อะไรจะชนะ โลภะ และ โทสะ
ผู้ฟัง ผู้ที่ชนะหมู่มนุษย์ในสงครามถึงหนึ่งล้านคน ยังสู้ผู้ที่ชนะตนเพียงผู้เดียวไม่ได้ ผู้นั้นเป็นจอมทัพสูงสุดโดยแท้
ท่านอาจารย์ คุณบุษบงรำไพไม่สงสัยหรือ แล้วอะไรชนะ ชนะอะไร ชนะกิเลสอะไร
ผู้ฟัง ปัญญาชนะ
ท่านอาจารย์ พอพูดถึงว่าชนะกิเลส ก็รู้สึกว่าทุกคนเห็นด้วย แต่อะไรจะชนะได้ อย่างคนโลภ โลภะ ความตระหนี่ อะไรจะชนะโลภะ
ผู้ฟัง ก็ปัญญา
ท่านอาจารย์ ถ้ากำลังโกรธ อะไรจะชนะโทสะ ถ้าไม่รู้ อะไรจะชนะความไม่รู้ได้
ผู้ฟัง ยังไม่ใช่ปัญญาหรือคะ ท่านอาจารย์
ท่านอาจารย์ ก็แล้วแต่นะคะ เพราะเหตุว่าโลภะเป็นอกุศล ใช่ไหม ถ้าปกติมีกำลัง กุศลคืออโลภะ ก็เกิดไม่ได้ เป็นปกติ แต่เมื่อไรอโลภะเกิด เมื่อนั้นชนะโลภะหรือเปล่า และโทสะ ความขุ่นใจ ทุกคนก็มีเรื่องที่จะไม่พอใจ เป็นของธรรมดาสำหรับคนที่สะสมความขุ่นใจ ไม่คิด และไม่รู้ว่าจะชนะได้อย่างไร เพราะว่าโดยมาก พออกุศลเกิดขึ้นเป็นไปตามกำลังของอกุศล แต่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่า ควรจะมีอกุศลมากๆ ให้มากๆ หรือว่าชนะอกุศล คือชนะกิเลส ถ้าจะกล่าวอีกนัยหนึ่ง ชนะความชั่วด้วยความดี แต่ว่าความชั่วของใคร ความดีของใคร ส่วนใหญ่พอพูดว่าชนะความชั่วด้วยความดี คิดว่าชนะความชั่วของคนอื่น ด้วยความดีของเรา แต่ลืมว่าชนะความชั่วของเรา ด้วยความดีของเราต่างหาก ไม่ใช่ว่าไปชนะความชั่วของคนอื่น ด้วยความดีของเรา ยากกว่าไหม ลองคิดดู
เพราะฉะนั้นพระธรรมที่ได้ฟัง ถ้าไม่คิดไม่ไตร่ตรอง เหมือนเข้าใจ ใช่ไหม ชนะกิเลส และอะไรชนะ ใช่ไหม และก็กิเลสมีตั้งเยอะ และอะไรชนะอะไร แต่ว่าทุกคน มีโลภะ มีความติดข้องมากๆ สะสมมา อะไรจะชนะโลภะได้ ต้องอโลภะ ขณะนั้น จึงชนะโลภะได้ ถ้ากำลังโกรธ ขุ่นใจ เป็นของธรรมดา ไม่ใช่พระอนาคามีบุคคล ไม่ใช่แก้ตัว แต่เป็นผู้มีปัญญา ที่รู้ตามความเป็นจริงว่า การที่จะละอกุศล ไม่ง่าย ต้องเป็นปัญญาที่รู้จริงๆ แม้แต่การฟังอย่างนี้ ก็ต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้อง
ทุกคนโกรธ อาจจะโกรธคนในบ้าน สติเกิดระลึกได้ ความโกรธไม่มีประโยชน์เลย เขาไม่รู้ เขาก็โกรธ แล้วเรารู้เพราะเราศึกษาธรรม แล้วมีเมตตากับคนที่ไม่รู้ได้ไหม ถ้าได้ ขณะนั้นอโทสะก็ชนะโทสะ จะเห็นความต่างกันของขณะที่เป็นอโทสะ กำลังโกรธอยู่ คิดได้ ไม่โกรธ แล้วก็มีเมตตา แล้วก็เป็นกุศลได้ในขณะนั้น ขณะนั้นคือชนะ แล้วชนะหรือเปล่า หรือว่ามัวแต่ไปคิดเรื่อง ชนะคนชั่วด้วยคนดี หรือว่าชนะคิดว่าเป็นคนอื่น แต่ว่าตามความเป็นจริงก็คือว่า ชนะอกุศลด้วยกุศล ชนะชั่วด้วยความดี และถ้าไม่มีความดีเลย อะไรจะชนะได้ ไม่มีทางที่จะชนะได้เลย ใช่ไหม ก็สะสมไป
เพราะฉะนั้นทรงแสดงพระธรรม โดยประการทั้งปวง เพื่อที่จะให้มีความเข้าใจ แต่ต้องไตร่ตรอง ว่าไม่ใช่เรามุ่งจะไปชนะคนอื่น แต่ขณะนั้น อกุศลเกิดแล้ว มีกำลังแล้วเห็นแล้วว่าเป็นกิเลส จะชนะหรือไม่ชนะ ถ้าไม่มีปัญญาไม่มีการอบรม ไม่มีปัจจัยที่สติจะเกิดระลึกได้ ก็ไม่ชนะ เพราะฉะนั้นธรรมก็เป็นเรื่องที่ต้องเข้าใจ จะชนะคนอื่นอีกไหม กำลังจะชนะคนอื่น เป็นกิเลสหรือเป็นอกุศลหรือเปล่า และเวลาที่ชนะเขาแล้วดีใจเป็นสุข เป็นอกุศลหรือเปล่า เรียกว่าเป็นผู้ชนะหรือเปล่า
- ธรรม คือ สิ่งที่มีจริง ไม่ใช่เรา
- มีความสนใจฟังพระธรรมน้อยลง
- สติปัฎฐานไม่ได้เกิดตามความต้องการ
- จุดประสงค์ของการศึกษาพระธรรม คือ ความเข้าใจถูก
- พระธรรมที่ทรงแสดง มี ๓ ปิฏก
- อะไรจะชนะ โลภะ และ โทสะ
- การดับกิเลส ขาดบารมี ๑๐ ไม่ได้
- ผลของกุศล
- การฟังธรรมโดยผิวเผิน จะไม่ได้รับความถูกต้อง
- ปฏิบัติธรรม หมายถึงอย่างไร
- เห็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตา ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน
- เพียงพริบตาเดียว ก็เปลี่ยนเป็นบุคคลใหม่
- ประโยชน์จากการฟังพระธรรม
- ความภักดีในพระผู้มีพระภาค
- บารมี คือ ความดี