การฟังธรรมโดยผิวเผิน จะไม่ได้รับความถูกต้อง


    ท่านอาจารย์ การฟังธรรม เราก็ทราบว่าการศึกษาธรรม หรือการฟังธรรมโดยผิวเผิน โดยไม่รอบคอบ บุคคลนั้นก็จะไม่ได้รับความถูกต้องในธรรมเลย แต่ว่าจะมีความเข้าใจผิด มีการปฏิบัติผิด สิ่งที่ทำอยู่ ไม่ตรงตามที่ได้ทรงแสดงไว้ เพราะฉะนั้นเรื่องของธรรม เป็นเรื่องที่ต้องทราบ ว่าที่ทรงแสดงพระธรรมไว้ทั้งหมด เพื่ออนุเคราะห์ผู้ที่ใคร่จะศึกษา ใคร่ที่จะเกิดปัญญา รู้ความจริงของสภาพธรรม และก็เป็นผู้ที่เข้าใจจริงๆ ว่าพระธรรมทั้งหมดที่ทรงแสดง ด้วยปัญญาคุณ ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

    เพราะฉะนั้นถ้ามีความเห็นถูกจริงๆ ก็คือว่า ไม่ใช่ไปพยายามรู้เหมือน หรือรู้เท่าตามที่มีข้อความกล่าวไว้ แต่รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร ทรงแสดงอย่างนั้น และข้อสำคัญก็คือว่า เพื่อการละ ไม่ใช่เพื่อการติดข้อง ไม่ใช่เพื่อต้องการที่จะเป็นพระอริยบุคคล โดยที่ไม่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง แต่ก็ต้องการที่จะเป็นพระอริยบุคคล เพราะเข้าใจผิด คิดว่าจะเป็นได้ ทำได้ นี่ก็ประการหนึ่ง และอีกประการหนึ่งก็คือว่า เรื่องของการที่จะให้คนอื่นได้ฟังธรรม ก็ต้องพิจารณาด้วย ว่าคนนั้นพร้อมหรือไม่ ถ้าเขาไม่พร้อม ก็ไม่มีประโยชน์เลย คำพูดดี ก็เป็นคำพูดที่ไม่ดี น่าเบื่อ อย่างบางคนก็บอกว่า ไม่เห็นได้ยินอะไร นอกจากนามธรรมกับรูปธรรม ได้ยินมาตั้ง ๒๐ ปี ๓๐ ปี ก็พูดเรื่องเก่า ซ้ำไปซ้ำมา บางคนก็อาจจะเข้าใจอย่างนั้น

    แต่แทนที่คิดว่า แล้วฟังมาอย่างนั้น แล้วรู้ความจริงของสภาพธรรมหรือยัง คือไม่คิดเรื่องที่จะเข้าใจจริงๆ แต่คิดว่าต้องการอะไรอีก ต้องการจะฟังอะไรอีก แต่ไม่ใช่ต้องการที่จะเข้าใจ แม้เพียง ๑ คำ ๒ คำ ๓ คำ ๑๐ คำ ให้เข้าใจจริงๆ เพิ่มขึ้น จนกระทั่งสามารถที่จะเข้าใจข้อความในพระไตรปิฎก ทั้งอรรถ และพยัญชนะได้ นี่ก็เป็นสิ่งซึ่ง แต่ละคนสะสมมาไม่เหมือนกัน

    เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องของเรา ที่จะทราบตามความเป็นจริงว่า ผู้ที่มีพระมหากรุณามากสูงสุด ถึงความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบำเพ็ญพระบารมี ทรงอนุเคราะห์บุคคล ซึ่งแม้ว่าจะอยู่แสนไกล แต่ถ้าเขาสามารถที่จะเข้าใจธรรมได้ ก็เสด็จไปโปรด แม้เพียงบุคคลเดียว ก็ทรงมีพระมหากรุณาอย่างนั้น

    เพราะฉะนั้นความคิด ความหวังดีของเรา เทียบกันไม่ได้ ทั้งปัญญา ทั้งความบริสุทธิ์ และทั้งความกรุณา แต่เราก็ทำ เท่าที่เราจะทำได้ โดยที่ว่าไม่เป็นทุกข์ เพราะเหตุว่าถ้าจะพิจารณาการสะสมของคน จะเห็นได้ว่า คนที่สะสมมาเพียงกุศลจิตขั้นทาน ขั้นศีลมีมาก แต่ว่าที่จะสะสมมา ที่จะฟังพระธรรมซึ่งหายาก ที่จะได้ยิน ได้ฟัง ในชาติที่เกิดเป็นมนุษย์ และก็อยู่ในประเทศหรือในที่ๆ สามารถจะได้ยิน ได้ฟังธรรมได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่สำหรับทุกคน

    เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าจะอยู่ในที่ ที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับ คนที่ไม่ได้สะสมมาก็ไม่ไปเฝ้า ไม่ฟังธรรม ในครั้งอดีต และในปัจจุบันนี้ มีมากสัแค่ไหน เพราะฉะนั้นก็เป็นผู้ที่ฟังพระธรรม ด้วยความมั่นคง ที่จะให้เข้าใจจริงๆ แล้วก็มีความเป็นมิตรกับบุคคลอื่น พร้อมที่จะเกื้อกูลเมื่อถึงกาลที่จะกระทำได้ แต่ถ้าไม่ถึงกาลนั้น ก็ทำอะไรไม่ได้



    หมายเลข 158
    9 ก.ค. 2567