พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 876
ตอนที่ ๘๗๖
ที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
วันอาทิตย์ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖
ไม่ใช่โปรด เพราะว่าได้ฟังแล้วก็เข้าใจแต่ถ้าขณะใดที่มีกำลังจนถึงสามารถที่จะรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏได้ก็เป็นปัญญาเดชนำไปสู่ปุนยะเสะสภาพธรรมะที่คาร์สกล่าวอกุศลคือดับกิเลสด้วยอริยมรรค ทั้งหมดเพราะธรรมะเตชะคือธรรมะเดช เพราะฉันก็คงจะสอดคล้องกันนะคะ ในเรื่องของธาตุไม่ใช่เราไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคลแต่เป็นสิ่งที่มีจริงแต่ละหนึ่งซึ่งจะต้องเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ใครจะดับกิเลสค่ะ ใช่เป็นไปไม่ได้เลย ต้องเป็นปัญญาที่มีกำลังตามระดับขั้นด้วย จากเมื่อวานเธอจันทร์ได้จัดประทับใจมากเข้าใจว่าเดสของความไม่รู้นี้มัวแค่ว่าฟังธรรมะที่บอกฟังไม่รู้เรื่อง เปนคนฟังไม่รู้เรื่องพระหันไปสำบ้างสำหรับเจ้ากลับมาเป็นธรรมะเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้เป็นธรรมะเหมือนคนต่างไม่รู้เรื่องใช่ไหมคะ เดี๋ยวนี้สภาพธรรมะเกิดดับก็เหมือนคนฟังไม่รู้เรื่องแค่ได้ยินนะคะ และก็จำแต่สามารถที่จะรู้เรื่องคือเข้าถึงความจริง ไม่หวั่นไหวเพิ่มขึ้นหรือเปล่า เพราะฉะนั้นแต่ละคำนะคะ จากปฐมวานจ้าจนถึงคำสุดท้ายคือปัจฉิมเมื่อวาจาระหว่างนั้นเป็นมัชฌิมาไว้ ทั้งหมดทุกคำเลยค่ะ๔๕พรรษามีค่าอย่างยิ่ง และเช่นคำว่า อารมณ์ของบิดา ๕บิดาเจอมีแค่ ผู้ให้กำเนิดกระทำ ไม่มีใครอื่นเลยนะคะ เพราะฉะนั้นจิตเกิดขึ้นต้องมีสิ่งที่จิตรู้ภาษาบาลีใช้คำว่าอารัมณาเรภาษาไทยก็เรียกสั้นๆ ว่า เดี๋ยวนี้ก็มีนะคะ แต่อารมณ์ของใคร ค่ะ ของอวิชชาใช่ไหมไม่ใช่ของบิดา ซึ่งเป็นพระอาหารกับซ้ำมาซ้ำไปแจ้ง ปกติอย่างนี้แต่รู้ความจริงของสิ่งที่ เพราะฉะนั้นกว่าจะถึง ปัญญาเดช ก็จะตั้งอเมริกันเข้าใจจริงๆ ในแต่ละ ถึงได้โดยง่ายทำไมทรงแสดงให้เห็นความละเอียดหนึ่งเน้นเพื่อจะได้ไม่รู้เข้าใจผิดสามารถที่จะหากิเลสได้รวดเร็วแต่ไม่รู้อะไรทั้งสิ้นโดยไม่มีอุปนิสัย ไม่มีอารักขะ โดยมีปลุกปั่นในพันธะชื่อครบถ้วนเท่านั้นเองนะคะ เพราะว่าได้กล่าวแล้วว่าทั้ง๓คำนี้หมายความถึงอะไรเพราะฉันก็จะแสดงให้เห็นว่าแม้แต่คำว่าอารมณ์ของบิดาก็คือธรรมดาปกติแต่ว่าเมื่อเป็นดินแดนก็สามารถที่จะเห็นถูกเข้าใจถูกในสิ่งที่กำลังปรากฏ เพราะฉะนั้นขณะนี้นะคะ อารมณ์ของใคร แล้วก็จะเป็นอารมณ์ของบิดาเมื่อไหร่ เมื่อมีความเข้าใจถูกจนเข้าใจลักษณะของสิ่งที่ปรากฏเช่นเดียวกับที่บิดาได้มีอารมณ์มาก่อน ไม่ต้องไปหาบิดาอื่นหรือไม่รู้ว่าเอ๊ะเป็นบิดา และอารมณ์ของบิดานี้จะเป็นยังไงนะคะ อารมณ์ของบิดาก็คือปัญญานั่นเองประการเดียวนะคะ พระปัญญาคุณพระบริสุทธิคุณพระมหากรุณา ถ้าใส่ขับขี่ม้าฟังท่านอาจารย์ ผู้ที่ตามสั่งก็หมายถึงว่าสามารถฟังเข้าใจได้ว่าเป็นแค่ธรรมะแต้มนะไม่ใช่สัตว์ตัวตนบุคคลสิ่งหนึ่งสิ่งใด ก็มาฟังว่าเราเป็นอย่างงี้อย่างไรก็ฟัง ค่ะอันนี้คืออุปนิสสยะโคจะระใช่ไหมคะได้ยินได้ฟังสะสมมาที่จะพูดตามก่อนว่าทุกอย่างที่มีจริงขณะนี้เป็นธรรมะแต่ทุกอย่างไม่พอค่ะต้องละเอียดจนกระทั่งเห็นเป็นธรรมะ ถ้าเป็นธรรมะก็คือไม่ใช่เราไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นทาสเป็นสิ่งที่มีจีนมีลักษณะที่ใครไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เริ่มเข้าใจได้ยินก็เป็นธรรมะเสียงก็เป็นธรรมะคือต้องเข้าใจตามลำดับด้วยไม่ใช่ทุกอย่างเป็นธรรมะ และอะไรละโกรธเป็นธรรมะหรือเปล่า หิวเป็นธรรมะหรือเปล่าใช่ไหมคะบางคนก็ตอบว่าหิวก็เป็นธรรมะมีจริงๆ แต่ก็ยังสงสัยหิวนี่เป็นรูปธรรมหรือนาง จะให้คนอื่น หรือว่าขณะที่หิวเผือกลักษณะของหิว และเป็นความรู้สึกใช่ พระเอกว่ารูปไม่สามารถจะรู้อะไรได้เลยทั้งสิ้นค่ะรูปใหม่๗รูปไม่หิวรูปไม่โกรธนะจ๊ะรูปไม่รักวิชาไม่สามารถที่จะรู้อะไรได้เลยทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นลักษณะเองจากนี้ทั้งหมดนะคะ ก็คือการสลายของนามธรรมไม่ต้องเรียกว่านามธรรม พระเอกแวะเดี๋ยวก็จะไปติดที่คำว่านามธรรมอีกเพราะอะไรเกิดขึ้นกับแทนที่จะรู้ลักษณะนั้นนามธรรมโรม่าละนะคะ หรือไม่แบบนี้รูปธรรมก็เลยล่ะเลยการที่จะเข้าใจลักษณะจริงๆ ไม่ต้องรีบชื่อสิ่งนั้นก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้เพราะฉันไม่ใช่ไปรู้ก่อนนะคะ ว่านามธรรม และรูปธรรมโดยชื่อจะได้ไปหาว่านี่นำมาทำในรูปทำเวรหิว และเป็นนามธรรมใดรูปธรรมบางคนก็สงสัยเลยค่ะง่วงเป็นนามธรรมหรือรูปธรรม บางคนก็คิดเองใช่ไหมคะนี่ก็แสดงให้เห็นว่าไปจำชื่อไปกังวลเรื่องชื่อ เป็นจริงขนาดนั้นไม่ได้เข้าใจลักษณะซึ่งเป็น ไปถึงหนึ่งสิ้นชื่อไม่มีชื่อเพื่อน สรุปก็ปรากฏชัดเจนไม่ได้เรียกว่าฮิ และก็ไม่ใช่แขน และก็ไม่ใช่เสียงเพราะฉันหิวเป็นหิวเป็นสภาพธรรมะอย่างหนึ่งเช่นเกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย ถ้าใช่ค่ะการที่บอกว่าเข้าใจหรือไม่เข้าใจว่าเข้าใจแล้วว่าเป็นธรรมะเป็นทาสฟังแล้วตามฟัง ในขั้นที่ว่าฟังแล้วจำชื่อเรื่องหรือเป็นความเข้าใจจริงๆ และเป็นปริยัติเป็นสัตว์ ตรงเนี้ยจะเป็นอะไรที่เป็นขั้นที่ยากจริงๆ แล้วจันก็ตรงข้อความลาจารย์ย้ำค่ะถูกต้องค่ะทำไม่ยากแน่ทำเมล็ดเซ็งแน่ เข้าใจขึ้นเข้าใจขึ้นตาม หายไปละธรรมะ ทุกอย่างเป็นธรรมะเล่มเลย เลยค่ะขนาดนั้นกล่าว เพราะฉะนั้นแม้แต่การเข้าใจจากการฟังว่าทุกอย่างเป็นธรรมะเลยค่ะแต่เวลาที่สภาพธรรมมะเร็งสภาพธรรมะได้ปรากฏเป็นธรรมะหรือเปล่าเป็นธรรมมะริก็ต้องอาศัยอุปนิสัยัโคจะระการฟังการไตร่ตรองเป็นความมั่นคงนะคะ ก็จะทำให้ค่อยๆ เกิด มารักคาสโคดจะสามารถที่จะขณะนั้นระลึกได้ ไม่โกรธ ค่ะรู้ว่าขณะนั้นเป็นอกุศลก็ได้ แต่ก็ยังไม่พอจนกว่าจะถึงเป็นธรรมะซึ่งเป็นอุปนิสัย จากระดับขั้นซึ่งกรธเสมอหรือว่าอาจจะหิวเสมอหรือจะอะไรก็แล้วแต่ที่เกิดขึ้นบ่อยๆ แล้วก็ไม่รู้เลยว่าขณะนั้นเป็นธรรมะก็จะการที่สะสมการเข้าใจก็จะทำให้มีการระลึกได้ว่าขณะนั้นอาจจะคิดถึงคำนะคะ เป็นธรรมะ แต่ว่าคิดไปเท่าไหร่ก็ไม่ได้รู้ลักษณะของทางมาจนกว่าไม่คิดลักษณะนั้นก็เป็น ความเข้าใจก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นแบบไม่ต้องคิดนะคะ แต่ว่าในขณะนั้นลักษณะนั้นก็ปรากฏแสน ปัญญาแค่นั้นแหละเหมือนกับว่า เข้าใจแค่ไหนจะแข็งจำนวนปรากฏเดี๋ยวนี้ทุกคนพิสูจน์ เข้าใจแค่ไหนเห็นไหมคะต้องมานั่งเทียบไม่ว่าในเป็นความเข้าใจข้างปริยัติด้วยขั้นอารักขะหรือค่าอะไรไม่ต้องเลยค่ะเพียงแต่ว่าเป็นผู้ที่ตรงว่าขนาดนั้นอ่ะมีลักษณะของสภาพธรรมะที่ปรากฏเส้นปกติไม่ได้ปรากฏอย่าง คือเห็นว่าเรากรอบแข็งทั้งวันตั้งแต่เช้าแต่ลักษณะแข็งผ่านไปเลยเหมือนไม่ได้ปรากฏใช่ไหมคะแต่กับขณะที่แข็งกำลังปรากฏรออะไรเพราะเคยฟังรู้ว่านี่แหละเป็นธรรมะนะคะ เพราะฉะนั้นจะไปเป็นธรรมะตอนไหนก็ต้องเป็นตอนที่ลักษณะของสภาพธรรมะปรากฏจริงๆ และก็มีความเข้าใจจริงๆ ในขณะนั้นทีละเล็กทีละน้อย อาจารย์คะแจ้งยกตัวอย่างเรื่องโกรธเรื่องหินเนี่ยแต่จะขอยกตัวอย่างเรื่องที่เป็นกันมากคือง่วง เวลาฟังคำหวานๆ ง่วง แทนที่จะเข้าใจว่าลืมไปแล้วว่าโง่เป็นธรรมะมีเหตุปัจจัยก็เกิดก็จะไปคิดต่อว่า ทำยังไงถึงจะไม่ง่วงซึ่งตรงนี้ก็แสดงว่าความไม่เข้าใจแล้วว่าเป็นข้าราชเชิญอีกนานไหมคะกว่าจะแม่กำลังคิดว่าทำยังไงจะไม่งงก็เป็นธรรมะ ไม่รู้มีชัยขณะเดียวที่จะสอน ถ้าใช่ก็นั่นหมายความว่าธรรมะปรากฏตลอด แต่ว่าลืมไม่ว่าเป็นธรรมะทุกขณะ ถ้าฟังเข้าใจก็จะค่อยๆ ค่อยๆ ไหม ค่ะแม่จะถามกันนะคะ เตือนกันว่าวันนี้ลืมอะไรรึเปล่าก็ตอบไปอย่างนั้นแหละใช่ไหมคะเร็วมากหมดแล้ว เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดจริงๆ ค่ะเพราะฉันรู้เพื่อน และความไม่รู้ถ้ายังคงต้องการซิลสีได้ ซ์ซ์ให้กลายเป็น ใครจะตอบว่าอ้าว ค่ะ สองอย่างว่าคือความเข้าใจถามว่าด้วยแล้วก็สะดวกสบายกับชีวิตอะไรด้วยประมาณนี้อยู่ประจำแต่จริงๆ แล้วถ้าเข้าใจจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่มีอะไรมีค่าเกินกว่าปัญญาที่เข้าสองอย่างก็ไม่ต้อง แต่นี่เลือกให้อย่างเดียว ๕สองอย่าง แสดงว่าไม่มีค่า แต่เมื่อเป็นเพียงอย่างเดียวนั่นแหละมีค่า เพราะสามารถที่จะทิ้งอีกอย่างนึงได้ ถ้าจะกล่าวว่าลาภานุสุริยะก็บอกว่าลาภที่ประเสริฐที่สุดก็คือการได้ฟังพระธรรมความเข้าใจก็จะขอให้ตายเพราะเป็นเช่นนั้นจริง แค่สะสมไปไหนคะยังไงก็ต้องจากโลกนี้เดี๋ยวนี้ก็ได้แต่จากไปด้วยกันสามารถได้มีความเข้าใจสะสมไปที่จะไม่เป็นทุกข์เพราะยึดถือว่าเป็นราวหรือเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดเส้นเที่ยงซึ่งความจริงไม่เที่ยง ลองอยู่ตลอดเวลา ลงอะไรคะ ลองสิ่งที่ไม่มี พระเอกว่ามีชั่วคราวแล้วดับแล้วไม่มีอีกเลย เดี๋ยวนี้ค่ะทุกอย่างที่กำลังปรากฏเป็นอย่างนี้คือจากไม่มีแล้วแม้ที่เกิดขึ้นแล้วกระดับคือหมด จริงๆ เพราะฉันหลงอะไรหลงสิ่งที่ เข้าใจว่ายังมี หญิงแย้ใช่ไหมคะลองสิ่งที่ไม่มี ภาพคุณย่ามรดกให้พวกเราคือปัญญาแต่พวกเราจะเป็นลูกที่มี ไม่สามารถจะรับคพบได้ศึกษาเพื่อทำเปรียบเทียบกับชีวิตประจำวันสนุก ฟังไม่รู้เรื่อง บอกแล้วก็ไม่รู้ใช่ไหมคะว่าบอกกี่ทีก็ไม่จำก็อย่างชาวบ้านที่พูดกันใช่ค่ะสอนลูกลูกก็ไม่จาก ก็ขนาดเท่าไหร่ก็ไม่จำฟังเท่าไรก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้อย่างน้อยก็ได้มาฟังพระสัทธรรมที่อาจารย์ได้สั่งสอนหรือได้กล่าวที่เตือนบ่อยๆ ก็ได้ฟังไม่เข้าใจบ้านเล็กน้อยอาจจะได้รับมรดกก้อนหลายวันหนึ่งก็เช่นสอนก็ดีเจอสอง ลูกหลานเด็กเล็กหรือใครนะครับ ผู้ที่ไม่เข้าใจสามารถไม่รู้ความจริงนะแต่อย่าลืมความเป็นทาส ถ้ามีความเข้าใจจริงๆ ในการก็จะมีธาตุที่เป็นฝ่ายกุศลที่เป็นความเห็นถูกค่อยๆ เพิ่มขึ้นค่ะเพราะฉันไม่ใช่เราจะไปสอนใครให้เข้าใจ ใช่แต่ถ้าเข้าใจนะคะ ต้องให้เขาได้พิจารณา จนกระทั่งมีความเข้าใจเพิ่มขึ้น กราบเรียนท่านอาจารย์ครับธรรมะอภิธรรมปรมัตธรรม ปรมัตถ์จะทำ๓เป็นชั้นค่ากับเธอ ถ้าจะเข้าใจ ในความเป็นจริงที่เป็นพื้นฐานว่าปรมัตถธรรมกับขันธ์๕เนี่ยอาจารย์จะ ช่วยวิเคราะห์ทำไมถึงสนใจ ปรมัตถ์ธรรมแล้วก็ขันธ์๕สนใจที่จะเข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ หรือ ที่ว่าไปสนใจคำ ที่ยังไม่รู้เลยว่าอะไรอย่างขันธ์๕ก็ไม่รู้อะไรบางคนได้ยินคำว่าปรมัตถ์ธรรมก็บอกว่าไม่รู้ว่านะคะ เพราะฉะนั้นแทนที่จะเป็นการไปสนใจในคำ เพียงที่จะรู้ว่าคำนั้นคืออะไรในสิ่งที่มีจริงๆ นิดีกว่าไหมคะ ก่อนเองต้องรู้ความจริงว่าจะสนใจ นะครับ นั้นไม่ได้กล่าวให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ค่ะ ประโยชน์ ยูไนเต็ดได้ยินคำแปลหรือว่าทำอีกมากมายก็ตามแต่นะคะ แต่ว่าให้ทราบว่าพระธรรมที่ทรงแสดงด้วยค่ะไม่ได้ทรงแสดงเป็นภาษาไทย แน่นอนชาวมาขดในครั้งก็ต้องพูดภาษาไม่แท็กซี่เป็นชีวิตประจำวันที่พอเข้าใจได้ เพราะฉะนั้นถ้าจะให้ใครเข้าใจสิ่งที่มีจริงในภาษา จะต้องใช้ถนนเศร้าฉันเดี๋ยวนี้นะคะ มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดฝรั่งกฏว่ามีจริงๆ หรือเปล่าแค่นี้ค่ะเพราะว่าถ้าไม่คิดเลยได้แต่ฟังเนี่ยแล้วจะเอาความเข้าใจมาจากไหน เพราะฉะนั้นเมื่อได้ยินได้ฟังอะไรแล้วนะคะ สองไตร่ตรองต้องเข้าใจเพื่อที่จะได้รู้ด้วยตัวเองว่าถูกหรือเปล่า เพราะฉะนั้นคำถามธรรมดา ขณะนี้นะคะ มีอะไรบ้างที่มีจริงๆ ค่ะ เริ่มคิดเพื่อที่จะได้เข้าใจด้วยตัวเองนะคะ ว่าคำที่ได้ยิน และถูกต้องไหม อะไรมีจริงค่ะเดี๋ยวนี้ค่ะแข็งมีจริงนะคะ แข็งมีจริงต้องเลือกแข้งใหม่ ถ้ามีจริงๆ ก็ไม่ต้องเรียกชื่อไม่ต้องมีชื่อก็แข็งใช่ไหมคะเปลี่ยนชื่อได้ไหมคะเรียกวานได้มั้ยคะ จะแข็งไปเป็นวานล่ะแต่ว่าเปลี่ยนความหมายหรือลักษณะของแข็งไม่ได้ เพราะฉะนั้นในแต่ละภาษานะคะ จะมีคำที่ซ้ำกันภาษาหนึ่งนะคะ ดำหมายความถึงแบงค์ และแดงไม่ความถึงดังสาวเวียดนามแค่จะไปซื้อเสื้อผ้าจะต้องใช้ทำให้ตรงๆ เลยค่ะเรียกว่าความหมายเป็นอีกนั้นด้วยเหตุนี้นะครับ ต้องเข้าใจก่อนค่ะว่าสิ่งที่มีจริง และใครรู้ว่าเป็นอะไร แม้ว่ามีก็ไม่รู้ใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นถ้ามีผู้ที่รู้ และก็สามารถที่จะแสดงความจริงของสิ่งที่มีจริงให้ได้ฟังให้ได้เข้าใจ ไม่ต้องไปกังวลเรื่อง พระเอก และเป็นสองภาษา ภาษาบาลีไม่มีคำว่าสิ่งที่มีจริงแต่มีคำว่าธรรมะ ความหมายตรงกันค่ะต้องเป็นสิ่งที่มีจริงจริงจึงสมควรที่จะฝัน ไปฟังสิ่งที่ไม่มีไม่จริงจะมีประโยชน์อะไรแต่ว่าฟังเรื่องสิ่งที่มีจริง และได้ประโยชน์เพราะเหตุว่าผู้ที่จะกล่าวถึงสิ่งที่มีจริงเป็นผู้รู้ถ้าไม่รู้กล่าวไม่ได้เลยสิ่งความจริงของสิ่งที่นี่นะคะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่มีจริงๆ นะคะ เป็นธรรมะทั้งหมด ประสานมาลีนะคะ แต่ศาลไทยก็คือว่าสิ่งที่มีจริงก็ต้องมีจริงๆ แต่ไม่มีจริงๆ ได้ยินไม๊จริงๆ คลิปมีจริงเจ้ชอบมีจริงๆ นะคะ มีจริงๆ เสียงดีจริงๆ ที่มีจริงเป็นจริง เปลี่ยนเป็นภาษาบาลีก็คือว่าเป็นทางมาถือเป็นสิ่งที่มีจริง ใครสามารถเปลี่ยนลักษณะของสิ่งที่มีจริงๆ เนี่ยให้เป็นอย่างอื่นได้ไหม ไม่ได้นี่คืออธิบายความหมายของสิ่งที่มีจริงว่าเพราะสิ่งนั้นไม่มีใครสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่นได้เลยค่ะจึงเป็นปะระมะ อัตทะเป็นปรมัตถธรรมเป็นธรรมะที่มีลักษณะนี้อ่ะที่มันเป็นใหญ่เทพใครก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ก็สามารถสำเร็จเจ้าจะเปลี่ยนเสียงให้เป็นแข็งก็ไม่ได้ใช่ไหมคะแต่ว่าทรงรู้แจ้ง ความจริงของสิ่งที่มีด้วยเหตุนี้สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่มีจริงๆ มีลักษณะเฉพาะศูนย์นั้นที่เปลี่ยนแปลง ต์เป็นสีน้ำเท่านั้นจริง ต์สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่มีเจมส์เป็นปรมัตกะทะเหล็กเซ็งไหมคะเหล็กเส้นละเอียดมั้ยคะก็เป็นอภิธรรมกะฉันเข้าใจธรรมะ และไม่สงสัยเลยค่ะ ต์แล้วยังไงล่ะคะแค่นี้พอไหมไม่พอนะคะ แต่ว่าความเข้าใจเพิ่มขึ้น๔ที่จ แทมมี่เกิดจะปรากฏว่ามีได้ไหม ไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็แสดงว่าสิ่งหนึ่งสิ่งใด และไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครใครจะไปทำให้เกิดก็ไม่ได้แต่ว่าสิ่งนั้นเกิดเมื่อมีปัจจัยที่จะเกิดเท่านั้น ยังแข็งก็ต้องมีปัจจัยที่จะทำให้เกิดเป็นแขก แต่ว่าไม่รู้แต่ว่ามีผู้รู้ก็หนิงบอก คิดถึงสิ่งที่มีจริงทุกคน ไม่มีความเข้าใจเพิ่มขึ้นได้จากกระทำที่พูดอยู่นั้นทรงแสดงเพราะสงสารสัตว์ ที่๓เรื่องความจริงของสิวซึ่งเมืองจีนซึ่งเป็นธรรม จริงๆ กลยุทธ์ปัจจุบันซึ่งเป็นอธิกันละเอียดขึ้นเมื่อ๔ที่มีจริงขณะนี้คือ นี้กลับไปอีก ว่างเปล่า ตรงกับภาษาบาลี ซึ่งคุณคำปั่นก็คงจะให้ความหมายของคำว่าขันธ์พระนะคะ ครับซึ่งรายละเอียดของความเป็นจริงของสมาพันธ์อาจารย์ก็ได้กล่าวไปหมดแล้วนะครับ ที่แสดงถึงสภาพธรรมะที่มีจริงๆ สภาพทำอาชีพนี้จริงที่เกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวันเป็นจริงแต่ละขณะแต่ละขณะเมื่อเกิดแล้วก็ต้องดับไปนี่แหละครับคือความหมายของขันธ์พระหรือว่าคันดะในความหมายของภาษาบาลีก็คือสภาพธรรมะที่ส่งไปสิ้นความว่างเปล่า ประมาณเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยแล้วก็ดับไปไม่เที่ยงไม่ยั่งยืนไม่มีอะไรเหลือเลยครับนี่คือความเป็นจริงของธรรมะชี้เป็นขั้นครับ ค่ะสิ่งที่มีว่างเปล่าเหมือนอากาศนะคะ มีแรกก็หมดแล้วไม่กลับไปอีกหนึ่งวางจี ไม่สามารถที่จะยึดถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้อีกตลอดไปฝั่งโรงเรียนนี้เนี่ยเริ่มเข้าใจความจริงของชีวิตแต่ละขณะตั้งแต่เกิดจนตายนะคะ โยงไปถึงแม้แต่ว่าขณะเกิดก็มีสิ่งที่มีจริงนั้น และเกิดเป็นสภาพรู้เท่าไม่รู้อะไรก็ไม่กล่าวว่ามีชีวิตแล้วก็ยังมีสภาพธรรมชาติ ก็มีลักษณะที่ต่างจากไปให้เชิญขนมมะลินะคะ มีสองอย่างแน่ๆ คืออย่างอื่นในทางฝากกดให้รู้ได้แต่ไม่สามารถจะรู้อะไรได้อย่าเ๔ยงได้ของเมื่อกี้นี้ก็ถามแล้วมีจริงไหมมีจริงเป็นธรรมะไม่เป็นแต่เสียงไม่สามารถจะรู้อะไรได้เธอจะเป็นธรรมะประเภทนึงนะคะ ซึ่งมีจริงแต่ไม่รู้ เรียกชื่อดีจะได้เข้าใจง่าย เยอะเรียกว่ารูปฌาน ลูกเรือ รูปคู่จริงจะเป็นรูปโอนได้ และรูปนั้นก็ต้องดัด เพราะฉะนั้นสิ่งใดสิ่งหนึ่งประการซึ่งเกิดระดับเป็นธรรมะที่เกิดระดับก็เป็นประเภทของธรรมะที่เป็นขันธ์แต่เมื่อเป็นรูปธรรมนะคะ ไม่สามารถจะรู้อะไรทุกรูปก็เป็นรูปธรรม เท่านี้เองค่ะไม่ได้หมายความว่าไปญาติอะไรเลยนะคะ แต่ว่าเข้าใจขึ้นเข้าใจขึ้นมาธรรมะนี่แหละเกิดเกิดแล้วก็ดับความหมายของสิ่งที่เกิดดับแล้วไม่กลับมาอีกก็คือความว่างเปล่าจากการที่จะไปยึดถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่มีจริงๆ ตลอดเวลาที่เที่ยง เช่นนั้นเลย เพราะฉะนั้นแค่ได้ยินคำว่าฉัน เมื่อผมไม่รู้สิ่งนั้นมีชื่อ จีนเกิดขึ้นปรากฏแล้วหมดไปแล้วก็ไม่กลับไปอีก เพราะฉะนั้นเสียง ไม่เกิดไม่มีไม่ปรากฏแล้วเสียงก็ล่ะก็ปรากฏแล้วก็หมดไปเพราะฉันเ๔ยงก็เป็นขั้นแต่ว่าเสียงไม่ใช่สภาพรู้ เพราะฉะนั้นเสียงก็เป็นรูปที่เกิดระดับก็เป็นรูปขันธ์ทั้งนั้นเลยค่ะกลิ่นก็เป็นรูปประกันรถก็เป็นรูปประกัน สภาพธรรมะใดๆ ที่ไม่รู้ก็เป็นรูปขันธ์แต่ว่าสภาพธรรมะอีกอย่างนึงนะคะ เกือบแล้วต้องรู้ เห็นขณะนี้ค่ะตาเห็นหรือเปล่า แต่ไม่เห็นแม้จะไม่ค่ะแต่ถ้าเห็นกำลังเห็น ซึ่งแยกมากที่จะรู้ว่าสภาพรู้ซึ่งไม่มีรูป เห็นยังไง เห็นแอมเป็น ไม่เป็นเองแจกที่กำลังเห็นแอร์ไม่รู้ว่าเห็นเกิดเหตุรุนแรง เพราะฉะนั้นเห็นก็เป็นขั้นด้วยแต่ไม่ใช่รูปขันธ์เพราะเป็นสภาพรู้นะคะ เพราะฉะนั้นก็เป็นนาม ก็จะความเข้าใจในสิ่งที่มีจริงๆ และก็เข้าใจคำที่ได้ยินด้วย ฉันก็ต่างกันไปหลายอย่าไปทั้งหมดก็คือรูป เพราะฉะนั้นแม้แต่น้ำอากาศนะคะ ซึ่งมีลักษณะต่างๆ กันไป ควบคุมสิ่งของหรือที่สอง๑๐แห่งตามความยึดถือแสดงสิ่งที่มีจริงนะคะ ที่เป็นคันที่เกิดแม่เกิดแล้วดับแล้วไม่กลับมาอีกโมหะความไม่รู้ก็ยังยึดถือในสิ่งที่ว่าง เพลงเกิดขึ้นปรากฏ แล้วก็ไม่ปรากฏไม่มีอีกเลย นี่ก็แสดงให้เห็นว่านะคะ เพราะความไม่รู้จึงมีอุปาทานการยึดถือสิ่งที่เกิด ไม่รู้จึงเข้าใจว่าเที่ยง เพราะฉะนั้นก็ยึดถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่ง เป็นดอกไม้เป็นโต๊ะเป็น๙อี้เป็นทุกอย่างนะคะ ตามความยึดถือว่าเป็นอย่างนั้นทั้งๆ ที่สิ่งนั้นไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยค่ะเป็นแต่เพียงสิ่งหนึ่งซึ่งมีจี เพราะฉะนั้นทางน้ำมาขัน และรูปกันนะคะ ก็ต่างกันที่ว่าหลากหลายมากรูปประกันทั้งหมดมี๒๘ประเภทนะคะ แล้วก็นำมาคั้นก็มีเป็น ๕ที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้ใช้คำว่าจิตส่วนสภาพธรรมะเอนะคะ ไม่ใช่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งสิ่งที่กำลังปรากฏแต่เกิดกับจิตร่วมแต่งจิตทำให้จิตมีลักษณะแตก ใจแท้วัน๗๐หรือ๗๐ เคยเข้าใจไม่ใช่ผู้ใจทีเดียววันนี้โหมดแต่เริ่มเข้าใจความหมายของคำว่าทำมาเรื่องเข้าใจความหมายของชาวเวอร์ค่ะ เริ่มเข้าใจความหมายของอุปทานนะคะ ๕ครับส่วนใหญ่จะได้ยินคำว่าขันธ์๕ ถ้าได้ยินคำว่าขันธ์๓ก็มีอีกนัยหนึ่ง เพราะฉะนั้นการศึกษาธรรมะเลยนะคะ ไม่ใช่เพียงจบเพียงคำเดียวแต่ว่าธรรมะหลากหลายมาก เพราะฉะนั้นก็มีคำมากที่จะแสดงถึงความหลากหลายค จีนศึกษาโดยละเอียดไม้แปรรูปหรือแสดงธรรมะที่มีจริงไม่ใช่สักห้องหรูนะฮะไม่ได้แม้เสียงเมนูอาจเกิดขึ้นเป็นรูปเสร็จอย่างเป็นครั้งแต่แม้กระนั้นก็มีข้าวให้ลูกในความหมายอื่นอีกซึ่งจะต้องศึกษาให้ละเอียดขึ้น
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 841
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 842
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 843
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 844
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 845
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 846
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 847
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 848
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 849
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 850
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 851
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 852
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 853
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 854
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 855
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 856
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 857
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 858
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 859
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 860
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 861
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 862
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 863
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 864
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 865
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 866
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 867
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 868
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 869
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 870
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 871
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 872
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 873
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 874
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 875
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 876
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 877
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 878
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 879
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 880
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 881
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 882
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 883
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 884
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 885
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 886
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 887
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 888
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 889
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 890
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 891
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 892
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 893
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 894
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 895
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 896
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 897
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 898
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 899
- พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 900