[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 582
ตติยปัณณาสก์
โยธาชีวรรคที่ ๔
๑๐. ตติยอัสสสูตร
ว่าด้วยม้าอาชาไนย และบุรุษอาชาไนย ๓ จําพวก
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 34]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 582
๑๐. ตติยอัสสสูตร
ว่าด้วยม้าอาชาไนย และบุรุษอาชาไนย ๓ จำพวก
[๕๘๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงม้าอาชาไนยตัวประเสริฐ ๓ และคนอาชาไนยผู้ประเสริฐ ๓ ท่านทั้งหลายจงฟัง จงทำในใจให้ดี เราจักกล่าว
ภิกษุทั้งหลายรับสนองพระพุทธดำรัสแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสขยายความต่อไปว่า ม้าอาชาไนยตัวประเสริฐ ๓ เป็นอย่างไร? คือ ม้าอาชาไนยตัวประเสริฐลางตัวฝีเท้าดี แต่สีไม่งาม ทรวดทรงไม่งาม ลางตัวฝีเท้าดี สีก็งาม แต่ทรวดทรงไม่งาม ลางตัวฝีเท้าก็ดี สีก็งาม ทรวดทรงก็งาม นี่ม้าอาชาไนยตัวประเสริฐ ๓ จำพวก
คนอาชาไนยผู้ประเสริฐ ๓ เป็นอย่างไร? คือ คนอาชาไนยผู้ประเสริฐลางคนมีเชาวน์ดี แต่สีไม่งาม ทรวดทรงไม่งาม ลางคนมีเชาวน์ดี สีก็งาม แต่ทรวดทรงไม่งาม ลางคนมีเชาวน์ก็ดี สีก็งาม ทรวดทรงก็งาม
คนอาชาไนยผู้ประเสริฐมีเชาวน์ดี แต่สีไม่งาม ทรวดทรงไม่งาม เป็นอย่างไร? ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ เพราะสิ้นอาสวะทั้งหลายกระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติอันหาอาสวะมิได้ ด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเอง สำเร็จอยู่ในปัจจุบันนี่ เรากล่าวความกระทำให้แจ้งซึ่งวิมุตติ (คือ เป็นพระอรหันต์) นี้ ในความมีเชาวน์ดีของเธอ แต่ภิกษุนั้นถูกถามปัญหาในอภิธรรมอภิวินัยแล้ว จนปัญญา แก้ปัญหาไม่ได้ ฯลฯ นี้แล ภิกษุทั้งหลาย คนอาชาไนยผู้ประเสริฐ ๓ จำพวก.
จบตติยอัสสสูตรที่ ๑๐
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 583
อรรถกถาตติยอัสสสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในตติยอัสสสูตรที่ ๑๐ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ภเทฺร ได้แก่ ม้าอาชาไนยตัวเจริญ. ม้าตัวที่รู้เหตุที่ควรและไม่ควร ชื่อว่า ม้าอาชาไนย ถึงในบุรุษผู้อาชาไนยก็มีนัยนี้เหมือนกัน. ในพระสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอรหัตตผลไว้. บรรดาคน ๓ ประเภทนั้น บุรุษอาชาไนยนี้ พึงทราบว่า เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาว์ คือ ญาณ เพราะพระอรหัตตมรรค.
จบอรรถกถาตติยอัสสสูตรที่ ๑๐