ชุด ณ กาลครั้งหนึ่ง ตอนที่ 11
ตอนที่ ๑๑
ส. พระผู้มีพระภาคทรงเป็นผู้จริงใจต่อการบำเพ็ญบารมีเพื่อรู้แจ้งอริยสัจธรรม จนในที่สุดทรงรู้แจ้งพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะเหตุ คือ พระองค์ทรงมีอุปการะอย่างยิ่งยวดในหมู่สัตว์ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พระองค์ทรงประกอบด้วยพระคุณสูงสุดกว่าสรรพสัตว์ จึงทรงประกอบด้วยเสียงสรรเสริญสดุดีด้วยความไพบูลย์ยิ่ง และทรงบริสุทธิ์ยิ่งในไตรโลก และทรงมีผู้ภักดีต่อพระองค์อย่างจริงใจ ท่านผู้ฟังก็คงจะเห็นการกล่าวสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ๒,๕๐๐ กว่าปีในโลกมนุษย์ ในเทวโลก ในพรหมโลก เป็นคำสดุดีสรรเสริญอย่างไพบูลย์ยิ่งและบริสุทธิ์ยิ่ง ด้วยเหตุที่พระองค์ทรงมีอุปการะอย่างยิ่งยวดในหมู่สัตว์และเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ทรงเป็นผู้มีผู้ที่ภักดีต่อพระองค์อย่างจริงใจ
ข้อความในปรมัตถทีปนี อรรถกถา ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ อรรถกถาโรคสูตร มีข้อความว่า
ความภักดีต่อพระผู้มีพระภาคเป็นความภักดีของผู้เลื่อมใสมั่นคงยิ่ง อันใครๆ จะเป็นสมณะ พราหมณ์ เทวดา มารหรือพรหมก็ละไปไม่ได้ เป็นความจริงบุคคลผู้ภักดีเหล่านั้นแม้ตนเองจะต้องเสียชีวิต ก็จะไม่ยอมทิ้งความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า หรือคำสั่งสอนของพระองค์ ก็เพราะต่างก็มีความภักดีอย่างมั่นคง ด้วยเหตุนั้นแล พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า ผู้ใดแลเป็นบัณฑิต เป็นผู้กตตัญญูกตเวที ผู้นั้นย่อมเป็นกัลยาณมิตรและมีความภักดีอย่างมั่นคง
ทุกท่านลองพิจารณาจิตใจว่า มีความภักดีต่อพระผู้มีพระภาคอย่างจริงใจโดยไม่มีใครบังคับ ผู้ใดก็ตามที่ศรัทธาเลื่อมใสในพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าบุคคลอื่นจะพยายามเปลี่ยนศรัทธาหรือความภักดีของท่าน ท่านก็ไม่เปลี่ยนตราบจนสิ้นชีวิต เพราะแต่ละบุคคลที่ศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัยแล้ว ก็จะมีความภักดีต่อพระผู้มีพระภาคจนตลอดชีวิต ซึ่งจะเห็นได้ว่า ไม่มีใครอีกที่จะได้รับความภักดียั่งยืนนานเท่าพระผู้มีพระภาค เพราะเหตุว่าความภักดีที่มีต่อบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พระผู้มีพระภาคนั้นก็เป็นชั่วขณะ ชั่วกาล บางครั้งก็มาก บางครั้งก็น้อย บางครั้งก็ยาวนาน บางครั้งก็ชั่วเวลาไม่นาน แต่ความภักดีต่อพระผู้มีพระภาคสำหรับพุทธบริษัทจะเห็นว่า ทุกวันตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ มีการสวดมนต์ระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัยตั้งแต่เด็กจนโต จนตาย
นี่ก็แสดงให้เห็นถึงพระคุณตั้งแต่ประจักษ์ความจริงใจที่พระผู้มีพระภาคทรงอบรมเจริญบารมีเพื่อการรู้แจ้งอริยสัจธรรม และทรงมีอุปการะอันยิ่งยวดในหมู่สัตว์และเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
ทั้งนี้พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่า “ภควา” เพราะมีคนภักดีอย่างมั่นคง เพราะพระองค์ทรงมีปกติแสวงหาประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลก ทั้งนี้เพราะพระมหากรุณาบารมีที่ทรงใคร่ครวญที่จะทรงแสดงธรรมให้สัตว์ทั้งหลายบรรลุถึงความมั่นคงในศีล ในสมาธิที่สงบจากกิเลส และในปัญญา พระองค์จึงได้รับความภักดีอย่างจริงใจจากพุทธบริษัททั้งคฤหัสถ์และบรรพชิต ทรงได้รับความภักดีโดยมอบถวายปัจจัยไทยธรรมทุกสิ่ง ทั้งดอกไม้ ธูปเทียน ของหอม เครื่องสักการบูชา
นี่แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่มีความจริงใจ มีสัจจะ แสวงหาประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลก เป็นผู้ดับกิเลสหมด เพราะฉะนั้น ผู้อื่นย่อมสามารถเห็นพระมหากรุณาและพระปัญญาของพระองค์ได้ จึงมีผู้ภักดีต่อพระองค์โดยไม่มีใครมีผู้ภักดีต่อเท่ากับพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
เพราะฉะนั้น ในสมัยนี้ก็น่าคิดอีกว่า ท่านผู้ฟังภักดีต่อพระรัตนตรัยจริงๆ หรือภักดีต่อภิกษุบุคคล นี่ก็จะต้องคิด เพราะเหตุว่าถ้าภักดีต่อพระรัตนตรัยแล้วก็ศึกษา เข้าใจพระธรรมและอบรมเจริญปัญญา เพื่อละคลายอกุศลของตนเอง แต่ถ้าภักดีต่อภิกษุบุคคลซึ่งไม่ทำให้เข้าใจพระธรรม และไม่สามารถอบรมเจริญปัญญารู้แจ้งอริยสัจธรรมได้ การภักดีต่อบุคคลอื่น หรือแม้ภิกษุนั้นก็เพียงเพื่อหวังลาภบ้าง ยศบ้าง ตำแหน่งบ้าง แต่ไม่สามารถเกิดปัญญาที่ทำให้เข้าใจในพระรัตนตรัยได้
ความต่างกันนะคะ ความภักดีต่อพระรัตนตรัยกับความภักดีต่อภิกษุบุคคลซึ่งไม่ทำให้เข้าใจพระธรรม แต่อาจทำให้เกิดลาภบ้าง ยศบ้าง สักการะ หน้าที่ตำแหน่งการงาน
- ชุด ณ กาลครั้งหนึ่ง ตอนที่ 1
- ชุด ณ กาลครั้งหนึ่ง ตอนที่ 2
- ชุด ณ กาลครั้งหนึ่ง ตอนที่ 3
- ชุด ณ กาลครั้งหนึ่ง ตอนที่ 4
- ชุด ณ กาลครั้งหนึ่ง ตอนที่ 5
- ชุด ณ กาลครั้งหนึ่ง ตอนที่ 6
- ชุด ณ กาลครั้งหนึ่ง ตอนที่ 7
- ชุด ณ กาลครั้งหนึ่ง ตอนที่ 8
- ชุด ณ กาลครั้งหนึ่ง ตอนที่ 9
- ชุด ณ กาลครั้งหนึ่ง ตอนที่ 10
- ชุด ณ กาลครั้งหนึ่ง ตอนที่ 11
- ชุด ณ กาลครั้งหนึ่ง ตอนที่ 12