พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 875
ตอนที่ ๘๗๕
ที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
วันอาทิตย์ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖
ครับไม่รู้สนทนากับทางไม่รู้แต่พออาศัยธาตุรูปจึงจะสามารถสนทนากันรู้เรื่องได้อายโหมดเป็นภาพอยู่แล้วจ้ะ แต่ก็ปราศรัยถัดมาดูสนทนากับทัชไม่รู้ไม่ถึง โดยสภาวะก็ไม่มี ความเป็นชิดกับฆราวาส ไม่มี อาจารย์กับลูกศิษย์ ค่ะทุกอย่างเป็นแต่เพียงสิ่งที่เกิดขึ้นเหตุปัจจัย เปลี่ยนแปลงลักษณะนั้นต้องต์ ไม่มีใครเป็นเจ้าของ นิสิตของ นี่ผมชอบบัญชีสงสัยกัน อ่ะเขาก็ไม่ค่อยชัดเจนว่ามันจะตรงประเด็นกับทุกๆ คนที่พระองค์ตรัสว่า รูปธาตุโพสต์ค่ะประธาตุอาศัยสองอย่างที่กระทบกันแล้วเป็นปัจจัยให้กายยาวิญญาณธาตุธาตุในที่นี้หมายถึงสภาพที่ทรงไว้ซึ่ง ผิดหน้าที่ของตนของฉัน ครับนี่มาถึงขาดไม่รู้ใช่ไหมครับสภาพที่ทรงไว้ซึ่งอาการ ต์ส่งใบสั่ง การกระทบกัน ก็เป็นปัจจัยให้กายยาวิญญาณธาตุ ฉันในขณะนี้ก็มีสภาพ แค่ใบอ่อนอย่างนี้ถ้าไม่ใช้คำที่เราไม่เข้าใจแต่ใช้คำธรรมดาที่ขณะนี้สามารถที่จะ สองเช่น ขณะนี้อะไรปรากฏเมื่อเป็นสิ่งที่มีจริงก็เป็นทาสเส้นแข็งต้องเป็นแข็งไม่ใช่แวงไม่ใช่ร้อน เพราะฉะนั้นแต่ละหนึ่งก็มีลักษณะของธาตุนั้นปรากฎจึงรวมเรียก๓ท่าที่สามารถปรากฏเมื่อกระทบกายแล้วแต่ว่าอย่างหรือใหญ่จะปรากฏว่าโกรธผ้า คือแถบที่สามารถที่จะกระทบกับกายศาสตร์กับผู เพราะฉะนั้นจึงใช้คำว่ารู้ความหมายความว่าสิ่งนั้นเกิดปรากฏเป็นลักษณะ และไม่เป็นอย่างอื่นเช่นกายอ่ะ ต์คือการรู้ขึ้นได้แต่แข็งต่อ ได้เนี่ยประสาท ที่สามารถเข้ากับเย็นด้วยร้อนขนาดหนึ่งอชนะหนึ่งแห่งขนาดหนึ่ง เป็นสิ่งที่สามารถปรากฏเมื่อมีการกระทบกับกาย และก็มีธาตุรู้เกิดขึ้นรู้ความอ่อนหรือความคิดนั้นคือใช้ภาษาธรรมดาแต่จะเห็นว่าทางตาย และมีหนึ่งรูปเท่านั้นที่ปรากฏได้คือสิ่งที่กำลังปรากฏ ทางหูก็มีเพียงรูปเดียวที่ปรากฏให้รู้ได้ว่ามีคือเสียงกำลังดีกำลังแปล มีได้ยินเสียงสูบสะพรึงที่ได้ยินมีจริงๆ แต่ไม่ใช่สิ เพราะฉะนั้นธาตุรู้เป็นอย่างหนึ่ง และท่าทีไม่รู้เป็นอีกอย่าง เพราะฉะนั้นทางตาหูจมูกลิ้นก็มีแต่ละหนึ่งที่ปรากฏได้เฉพาะทางนั้นเช่นสิ่งที่ปรากฏทางตาขณะนี้ต้องอาศัยตา และมีธาตุเห็นเกิดขึ้นสิ่งที่ปรากฏได้ทางหูเสียงมีเจ้ากระทบกับลูกที่เป็นโสตประสาทรูปก็เป็นโรคนางเอกที่สามารถกระทบกันเป็นปัจจัยให้จิตได้ยินเกิดขึ้นในขณะนี้เป็นอีกธาตุหนึ่งคือคารถหรูเผชิญทางจมูกถ้ามีกลิ่นปรากฏก็เพราะว่า กลิ่นสามารถกระทบกับโรคที่กระทบกับกลิ่นได้เป็นปัจจัยให้ถ้าชีวิตหนึ่งคือธาตุรู้เกิดขึ้นได้กรี๊ด แทงลิ้นเวลาที่รถต่างๆ ปรากฏก็เพราะเหตุว่ามีรูปที่สามารถกระทบรถเป็นรูปพิเศษที่ใช้กับไม้จริง๕ เป็นปัจจัยให้จิตเกิดขึ้นรู้ จึงปรากฏได้แต่ละนิ้วแต่ละหนึ่งใน๔ค่ะ โอ้โหจมูกเล่นเล่น อ้ายน่าจะสามารถจะกระทบจากแผ่นธนบัตรต์ ร้อนก็ได้ซึ่งก็ได้ไว้ก็ได้อ่อนก็ได้ก็เลยรวมเรียกว่าโอ๊ตคับทาสแต่ก็หมายความถึงขนาดนี้อะไรปรากฏ ถ้าอ่อนปรากฏทนะนี่ไม่ได้ใช้คำว่าแฟน ไม่ต้องใช้คนยังไงอยู่แต่ว่าขณะนี้ก็มีแค่ที่เกิดขึ้นรู้ลักษณะที่ออก อ่อนปรากฏแล้วก็หมดไป และก็ไม่มีใครไปบังคับบัญชาได้ เพราะฉะนั้นทั้งหมดเป็นธาตุ เยอะแยะมากเลยแต่ก็ประมวลไว้เป็น๑๘ ทั้งหมดแล้วก็ถ้ากล่าวโดยเฉพาะธาตุรู้ก็ประมวลไว้เป็น๗วิญญาณใน๑๘ท่าก็เสียดสีที่กำลังมีในขณะนี้เพื่อที่จะได้เข้าใจถูกต้องว่าเป็นแต่ละหนึ่งซึ่งไม่จริง และสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริงปรากฏว่ามีเมื่อปรากฏแล้วก็ดับไปก็ไม่ใช่ใครเลย เป็นเพลงสิ่งที่มีเกิดขึ้นปรากฏแล้วก็หมดไป แสดงว่าจุดประสงค์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงภาพนี้ สั่งไป ในลักษณะ เรียลไทรม์ อัตราถอนออกใช่ไหม น่าสะสมความเห็นถูก ความเข้าใจผิดในสิ่งที่มี เพื่อที่จะได้รู้ความจริงว่าเราคงเข้าใจว่าเป็นราว และเป็น๔เลนสีแดงแตกต่างความจริงก็คือเป็นแต่ละหนึ่งซึ่งมีปัจจัยเกิดขึ้น และก็ดับไปแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย น่าจะเป็นใครโดยจะเป็นของใครได้ ไม่ว่าจะเป็นอะไรทั้งหมดที่มีลักษณะจริงๆ ก็เป็นแพทย์แต่ละเด็ก เสียงปรากฏแล้วมีจริงเปลี่ยนเสียงไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าหมายความถึงสิ่งที่ส่งหนังสือศาสนาของเก่า เปลี่ยนไม่ได้นะคะ อาจารย์สนทนากับพระคุณเจ้าครับเรื่องธาตุเหนือเกาะเป็นประโยชน์มากเลยครับอาจารย์เพราะว่าไม่น่าเชื่อว่ามีแต่ทหารไทย แต่เรามีความสำคัญมันไม่ว่าเป็นคนเป็นสัตว์เป็นเรื่องราวต่างๆ เนี่ยแต่ที่แท้แล้วมีแต่ท่าเท่านั้น หาก เพราะฉะนั้นการฟังนะคะ คือรับฟังแล้วพิจารณาว่าจริงหรือ ถูกสร้างใหม่ไม่ใช่เป็นการบังคับให้เชื่อนะคะ เพราะฉะนั้นแต่ละคนฟังก็สามารถที่จะเข้าใจได้ว่าแม้จะได้ยินคำว่าทาสแม้จะมีเห็นมีได้ยินแต่ว่ารู้ในความเป็นทาสแต่ละหนึ่งหรือเปล่าเพียงแต่ว่ากำลังไฟนะคะ แม้แต่จะไปฟังเนี่ย ก็ยากที่จะได้ฟังฟังแล้วก็ยากที่จะเข้าใจพอฟังแล้วนะคะ ยากที่จะเข้าใจแล้วจะทำยังไงต่อไปบางคนก็อยากจะไปทำอะไรซักอย่างลืม ที่เข้าใจชาติที่กำลังปรากฏสิวไม่ใช่เหตุที่ถูก กรี๊ดว่าในขณะนี้ซีรีส์เกิดการ เพราะฉะนั้นหนทางเดียวจริงๆ นะคะ ได้ยินให้ความความจริงเห็นประโยชน์ของการที่ไม่นงคือไม่รู้อยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่เกิดจนตายจุดชาร์จอยากจะเป็นคนลงใหม่อยากจะไม่รู้ความจริงใหม่เลยเมื่อเกิดแล้วก็ต้องตายไป เพราะฉะนั้นก่อนที่จะตาย และสามารถที่จะเข้าใจความจริงของสิ่งที่มี ด้วยความถูกต้องจะดีกว่าที่กี่ชาติก็ไม่ได้รู้ความจริงเลยนะคะ เพียงแต่เกิดมาเห็น และก็ได้ยินแล้วคิดนึกไปต่างๆ ด้วยเหตุนี้ค่ะถ้าเห็นประโยชน์จริงๆ นะคะ ไปตั้งการรู้ความจริงเข้าใจความจริงหรือว่าไม่เห็นจะมีประโยชน์ ในการที่จะเข้าใจ นี่เป็นนะแต่อัธยาศัย๕มไม่ได้เลยค่ะแต่ละคนก็เป็นแฟนเล่มมีสิ่งที่จริง สามารถรู้ได้ด้วยจะรู้ไหมท่านอื่นมีสิ่งที่มีจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าความจริงนั่นคืิอ เวลาเกิดก็ไม่รู้เจ็บก็ไม่รู้ตายก็ไม่รู้ถูกก็ไม่รู้ศพก็ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลยทั้งสิ้นถ้าพอใจที่จะไม่รู้ก็ไม่มีใครไปช่วยให้คนนั้นสนใจที่จะรุ่งขึ้นได้ เพราะฉะนั้นแต่ละคนนะคะ ก็เป็นแฟนหนึ่งซึ่งเห็นประโยชน์ของการที่ได้รู้จักการที่ แต่จริงๆ ในการประโยชน์ดีมาก ไม่รู้จริงสิท ไม่ติดคลอง และก็ต้องกังวลใช่ไหมคะกังวล และทำอะไรบ้างขวนขวายแสวงหาลำบากไม่ขวนขวายแสวงหาเธอก็ไม่ใช่ว่าสิ่งนั้นจะมีอยู่ตลอดไปสักวันหนึ่งก็พรากจากไปโหมด และก็มีความทุกข์เกิดขึ้นโดยไม่รู้ความจริงว่าแท้ที่จริงก็คือว่าเป็นแต่เพียงธาตุแต่ละหนึ่ง สุขก็เป็นทาสสุขทุกข์ทุกข์เห็นเป็นธาตุเห็นได้ยินก็เป็น ไม่มีใครเลยค่ะแต่เพื่อความรู้เลยค่ะข้างนอกยึดถือสิ่งที่มีว่าเป็นแราลวแน่นมั่นคงเล็กมากนะคะ อยากที่จะไถ่ถอนต่อเมื่อไหร่ได้ฟังคำที่แสดงความจริงของสิ่งที่มีโอกาสที่จะว่าสมควรที่จะฟังให้เข้าใจเพื่อนต่อไปมอง เพราะว่าแม้จะได้ยินคำว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นจริงปรากฏเกิดขึ้นปรากฏที่รัฐบาไปจริงๆ แค่ใหม่แล้ว พี่บุ๋มความจริงนะคะ แต่ยังรู้ไม่ได้เพียงฟังเท่านี้ เพราะฉะนั้นให้ฟังอีกพิจารณาอีกเข้าใจอีกจนกระทั่งเป็นอุปนิสัยัที่เราใช้คำว่าอุปนิสัยสิ่งที่สะสมจนเคยชินจนมีกำลังนะคะ เพราะฉะนั้นขณะนี้ค่ะวันนี้ใครทำอะไรบ้าง มีจุดเกิดขึ้นธาตุรู้ต้องมีสิ่งที่ถูกรู้ตั้งแต่เช้าจนถึงเดี๋ยวนี้รู้อะไรบ้างตามอัธยาศัยแต่ก็ยังมีการรู้ว่ามีสิ่งที่มีจริงที่ฟังแล้วเข้าใจได้นะคะ ก็มีการฟังเพื่อที่จะได้เข้าใจต่อ เต็มอุปนิสัยซึ่งเราได้กล่าวถึงแล้วนะคะ ๘ริษยาโคจะระโคจะรัสเป็นอีกคำหนึ่งของคำว่าสิ่งที่ปรากฏที่จิตรู้ เพราะฉะนั้นจิตต้องรู้ค่ะเกิดมาแล้วต้องรู้ทุกอย่างแต่แวะรู้อะไรมากน้อยต่างกันก็สะสมจนกระทั่งเป็นอุปนิสัยเพราะฉันมีอุปนิสัยของการฟังทาง ครับกรุ๊ปนิสัยของการไหม ก็แล้วแต่ ครับสินค้าเป็นที่น่าอัศจรรย์ครับแม้คำว่าทาสคำเดียวเนี่ยเขาก็มีความละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะว่าเป็นการแสดงธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ แสดงให้เข้าใจธรรมะเข้าใจสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริงเพราะว่าเมื่อกล่าวถึงธาตุแล้วก็คือสภาพธรรมะที่ทรงไว้ซึ่งลักษณะของตนไม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างอื่น เป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น แล้วก็ชาตินี้ก็ครอบคลุมสภาพธรรมะที่มีจริงๆ ทั้งหมดเลยนะครับ ไม่ว่าจะกล่าวถึงเรื่องใดก็ตามก็เป็นทาสทั้งหมด ทีนี้เมื่อสักครู่ท่านในการก็ได้สนทนากับพระคุณเจ้าที่ถามรับประทานจากก็ได้กล่าวถึงว่าประโยชน์ก็คือการได้สะสม ความเข้าใจถูกไหมถูกตามความเป็นจริงว่ามีแต่ธรรมะมีแต่ธาตุเท่านั้นก็จะกราบเรียนถามอาจารย์เพิ่มเติมว่าเมื่อเข้าใจถึงความเป็นจริงของธรรมะว่าเป็นแต่เพียงคาดเป็นเพียงธรรมะเท่านั้น ความเข้าใจในส่วนนี้จะเป็นเครื่องเกื้อกูลต่อการดำรงชีวิตหรือว่าต่อความประพฤติเป็นไปในชีวิตประจำวันอย่างไรเมื่อเข้าใจถึงความเป็นจริงของธรรมะว่าเป็นเพียงภาพเป็นเพียงสมัเท่านั้นครับ ที่คุณคำปั่นพูดหนึ่ง๗เกี่ยวกับคำว่าเปรตหรือเตชะหรือเปล่า ใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นถ้ามีความเข้าใจละเอียดทุกอย่าง และก็จะค่อยๆ เข้าใจธรรมะซึ่งเป็นธาตุใด เตชะกับเตโชเป็นสัตว์คำเดียวกันรึเปล่าคะ หรือคนล่ะคะ ครับเป็นคำที่มาจากคำภาษาบาลีเดียวกันนะครับ คือรากกินก็คือมาจาก เดชะ โดยศัพท์หมายถึงร้อนเป็นธรรมะที่เผาผลาญทำหน้าที่ตรงข้ามกันครับเมื่อกล่าวโดยอรรถครับ จะเห็นได้นะคะ ภาพเพียงไม่มีร้อนไม่มีบุญจะมีชีวิตได้ ลืมจิตจำ ฯลฯ ต์เราจะใช้ความ และสภาพธรรมะนั้นในภาษาบาลีช่างธวัชเตชะสภาพ ที่รรนะคะ คดีอันหลังไมค์ความร้อนเนี่ย ความเย็นความร้อนความอุ่นที่เหมาะสมทำให้เกิดพืชพรรณต่างๆ ได้เห็นไหมคะนี่ก็เป็นพลังหรืออำนาจเตชะอันหนึ่งของธาตุชนิดหนึ่งซึ่งเป็นธาตุที่สำคัญ เพราะฉะนั้นแพร่กล่าวแต่เพียงโรคธาตุ และเราก็ยังเห็นความสำคัญของธาตุชนิด ว่าที่ใช้กันพระอาทิตย์ร้อนร้อนมากเลยไม่มีได้ไหม ไม่ได้เลยเห็นไหมคะทุกชีวิตหรือสัตว์โลกหรือแม้แต่พื้นดินอะไรก็ตามสิ่งที่สำคัญก็คืออุตุหรือเตโชวิเตชั่นความร้อนซึ่งเป็นพันหลัง ด้วยเหตุนี้นะคะ ถ้าจะกล่าวถึงพลังของกุศล และพลังของอกุศลก็ต้องมีใช่ไหมคะเพราะว่าที่มีการประพฤติทางกายทางวาจาในทางทุจริตแนะก็เพราะเหตุว่าอกุศลมีกำลัง แต่ถึงอย่างไรก็ตามนะคะ อกุศลก็ยังถูกกุศลดับได้ ใครมีกำลังมากกว่ากันใช่ไหมคะแต่ว่ากำลังนี้ก็ต้องตามธาตุหรือตามสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปในขณะนั้นใครจะไปหาสิ่งใดที่จะเทียบเท่าความร้อนของพระอาทิตย์มีไม้ก็ไม่ได้ใช่ไหมคะไม่ใช่สิ่งที่ใครจะไปทำบันดาลให้เกิดได้แต่มีปัจจัยที่จะเป็นอย่างนั้นก็เป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นทางกุศล และอกุศลก็ไม่มีใครสามารถที่จะไป ให้มีกำลังถึงอย่างนั้นนอกจากสภาพธรรมะ ที่มีกำลังเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นด้วยเหตุนี้ถ้าเราได้สร้างความหมายของคำว่าป่าวหรือปลาน์หรือร้อนนะคะ ก็จะรู้ว่าไม่มีธรรมะสองฝ่ายคือกุศล และอกุศลแพ้ขณะใดที่อกุศลมีกำลังขณะนั้นกุสอนเกิดไม่ได้แต่ขณะใดที่กุศลมีกำลังขณะนั้นอกุศล แต่กำลังก็ต้องค่อยๆ สะสมเพิ่มขึ้นนะคะ แม้แต่กำลังที่จะมาฟังธรรมะ มีแล้วใช่ไหมคะ แม่เคยน้อย ใครรู้ใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นก็แสดงให้เห็นว่าขนาดไหนที่ไม่ได้มาฟังธรรมะหรือไม่ได้ฟังธรรมะอะไรมีกำลัง ใช่ค่ะก็เกิดอกุศลมีกำลัง และทั้งกุศล และอกุศลเนี่ยมาจากไหนก็ต้องมาจัดการที่ค่อยๆ เกิดค่อยๆ มีเพิ่มมากขึ้นทีละเล็กที่ละน้อย เพราะฉะนั้นแม้แต่ที่จะกล่าวว่าการที่จะเข้าใจความเป็นพลาด และก็มีทั้งรูปธาตุ และมามะธาตุซึ่งหลากหลายมาก แล้วแต่ระยะนะคะ ก็มีกำลังตามสภาพของธรรม เช่นอนุสรณ์มีกำลังสามารถที่จะทำลายทำร้ายได้แม้แต่คนจะโกงพระชนม์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีจำนวนสิ่งที่จะทำให้คิดอย่างนั้นแล้วทำด้วย คุ้มครองกุศลเพื่อผู้ส่ง ไม่มีกำลังสามารถที่จะดับอกุศลได้แต่ต้องเป็นคนที่เข้าใจความละเอียดนะคะ ว่าขณะนี้มีอกุศลแล้วก็มีกุศล และต้องเป็นผู้ที่ตรงด้วยว่าขณะนี้นะคะ กำลังเป็นอะไร อย่างน้อยที่สุดการได้ยินได้ฟังธรรมะบ่อยๆ การเห็นประโยชน์หรือว่าไม่มีใครอีกแล้วในสากลโลกในจักรวาลทั้งหมดนะคะ ในแสนกัปหรือเท่าไหร่กว่าจะมีผู้ที่ทรงตรัสรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังมีจริงๆ กำลังปรากฏให้มีความเห็นถูกให้มีความเข้าใจ เพราะว่าขณะไม่เข้าใจ และจะกล่าวว่าเป็นกุศลได้ไหมไม่เข้าใจ แต่ขณะที่เข้าใจก็เป็นกุศลเพราะเหตุไรขนาดนั้นเข้าใจไม่ใช่ไม่เข้าใจด้วยเหตุนี้ขาดการฟังพระธรรม และก็ต้องรู้ว่า ปฐมมาวาจาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อตรัสรู้แล้วก็คือว่าได้พบนายช่างผู้สร้างเรือ ยากไหมที่จะพบพวกตัวใหญ่ๆ นะคะ โดยเล็กๆ มองไม่เห็นไม่รู้ด้วยว่ามี แต่ว่าการที่จะดับกิเลสได้ทั้งหมดนะคะ เพราะปัญญาสามารถที่จะเห็นถูกต้องตามความเป็นจริงซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความติดข้องที่ทุกคนยังมีชีวิตอยู่ทุกชาติทุกวัน และก็เพราะว่ายังมีความติดข้องเพราะความไม่รู้ด้วยเหตุนี้นะคะ ก็จะเห็นได้ว่าการที่มีโอกาสได้ฟังพระธรรม ใช้คำว่าลาภาหลุดไปหรือยัเหนือหลากอื่นใดทั้งสิ้น บางคนคิดว่าแรกได้แก่เกียรติยศชื่อเสียงเงินทองทรัพย์สมบัตินะคะ เล่นไม่ใช่เรื่องที่แท้จริงไม่ประเสริฐเลย ที่ดินสิ่งอื่นใดทั้งสิ้นก็คือการมีโอกาสได้ฟังแล้วมีศรัทธา มีความมั่นคงที่จะเห็นว่านี่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งของแต่ละชาติซึ่งเกิดมานะคะ เกิดมาเพียงเห็นได้ยินสุขทุกข์สนุกสนาน แม้ขนาดมือจีนนี่ก็ไม่อยู่ ไม่ต้องไปพูดถึงยาวไกลเลยค่ะแต่ละขณะนี้ไม่เหลือเลย เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะได้สิ่งใดมาเป็นสุขชั่วคราวหรือได้มาเข้าใจว่าเป็นของเราความจริงก็คือว่าไม่ใช่แล้วก็หมดไปแต่การสะสมสัตว์ ยูคาของการที่ได้ยินได้ฟังพระธรรมแล้วเข้าใจเลยค่ะจะค่อยๆ สะสมไปนะคะ เป็นอุปนิสัยัโขจะจนกระทั่งสามารถที่จะเป็นอารักขาดโคตรจะสามารถคุ้มครองป้องกันไม่ให้อกุศลเกิดในขณะนั้นได้นะคะ แต่ต้องตามความเป็นจริงขณะใดที่อกุศลเกิดคุ้มครองหรือเปล่าไม่นะคะ เพราะฉันพอไม่กันเข้าใจธรรมะเล็กๆ น้อยๆ ไม่พอเพราะว่าตราบใดที่ยังมีอกุศลเล็กน้อยก็จะมากขึ้นมากขึ้นได้ เพราะฉะนั้นถ้ามีความเข้าใจถูกต้องนะคะ แล้วก็มั่นคงจนกระทั่งกุศลแด่อารักขา ไม่ให้อกุศลเกิดขึ้นได้แม้ในบางครั้งบางคราวก็ยังดีที่ยังมีเครื่องป้องกันนะคะ แต่ก็ยังไม่พอเพราะเห็นว่าอกุศลก็ยังคงมีอยู่เป็นแรกที่ลึกมากแหย่ที่จะถอนขึ้นไม่ให้เกิดอีกต่อไปได้ด้วยเหตุนี้การฟังพระธรรมเท่าไหร่ก็ไม่พอ ต้องเป็นผู้ที่ตรงนะคะ ว่าสามารถที่จะเป็นอกุศลน้อยลงหรือเปล่า พระราชกุศลอารักขาแต้มขึ้นหรือเปล่าก็ยังไม่พอนะคะ เพราะเห็นว่าที่จะมีพระธรรมเป็นที่พึ่งจริงๆ ไม่ใช่เพียงไม่ให้อกุศลเกิด และให้กุศลเกิดแต่ต้องถึงการที่จะแบบอกุศลไม่เกิดอีกเลยต่อไปนะคะ เพราะฉันก็จะต้องถึงขั้นที่ได้ฟังพระธรรมเข้าใจ ปริยติฟังพระพุทธพจน์ไม่ใช่เพียงได้ยินนะคะ ฟังเข้าใจขึ้นเข้าใจขึ้นยิ่งเข้าใจยิ่งรู้ว่าห่างไกลต่อการที่จะรู้แจ้งสภาพธรรมะที่กำลังเกิดดับแต่ก็มีวิริยะมีความเพียรมีความอดทนซึ่งเป็นธรรมะที่เป็นกุศลนะคะ เพื่อที่แรกจะได้เพิ่มความมั่นคงขึ้น จนกระทั่งสามารถเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมะที่กำลังปรากฏนะคะ โดยปรกติแล้วโดยที่เมื่อไหร่เมื่อนั้นก็คือว่าไม่ใช่เราแต่เป็นสภาพธรรมะฝ่ายดีที่เกิดจากการเข้าใจจะใช้ชื่อก็ใช้คำว่าสติสัมปชัญญะแต่ก็ไม่จำเป็นนะคะ ขณะนี้มีรึเปล่าถ้าไม่ดีก็ยังไม่ใช่แต่ถ้าขณะใดเกิดขึ้นขณะนั้นก็รู้ว่าลักษณะนั้นเป็นอย่างไร จะใช้ชื่อไหนก็คือว่าหมายความถึงขนาดนั้นที สามารถที่จะเข้าใจลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ เป็นทาสหรือเปล่าคะคุณคำปั่นมีกำลังขึ้นหรือเปล่าเห็นไหมคะไม่ใช่ว่ากำลังแค่ฟังพอแล้วเดี๋ยวเป็นไปไม่ได้เลยแต่กว่าจะรู้ถึงกำลังจริงๆ ซึ่งเป็นธรรมดา ซึ่งจะทำให้มี จรัณเดชน์ความประพฤติในชีวิตประจำวันนะคะ เจริญนหรือจริยาหมายความถึงความประพฤติความเป็นไปนะคะ ที่ไม่เบียดเบียนคนอื่นเลยด้วยกายด้วยวาจาด้วยใจเริ่มสลัดความเห็นแก่ตัวเห็นแก่คนอื่นเราไม่ทำให้เขาเดือดร้อนแม่ด้วยกาย แม่ด้วยว่า แม่รู้ใจก็ไม่ค่ะ ไม่พอ อะไรอะไรก็ไม่พอพลังหรือเตชะ และยังมีกำลังที่น้อยมากนะคะ แต่ก็สะสมเพิ่มขึ้นได้จนกระทั่งรู้ว่าขนาดนั้นค่ะแม้ว่าไม่มีการที่จะกระทำทุจริตทางกายทางวาจาให้คนอื่นเดือดร้อนนะคะ แต่ใจขณะนั้นก็ไม่เดือดร้อนสงบ พระขณะนั้นไม่มีกิเลส ในขณะที่เป็นกุศลเนื้อหาก็เป็นอย่างนั้นนะคะ เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องของศีลเรื่องของ และเรื่องของปัญญา ปัญญาก็คือขณะที่สามารถเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏโดยความไม่ใช่ตัวตน อีกไกลเลยค่ะแต่จะเตะกว่าจะถึงใจจะณเดชน์คูนาร์เดสซึ่งเป็นความสงบ แล้วก็ถึงปัญญาเด็กศีลสมาธิปัญญาคือสามารถที่จะเข้าใจสิ่งที่ปรากฏ เพราะฉะนั้นขณะนี้เดชน้อยมากเรียกว่าเทพไม่ได้เหมือนกันไม้ขีดไฟ จะไปเผาบ้านบ้างไหมคะปราสาทราชวังได้เป็นไปไม่ได้เลยมหึมาสร้างเอาไว้ใหญ่โต และก็จะเอาความไม่รู้ ทั้งหมดเนี่ยออกไปได้เนี่ยทันทีเป็นไปไม่ได้แต่ต้องมีความเป็นพูดตรงๆ คือเข้าใจตามความเป็นจริงแวะแค่นี้ไม่พอแค่ฟังเข้าใจนะคะ แล้วก็ความประพฤติทางกายทางวาจาก็เป็นไปตามที่ได้เข้าใจแล้วก็สามารถที่จะรู้ความจริงของสิ่งที่ปรากฏเป็นวิปัสสนาญาณ เป็นปัญญาดึกแสดงเห็นว่าปริยะไม่ใช่ปัญญาเด็ก
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 841
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 842
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 843
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 844
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 845
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 846
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 847
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 848
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 849
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 850
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 851
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 852
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 853
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 854
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 855
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 856
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 857
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 858
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 859
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 860
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 861
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 862
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 863
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 864
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 865
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 866
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 867
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 868
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 869
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 870
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 871
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 872
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 873
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 874
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 875
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 876
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 877
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 878
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 879
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 880
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 881
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 882
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 883
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 884
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 885
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 886
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 887
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 888
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 889
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 890
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 891
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 892
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 893
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 894
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 895
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 896
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 897
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 898
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 899
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 900