ไม่ใช่เพื่อไปขอลาภ ขอยศ ขอหายป่วย ขออะไรต่างๆ ทั้งหมด แต่เพื่อได้รับปัญญาจากที่ทรงบำเพ็ญพระบารมีแสนนาน เพื่อที่จะบรรลุถึงปัญญาที่เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สามารถจะมีพระญาณทรงรู้อัธยาศัยของผู้ฟัง ทรงแสดงธรรมให้คนอื่นเกิดความเข้าใจถูก เป็นปัญญาของตัวเอง
นี่คือขณะใดที่เป็นอย่างนี้ นั่นคือผู้ที่ได้รับมรดกธรรจากพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นฟังเพื่ออะไรคะ
ผู้ฟัง ฟังเพื่อให้เกิดปัญญา ในขณะที่ฟังควรจะพิจารณาไปด้วย