ธรรมเป็นเรื่องละเอียด ลึกซึ้ง มีอยู่ตลอดเวลา
ธรรมเป็นเรื่องละเอียด ลึกซึ้ง และก็มีอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยขาดเลย แต่ว่าถ้าไม่ศึกษาให้เข้าใจจริงๆ ก็จะไม่ถึงแม้แต่ความหมายของคำว่า "ธรรม" เพราะเหตุว่าถ้ากล่าวถึงธรรมแล้วก็เป็นอนัตตา คือไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล เพราะฉะนั้นขณะที่กำลังฟัง ประโยชน์ก็คือว่าแม้ฟังอยู่แต่การที่จะเข้าถึงความเป็นธรรม หรือความเข้าใจสิ่งที่มีว่าเป็นธรรม เราถึงระดับไหน ขณะนี้มีธรรม ฟังเข้าใจ ไม่เคยขาดธรรมเลย
แต่ความเข้าใจของเรา ปัญญาของเรา ถึงลักษณะที่เป็นธรรมแค่ไหน เช่น ในขณะที่กำลังเห็น เป็นธรรม หรือว่าเป็นคุณจำนงค์ คุณธนากร เพียงแค่นี้เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า เราจะต้องฟังด้วยความแยบคายจริงๆ ด้วยการพิจารณาจริงๆ ว่า พระธรรมที่ทรงแสดงจากการประจักษ์แจ้ง ไม่ใช่เพียงที่ใครจะคิดตามแล้วก็คิดว่าได้เข้าใจธรรมแล้ว
แต่ว่าการที่จะเข้าถึงธรรม มีถึง ๓ ขั้น คือขั้นฟังเรื่องราวของสภาพธรรม เช่น ในขณะนี้เราก็พูดกันย้ำแล้วย้ำอีก จิต เจตสิก รูป นิพพาน จิตเป็นสภาพรู้ ธาตุรู้ เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้ เช่น กำลังเห็น แม้จะกล่าวว่าอย่างนี้ แต่ใจของเราจริงๆ ที่จะเข้าถึงความเป็นธรรมจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าเพียงด้วยการฟัง ฟังก็รู้เรื่อง แต่ว่าลักษณะที่เป็นธรรมที่ไม่ใช่เรา เช่น สิ่งที่กำลังปรากฏทางตาเป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่ง และการที่จะมีการเห็นสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้จะเริ่มอย่างไร เพราะเหตุว่าต้องมีจิตขณะแรกซึ่งเกิด ซึ่งขณะนั้นไม่ใช่เห็น ไม่ใช่ได้ยิน แล้วก็ก่อนที่จะเป็นวิถีจิตคือการที่จะมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดปรากฏ ต้องมีทวาร หรือทางที่จิตจะเกิดขึ้น แล้วต้องเกิดตามลำดับ ไม่มีใครไปจัดการเลย แต่นี่คือความเป็นธรรม เมื่อฟังแล้วมีความเข้าใจถึงความเป็นธรรมของทุกสิ่งทุกอย่างค่อยๆ ที่จะเข้าใจ
ที่มา ...