อกุศลธรรม ๙ กอง แผ่นที่ 2 ตอนที่ 5


    สำหรับใน ธรรมสังคณีปกรณ์ นิกเขปกัณฑ์ มี อาสวโคจฉกะ สังโยชนโคจฉกะ คันถโคจฉกะ โอฆโคจฉกะ โยคโคจฉกะ นิวรณโคจฉกะ อุปาทานโคจฉกะ กิเลสโคจฉกะ ไม่มีอนุสัยใน ธรรมสังคณีปกรณ์ แต่มีใน ยมกปกรณ์

    ท่านผู้ฟังอาจจะสอบทานเรื่องของอกุศลเจตสิกกับอกุศลจิตด้วยตัวของท่านเองว่า เจตสิกดวงนี้จะเกิดกับอกุศลจิตดวงไหนได้บ้าง เช่น กามาสวะ ได้แก่ โลภเจตสิก เกิดกับจิตกี่ดวง ทบทวนซ้ำที่ได้กล่าวถึงแล้ว

    กามาสวะ คือ ความยินดีพอใจในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ เกิดกับโลภมูลจิตกี่ดวง เว้นดวงไหนบ้างหรือเปล่า ขณะที่มีความเห็นผิด พอใจในรูปที่เห็นผิด ในเสียง ในกลิ่น ในรสได้ไหม เพราะฉะนั้น โลภเจตสิกที่เป็นกามาสวะเกิดกับโลภมูลจิตได้ทั้ง ๘ ดวง

    ภวาสวะ ได้แก่ โลภมูลจิตที่พอใจในภพ ในขันธ์ ไม่ใช่พอใจในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ แต่เป็นความยินดีพอใจในขันธ์ ในภพ เพราะฉะนั้น ภวาสวะ คือ โลภเจตสิกที่เกิดกับโลภมูลจิตทิฏฐิคตวิปปยุตต์ ๔ ดวง ขณะที่ไม่ได้เป็นไปกับความเห็นผิดใดๆ เลย ขณะนั้นยังมีความยินดีพอใจในภพ ในขันธ์ เพราะฉะนั้น พระโสดาบันบุคคลดับโลภมูลจิตทิฏฐิคตสัมปยุตต์ ไม่มีความเห็นผิด ใดๆ ที่จะเกิดกับพระโสดาบันบุคคล แต่พระโสดาบันบุคคลยังมีความยินดีพอใจในภพ ในขันธ์ เพราะฉะนั้น พระโสดาบันบุคคลยังมีโลภมูลจิตทิฏฐิคตวิปปยุตต์ ๔ ดวง

    ทิฏฐาสวะ ได้แก่ ทิฏฐิเจตสิกที่เกิดกับโลภมูลจิตทิฏฐิคตสัมปยุตต์ ๔ ดวง

    อวิชชาสวะ ได้แก่ โมหเจตสิกที่เกิดกับอกุศลจิตทุกดวง

    อกุศลธรรมจำพวกต่อไป คือ สังโยชน์ ๑๐

    กามราคสังโยชน์ ได้แก่ ความยินดีพอใจในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ ถ้ายังไม่ได้ดับหมดไม่ว่าจะเกิดในภูมิไหนๆ ทั้งสิ้น ก็ต้องย้อนกลับมาสู่ความยินดีพอใจในกามภูมิ คือ ต้องเกิดในกามภูมิด้วยความยินดีพอใจในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ เพราะฉะนั้น กามราคสังโยชน์ ได้แก่ โลภเจตสิกที่เกิดกับโลภมูลจิต ๘ ดวง

    ปฏิฆสังโยชน์ ได้แก่ โทสเจตสิกที่เกิดกับโทสมูลจิต ๒ ดวง

    มานสังโยชน์ ได้แก่ มานเจตสิกที่เกิดกับโลภมูลจิตทิฏฐิคตวิปปยุตต์ ๔ ดวง

    ทิฏฐิสังโยชน์ ได้แก่ ทิฏฐิเจตสิกที่เกิดกับโลภมูลจิตทิฏฐิคตสัมปยุตต์ ๔ ดวง

    วิจิกิจฉาสังโยชน์ ได้แก่ วิจิกิจฉาเจตสิกที่เกิดกับโมหมูลจิตวิจิกิจฉาสัมปยุตต์ ๑ ดวง

    สีลัพพตปรามาสสังโยชน์ ถ้าเป็นความเห็นผิด ไม่ว่าจะในข้อปฏิบัติหรือในเรื่องความเห็นใดๆ ทั้งสิ้น ต้องได้แก่ ทิฏฐิเจตสิกที่เกิดกับโลภมูลจิตทิฏฐิคตสัมปยุตต์ ๔ ดวงเท่านั้น

    ภวราคสังโยชน์ ได้แก่ โลภเจตสิกที่เกิดกับโลภมูลจิตทิฏฐิคตวิปปยุตต์ ๔ ดวงเท่านั้น จะไม่เกิดร่วมกับความเห็นผิด

    อิสสาสังโยชน์ ได้แก่ อิสสาเจตสิกที่เกิดกับโทสมูลจิต ๒ ดวง

    มัจฉริยสังโยชน์ ได้แก่ มัจฉริยเจตสิกที่เกิดกับโทสมูลจิต ๒ ดวง

    อวิชชาสังโยชน์ ได้แก่ โมหเจตสิกที่เกิดกับอกุศลจิตทุกดวง

    สำหรับคันถะ ๔ ได้แก่

    อภิชฌากายคันถะ ความยินดีพอใจในกาม และในภพ

    พยาปาทกายคันถะ ความไม่พอใจ ความขุ่นเคืองใจต่างๆ

    สีลัพพตปรามาสกายคันถะ การลูบคลำข้อประพฤติปฏิบัติที่ผิด

    อิทังสัจจาภินิเวสกายคันถะ ความเห็นผิดอื่นทั้งหมด เว้นสีลัพพตปรามาส

    เพราะฉะนั้น อภิชฌากายคันธะ ได้แก่ โลภเจตสิกที่เกิดกับโลภมูลจิตทั้ง ๘ ดวง เพราะว่าไม่ได้แยกเป็นกามกับภพ ถ้าไม่แยกเป็นกามกับภพ ต้องเกิดกับ โลภมูลจิตทั้ง ๘ ดวง

    พยาปาทกายคันถะ ได้แก่ โทสเจตสิกที่เกิดกับโทสมูลจิต ๒ ดวง

    สีลัพพตปรามาสกายคันถะ และอิทังสัจจาภินิเวสกายคันถะ ได้แก่ ทิฏฐิเจตสิกที่เกิดกับโลภทิฏฐิคตสัมปยุตต์ ๔ ดวง

    ถ้าเป็นทิฏฐิ จะเกิดกับจิตอื่นไม่ได้เลย นอกจากโลภมูลจิตทิฏฐิคตสัมปยุตต์ ๔ ดวงเท่านั้นเท่านั้น

    นิวรณ์ ทบทวนอีกครั้งหนึ่ง

    นิวรณ์ ได้แก่ กามฉันทนิวรณ์ ๑ พยาปาทนิวรณ์ ๑ ถีนมิทธนิวรณ์ ๑ อุทธัจจนิวรณ์ ๑ กุกกุจจนิวรณ์ ๑ วิจิกิจฉานิวรณ์ ๑ อวิชชานิวรณ์ ๑

    กามฉันทนิวรณ์ เกิดกับโลภมูลจิต ๘ ดวง

    พยาปาทนิวรณ์ เกิดกับโทสมูลจิต ๒ ดวง

    ถีนมิทธนิวรณ์ เกิดกับอกุศลจิต ๕ ดวง

    อุทธัจจนิวรณ์ เกิดกับโมหมูลจิตอุทธัจจสัมปยุตต์

    กุกกุจจนิวรณ์ เกิดกับโทสมูลจิต ๒ ดวง

    วิจิกิจฉานิวรณ์ เกิดกับโมหมูลจิตวิจิกิจฉาสัมปยุตต์

    อวิชชานิวรณ์ เกิดกับอกุศลจิตทุกดวง

    อุปาทาน ๔ ได้แก่ กามุปาทาน ๑ ทิฏฐุปาทาน ๑ สีลัพพตุปาทาน ๑ อัตตวาทุปาทาน ๑

    กามุปาทาน ต้องเกิดในโลภมูลจิต ๘ ดวง

    ทิฏฐุปาทาน สีลัพพตุปาทาน อัตตวาทุปาทาน เกิดในโลภมูลจิต ทิฏฐิคตสัมปยุตต์ ๔ ดวง

    สำหรับกิเลส ๑๐

    โลภกิเลสเกิดในโลภมูลจิต ๘ ดวง โทสกิเลสเกิดในโทสมูลจิต ๒ ดวง โมหกิเลสเกิดในอกุศลจิตทุกดวง มานเจตสิกเกิดในโลภมูลจิตทิฏฐิคตวิปปยุตต์ ๔ ดวง ทิฏฐิกิเลสเกิดในโลภมูลจิตทิฏฐิคตสัมปยุตต์ ๔ ดวง วิจิกิจฉากิเลสเกิดในโมหมูลจิตวิจิกิจฉาสัมปยุตต์ ๑ ดวง ถีนกิเลสเกิดในอกุศลสสังขาริก อุทธัจจเจตสิกเกิดใน อกุศลจิตทุกดวง สำหรับกิเลส อุทธัจจเจตสิกเกิดในอกุศลจิตทุกดวง อหิริกเจตสิก เกิดในอกุศลจิตทุกดวง อโนตตัปปเจตสิกเกิดในอกุศลจิตทุกดวง

    ยมกปกรณ์ อนุสยยมก อนุสยวาระ มีข้อความแสดงว่า อนุสัย ๗ นอนเนื่องอยู่ในสภาพธรรมใดบ้าง คือ

    กามราคานุสัย ย่อมนอนเนื่องในเวทนา ๒ ในกามธาตุ

    โลภมูลจิตมีเวทนา ๒ คือ โสมนัสเวทนา และอุเบกขาเวทนา

    ปฏิฆานุสัย ย่อมนอนเนื่องในทุกขเวทนา

    มานานุสัย ย่อมนอนเนื่องในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ

    ทิฏฐานุสัย ย่อมนอนเนื่องในธรรมที่นับเนื่องในกายของตนทั้งหมด

    วิจิกิจฉานุสัย ย่อมนอนเนื่องในธรรมที่นับเนื่องในกายของตนทั้งหมด

    ภวราคานุสัย ย่อมนอนเนื่องในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ

    อวิชชานุสัย ย่อมนอนเนื่องในธรรมที่นับเนื่องในกายของตนทั้งหมด

    ที่แสดงอย่างนี้ คือ ตามขั้นของบุคคล ซึ่งเป็นปุถุชน และพระอริยบุคคลตามลำดับขั้น

    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 1397

    นาที 11:09

    ขอกล่าวทบทวนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ท่านผู้ฟังชินกับอกุศลเจตสิก ๑๔ ดวง ซึ่งจำแนกเป็นอกุศลธรรม ๙ กองว่า อกุศลเจตสิกประเภทใดเป็นอกุศลธรรมจำพวกไหน จะได้เห็นสภาพธรรมของตัวท่านเองตามความเป็นจริง

    สำหรับอกุศลเจตสิก ๑๔ ดวง โลภเจตสิก ๑ ดวง เป็นอกุศลธรรมทั้ง ๙ จำพวกฉะนั้น ควรจะระลึกว่า ความพอใจ ความติดใจ ความต้องการ ความยินดี ความเพลิดเพลินในอารมณ์ เป็นอกุศลธรรมล้วน และดับยาก เพราะถ้าจะดับโลภะจนกระทั่งหมดสิ้นเป็นสมุจเฉทไม่เกิดอีกเลย ต้องเป็นปัญญาขั้นอรหัตตมรรคจึงละได้

    เพราะฉะนั้น ยังไม่ต้องละโลภมูลจิต ซึ่งในชีวิตประจำวันไม่ขาดโลภะเลย เพราะว่าโลภเจตสิกเป็นอาสวะ ๒ อย่าง คือ กามาสวะ และภวาสวะ ความยินดีพอใจในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ เป็นกามาสวะ ความพอใจในภพ ในขันธ์ เป็นภวาสวะ

    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 1398



    หมายเลข 164
    2 ม.ค. 2567

    ซีดีแนะนำ