สัจจญาณไม่ใช่เฉพาะปริยัติ
คุณนีน่า แต่ก่อนดิฉันเข้าใจว่า สัจญาณเป็นปริยัติ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่อย่างนั้น ต้องปฏิบัติด้วย แล้วก็มีหลายระดับ ถ้าเป็นกิจญาณ มีสัจญาณด้วยที่สลับกันได้ไหมคะ
ท่านอาจารย์ อันนี้เรากำลังพูดถึงชื่อ แล้วชื่อจะมีปัญหามากสำหรับเรา จะหยิบยกตรงนี้มาชื่อหนึ่ง ตรงนั้นชื่อหนึ่ง แล้วพยายามเข้าใจ แต่ถ้าเราเข้าใจสภาพธรรมกับเหตุผล ชื่อตามมาทีหลังได้ อย่างคุณนีน่า คิดว่าสัจญาณเฉพาะปริยัติใช่ไหม
คุณนีน่า แต่ก่อน
ท่านอาจารย์ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เฉพาะปริยัติ เพราะเหตุว่า ๓ รอบ ไม่ใช่รอบเดียว ถึงจะเป็น ๑๒ ได้ จะขาดอันหนึ่งอันใดไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นไม่ได้ตอนนี้หมายความสัจญาณไม่ใช่ปริยัติ รวมปริยัติด้วย และเมื่อมีสัจญาณแล้ว ก็มีกิจญาณ เวลาที่มีกิจญาณ สัจญาณหายไปหรือเปล่า
คุณนีน่า ไม่หายไป
ท่านอาจารย์ มีด้วยหรือเปล่า
คุณนีน่า ต้องมีด้วย
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นเราถึงได้เข้าใจว่า หมายความว่าอย่างไร ไม่ใช่พอถึงอันนี้แล้ว อันนั้นไม่มี หายไป แล้วพอถึงกตญาณ สัจญาณมีไหม กิจญาณมีไหม หรือมีแต่กตญาณ
คุณนีน่า การศึกษาต้องอยู่รวมกัน ไม่หายไป
ท่านอาจารย์ ไม่ใช่ขาดหายไป
พระไตรปิฎกกับอรรถกถาช่วยให้เราไม่ผิด ถ้าเรามีความเข้าใจถูก จะมีอยู่ทั้งหมดตรงตามที่เราเข้าใจ แต่ถ้าเราเข้าใจผิด อันนี้จะไม่ตรงกับอันนั้น อันนั้นจะไม่ตรงกับอันนี้
เพราะฉะนั้นถ้าเรามีความเข้าใจถูกตั้งแต่ต้นจะสอดคล้องหมด เพราะเราก็จะพบข้อความอย่างนี้ตรงตามที่เข้าใจถูก
เพราะฉะนั้นความเข้าใจถูกตั้งแต่ต้นเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุด ถ้าเรามีความเข้าใจผิดตั้งแต่ต้น จะค่อยๆ ผิดไปทีละเรื่องๆ เพราะเวลาที่เราไปเจออะไร ก็ไม่เหมือนกับที่เราเคยเจอมาก่อน เพราะฉะนั้นอันนี้ต้องผิด แต่ความจริงข้อความจะเหมือนกันตลอดไม่ได้ เพราะว่ากว้างขวางมาก แสดงตรงนี้ส่วนหนึ่ง แสดงตรงนั้นส่วนหนึ่ง อีกที่หนึ่งอีกหลายส่วน เพราะฉะนั้นต้องเอาทั้งหมดมาประกอบกัน สอดคล้องกันเมื่อไร เมื่อนั้นเป็นความถูกต้องที่จะไม่ขัดกันเลย