การอบรมเจริญสติปัฏฐาน เป็นเรื่องละเอียดมากเพราะเป็นการอบรมเจริญปัญญารู้สภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริง
ก. สติปัฏฐานไม่มีบัญญัติเป็นอารมณ์ ถูกหรือผิด
ส. ถูก
ก. เจริญสติปัฏฐานโดยพยายามไม่ให้จิตเกิดขึ้นรู้บัญญัติอารมณ์ ถูกหรือผิด
ส. ผิด เพราะไม่ใช่ชีวิตตามความเป็นจริง ใครจะยับยั้งไม่ให้จิตเกิดขึ้นรู้บัญญัติอารมณ์ได้ แต่ปัญญาจะอบรมณ์เจริญขึ้นจนสามารถรู้ได้ว่า ขณะที่มีบัญญัติเป็นอารมณ์นั้น คือ จิตซึ่งเป็นนามธรรม กำลังรู้บัญญัติ มิฉะนั้น จะมีบัญญัติเป็นอารมณ์ในขณะนั้นไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่อบรมเจริญสติปัฏฐานจึงไม่ใช่พยายามที่จะไม่คิดอะไรเลย หรือพยายามที่จะไม่รู้ว่า สิ่งที่ปรากฏทางตาที่เคยเห็นที่เคยรู้ตามปรกตินั้นเป็นอะไร ถ้าพยายามทำอย่างนั้น ก็จะไม่สามารถรู้ลักษณะของนามธรรมจริงๆ ว่า ขณะที่กำลังมีบัญญัติเป็นอารมณ์นั้น ก็เป็นนามธรรม คือ จิตและเจตสิกเกิดขึ้นมีบัญญัติเป็นอารมณ์ในขณะนั้น สติปัฏฐานระลึก ศึกษาพิจารณา สังเกตว่า ...ขณะใดที่คิดนึกขณะนั้นเป็นนามธรรมซึ่งเป็นสภาพรู้ เป็นธาตุรู้ เป็นอาการรู้ ไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล และรู้สภาพที่เป็นอนัตตาของธรรม
ทั้งหลายว่า ยับยั้งจิตไม่ให้เกิดขึ้นนึกคิดเรื่องราวต่างๆ ไม่ได้ ฉะนั้น ปัญญาจึงจะต้องรู้ทั่วในลักษณะของนามธรรมต่างๆ ที่มีอารมณ์ต่างๆ ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จึงจะหมดความสงสัยในลักษณะของนามธรรมได้ แต่ถ้าไปกันไว้ไม่ให้รู้บัญญัติ ไม่ให้คิดนึก ก็ไม่ใช่การอบรมณ์เจริญปัญญา เพราะไม่มีใครจะห้ามการเกิดขึ้นเป็นไปของสภาพธรรมทั้งหลายในชีวิตประจำวันตามความเป็นจริงได้ แต่เพราะความไม่รู้จึงทำให้เข้าใจว่าจะพยายามไม่ให้จิตคิดนึก หรือจะพยายามไม่ให้รู้บัญญัติของสิ่งที่ปรากฏ
ดาวน์โหลดหนังสือ --> ปรมัตถธรรมสังเขป
สาธุ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ