จิตตสังเขป บทที่ ๑๑ สัมปยุตตธรรม

สัมปยุตตธรรม คือ เจตสิกที่จําแนกจิตให้ต่างกัน โดยประเภทต่อไป คือ โดยสัมปยุตต์ หรือวิปปยุตต์

อกุศลสัมปยุตต์ ๔ คือ

ทิฏฐิคตสัมปยุตต์ จิตเกิดร่วมกับทิฏฐิเจตสิก คือ ความเห็นผิด

ปฏิฆสัมปยุตต์ จิตเกิดร่วมกับโทสเจตสิก

วิจิกิจฉาสัมปยุตต์ จิตเกิดร่วมกับวิจิกิจฉาเจตสิก คือความสงสัยในสภาพธรรม

อุทธัจจสัมปยุตต์ จิตเกิดร่วมกับอุทธัจจเจตสิก คือ สภาพธรรมที่ไม่สงบ

โสภณสัมปยุตต์ ๑ คือ

ญาณสัมปยุตต์ จิตเกิดร่วมกับปัญญาเจตสิก

อกุศลจิต ๑๒ ดวง จําแนกโดยสัมปยุตต์

โลภมูลจิต ๘ ดวง

เกิดร่วมกับทิฏฐิเจตสิกความเห็นผิด เป็นทิฏฐิคตสัมปยุตต์ ๔ ดวง

ไม่เกิดร่วมกับความเห็นผิด เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตต์ ๔ ดวง

โทสมูลจิต ๒ ดวง เป็นปฏิฆสัมปยุตต์ คือ เกิดร่วมกับโทสเจตสิกซึ่งเป็นสภาพธรรมที่หยาบกระด้างทั้ง ๒ ดวง

โมหมูลจิต ๒ ดวง

เกิดร่วมกับวิจิกิจฉาเจตสิก เป็นวิจิกิจฉาสัมปยุตต์ ๑ ดวง

เกิดร่วมกับอุทธัจจเจตสิก เป็นอุทธัจจสัมปยุตต์ ๑ ดวง

รวมอกุศลจิต ๑๒ ดวง เป็นสัมปยุตต์ ๘ ดวง เป็น วิปปยุตต์ ๔ ดวง

โลภมูลจิตทิฏฐิคตสัมปยุตต์ (และทิฏฐิคตวิปปยุตต์) นั้นต่างกันเป็น ๔ คือ เกิดร่วมกับโสมนัสเวทนา ๒ ดวง เกิดร่วมกับอุเบกขาเวทนา ๒ ดวง

รวมโลภมูลจิต ๘ ดวง คือ

โสมนสฺสสหคตํ ทิฏฺฐิคตสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ

โสมนสฺสสหคตํ ทิฏฺฐิคตสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ

โสมนสฺสสหคตํ ทิฏฺฐิคตวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ

โสมนสฺสสหคตํ ทิฏฺฐิคตวิปฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ

อุเปกฺขาสหคตํ ทิฏฺฐิคตสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ

อุเปกฺขาสหคตํ ทิฏฺฐิคตสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ

อุเปกฺขาสหคตํ ทิฏฺฐิคตวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ

อุเปกฺขาสหคตํ ทิฏฺฐิคตวิปฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ

โทสมูลจิต ๒ ดวงนั้นเกิดร่วมกับปฏิฆะ คือ โทสเจตสิก จึงเป็นปฏิฆสัมปยุตต์ทั้ง ๒ ดวง เพราะเมื่อโทมนัสเวทนาเกิดขึ้นนั้น ต้องมีโทสเจตสิกซึ่งเป็นสภาพธรรมที่หยาบกระด้างประทุษร้ายเกิดร่วมด้วยทุกครั้ง ไม่เหมือนกับโสมนัสเวทนาและอุเบกขาเวทนา ซึ่งเกิดร่วมกับโลภมูลจิต หรือกุศลจิต หรือวิบากจิต หรือกิริยาจิตก็ได้ ฉะนั้น เมื่อโทสมูลจิต ๒ ดวง เกิดร่วมกับโทมนัสเวทนาจึงต้องเป็นปฏิฆสัมปยุตต์ทั้ง ๒ ดวง และโทสมูลจิตต่างกันเป็น ๒ ดวง ก็เพราะเป็นอสังขาริก คือ เกิดขึ้นเองโดยไม่อาศัยการชักจูง ๑ และเป็น สสังขาริก คือ เกิดขึ้นโดยอาศัยการชักจูง ๑ ดังนั้น โทสมูลจิต ๒ ดวง คือ

โทมนสฺสสหคตํ ปฏิฆสมฺปยุตตํ อสงฺขาริกํ

โทมนสฺสสหคตํ ปฏิฆสมฺปยุตตํ สสงฺขาริกํ

โมหมูลจิตต่างกันเป็น ๒ ดวง คือ ดวงหนึ่งเป็นวิจิกิจฉา สัมปยุตต์ เกิดร่วมกับวิจิกิจฉาเจตสิกซึ่งสงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขันธ์ ธาตุ อดีต ปัจจุบัน อนาคต เป็นต้น อีกดวงหนึ่งเป็น อุทธัจจสัมปยุตต์

โมหเจตสิก เป็นเจตสิกที่ไม่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง แม้ว่ากําลังเผชิญหน้ากับอารมณ์ ก็ไม่สามารถรู้ลักษณะที่แท้จริงของอารมณ์ที่ปรากฏได้ เช่น ในขณะที่กําลังเห็นนี้ ไม่รู้ว่าสิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นสภาพธรรมชนิดหนึ่ง เมื่อไม่รู้ก็สงสัยว่าลักษณะของสภาพธรรมที่เพียงปรากฏทางตานั้น ต่างกับที่เคยเข้าใจว่าสิ่งที่เห็นเป็นคน หรือเป็นวัตถุสิ่งของอย่างไร ขณะใดที่สงสัย ขณะนั้นเป็นโมหมูลจิตวิจิกิจฉาสัมปยุตต์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าความสงสัยจะเกิดตลอดเวลา ขณะใดที่สงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และในลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏ ขณะนั้นเป็นโมหมูลจิตที่เกิดร่วมกับวิจิกิจฉาเจตสิก

โดยปกติ เมื่อเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสกายแล้ว ถ้าขณะนั้นจิตที่เกิดต่อไม่เป็นกุศลจิตหรืออกุศลจิตประเภทอื่นๆ ก็เป็นโมหมูลจิตอุทธัจจสัมปยุตต์ เพราะว่าขณะนั้นไม่ได้มีความสงสัยเกิดร่วมด้วย ไม่มีโลภเจตสิกเกิดร่วมด้วย ไม่มีโทสเจตสิกเกิดร่วมด้วย ฉะนั้น จึงรู้ลักษณะของโมหมูลจิตอุทธัจจสัมปยุตต์ได้ว่า ขณะใดที่หลงลืมสติ ขณะนั้นกําลังไม่รู้ในสภาพของอารมณ์ที่ปรากฏ และขณะที่อกุศลจิตไม่เกิดร่วมกับโลภเจตสิก หรือโทสเจตสิก และวิจิกิจฉาเจตสิก อกุศลจิตขณะนั้นก็เป็น โมหมูลจิต อุทธัจจสัมปยุตต์ ดังนั้น โมหมูลจิต ๒ ดวง คือ

อุเปกฺขาสหคตํ วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺตํ ๑ ดวง

อุเปกฺขาสหคตํ อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตํ ๑ ดวง

รวมอกุศลจิต ๑๒ ดวง เป็นสัมปยุตต์ ๘ ดวง เป็น วิปปยุตต์ ๔ ดวง

คําถามทบทวน

๑. ทิฏฐิเจตสิก เกิดกับจิตกี่ดวง

๒. ทิฏฐิเจตสิก เกิดร่วมกับเวทนาอะไร

๓. โทสเจตสิก เกิดร่วมกับเวทนาอะไร

๔. โสมนัสเวทนา เกิดกับอกุศลจิตประเภทใด

๕. อุเบกขาเวทนา เกิดกับอกุศลจิตอะไรบ้าง

เปิด  837
ปรับปรุง  25 ก.ค. 2565
สารบัญ