ศิษย์ร่วมอาจารย์
เมื่อสนทนาธรรมจบแล้ว ก็กลับไปพักที่โรงแรม หลายท่านต้องเปลี่ยนชุดให้สวยงาม เหมาะสมเพื่อเป็นผู้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระผู้มีพระภาค และพระธาตุของ พระอัครสาวกทั้งสองเพื่อให้พวกเราได้นมัสการ
เมื่อกลับมาที่สมาคมมหาโพธิ์ พุทธคยา พบว่ามีชาวศรีลังกาแต่งชุดขาวมานั่งอยู่เต็ม ไปหมด พระภิกษุผู้ดูแลสมาคมฯ ท่านพระสีวลี กำลังชี้แจงให้ชาวศรีลังกาในที่นั้น ทราบว่า มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ซึ่งมีท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวน เขตต์ เป็นประธานนั้น ได้ทำคุณประโยชน์แก่สมาคมมหาโพธิ์เป็นอันมาก สิ่งหนึ่ง คือ ได้สร้างผอบเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระผู้มีพระภาค และพระธาตุ ของพระอัครสาวกทั้งสอง จึงเห็นว่ามีชาวศรีลังกาหลายท่านมาสาธุการกับท่านอาจารย์ (คงเหมือนอนุโมทนาแบบไทย)
ท่านพระสีวลีกล่าวต้อนรับท่านอาจารย์ว่า ท่านอาจารย์สุจินต์เป็นอาจารย์ของท่าน เช่นกัน และบอกว่า พวกเราโชคดีมากที่เป็นศิษย์ของท่านอาจารย์ เพราะท่านเป็นผู้ แตกฉานในพระไตรปิฎก มีความสามารถในการถ่ายทอด และอุทิศตนเพื่อการเผยแพร่ พระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง ท่านพูดยาวกว่านี้มาก เสียดายที่ภาษาอังกฤษไม่ค่อย แข็งแรง เลยจำมาได้แค่นี้ ได้ทราบมาว่า ท่านได้สนทนาธรรมกับท่านอาจารย์หลาย ครั้งที่ภูฐาน และได้ศึกษาธรรมจากการอ่านหนังสือ “ปรมัตถธรรมสังเขป” ที่ท่าน อาจารย์เขียนด้วย
เมื่อถึงเวลาอัญเชิญออกมาให้นมัสการ ได้เห็นพระบรมสารีริกธาตุของพระผู้มีพระภาค และพระธาตุของพระอัครสาวกทั้งสองอย่างใกล้ชิดยิ่งกว่าทุกครั้ง และท่านได้นำมา เทินบนศีรษะของทุกคนอย่างทั่วถึง
กว่าพิธีนมัสการจะเสร็จ ท้องฟ้าก็มืดมิดแล้ว ดอกบัวที่เคยสวยงามที่เด็กอินเดียนำมา ขาย และคนใกล้ชิดได้ซื้อมาแจกให้ทุกคนก็เหี่ยวเฉาหมดแล้ว เห็นสภาพธรรมที่ไม่ เที่ยงอย่างชัดเจน จนดูไม่น่าศรัทธาที่จะนำไปนมัสการ จึงต้องซื้อใหม่ แต่คราวนี้แจก ได้ไม่กี่คน ยังดีที่คุณขาวนำดอกบัวประดิษฐ์สีเงินและสีทองมาให้ทุกคน ท่านอาจารย์ ได้นำจุดเทียนโคมประทีปอันสวยงามที่นำมาจากกรุงเทพฯ ท่านพระสีวลีและภิกษุศรี ลังกาจำนวนหนึ่งนำหน้าขบวนพวกเราจากสมาคมฯ ไปยังพระสถูปพุทธคยา เพื่อ เวียนเทียนประทักษิณ ท่านพระสีวลีสวดไตรสรณคมน์ด้วยสำเนียงบาลีที่ชัดเจน ฟัง แล้วเกิดศรัทธาปสาทะเหลือเกิน พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ... ตติยัมปิ ... นึกคิดตามกำลังสติปัญญาของตนว่า ข้าพเจ้า ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง ขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง แม้ครั้งที่ ๒ ... แม้ครั้งที่ ๓ ... ด้วยการฟังและศึกษาพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสไว้ดีแล้ว พร้อมด้วยการเป็นผู้ว่าง่าย เชื่อตามคำสอนของพระองค์ว่า ทุกอย่างเป็นธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน และพยายามพิจารณา สังเกต สำเหนียกที่จะรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง และเชื่อว่า จะสามารถเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมได้ ถ้ารู้จักโลกในวินัยของพระอริย เจ้า คือ โลก ๖ ทาง ได้แก่ โลกทางตา โลกทางหู โลกทางจมูก โลกทางลิ้น โลกทาง กาย และโลกทางใจโดยไม่ปะปนกัน
ท่านพระสีวลีก็คงเกิดศรัทธามากเช่นกัน ท่านพาพวกเราเดินรอบพระเจดีย์ชั้นล่าง ๑ รอบ และขึ้นบันไดไปชั้นบนซึ่งเป็นรอบใหญ่อีก ๑ รอบ พร้อมกับสวดไตรสรณคมน์ไป ตลอดทางด้วย ซึ่งใช้เวลานานมาก และในที่สุดก็สิ้นสุดการประทักษิณ พวกเราอุทิศ ส่วนกุศล และขอขมาพระรัตนตรัยถ้าได้กระทำผิดพลาดล่วงเกินไป เพื่อการสำรวม ระวังในกาลต่อไป และต่างคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนที่โรงแรม เพื่อเตรียมตัวสำหรับ การเดินทางไกลไปกรุงราชคฤห์ในวันรุ่งขึ้น
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ
"...พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆังสรณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ .... ตติยัมปิ...นึกคิดตามกำลังสติปัญญาของตนว่า ข้าพเจ้า
ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง ขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง แม้ครั้งที่
๒ ...แม้ครั้งที่ ๓ ... ด้วยการฟังและศึกษาพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสไว้ดีแล้ว
พร้อมด้วยการเป็นผู้ว่าง่าย เชื่อตามคำสอนของพระองค์ว่า ทุกอย่างเป็นธรรม เกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน..........พิจารณา สังเกต
สำเหนียก ที่จะรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง..."
สำนวนการเขียนของพี่แดง เรียบง่าย ชัดเจน ตรง ซื่อสัตย์และจริงใจกราบอนุโมทนาในกุศลธรรม อันพี่ได้สั่งสมไว้ดีแล้วนั้น ครับ
อนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนา
ขอขอบคุณ และ ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ มาก มาก ค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ