ปัจจุบันกำลังมีการจัดสร้างพระไตรปิฎก ฉบับภาพยนตร์ และมีการเชิญชวนให้ร่วมบริจาคเงินในการจัดสร้างด้วย ถ้าจัดเป็นหนังสือ ดิฉันคงไม่ลังเลใจ แต่เป็นภาพยนต์ (ซึ่งยังไม่เคยจัดทำมาก่อน) ดิฉันเลยอยากจะฟังความคิดเห็นของสมาชิกใน web นี้ ก่อนที่จะตัดสินใจ
ขออนุโมทนาค่ะ
ยากค่ะ ที่จะหานักแสดงที่มีความงามทั้งกาย วาจา ที่มีผิวพรรณหน้าตาอย่างมหาบุรุษ จะหาใครเล่ามาเปรียบกับพระพุทธองค์ได้ แม้แต่เทวดาหรือพรหมก็ยังงามสู้ไม่ได้เลย ถ้าเป็น animation พอรับได้ค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นการทำภาพยนตร์ หรือการ์ตูน animation ล้วนมีโอกาสที่จะทำให้เกิดความเห็น หรือความเข้าใจ ในพระพุทธศาสนาของผู้ชมคลาดเคลื่อนได้ครับ ในสมัยพุทธกาล พุทธศาสนิกชนมีความยำเกรงด้วยหิริ โอตตัปปะในพระพุทธเจ้า และพระสาวกมาก ผู้คนจึงกราบไหว้บูชาในสิ่งที่ได้ทรงประทานพระอนุญาตไว้ ให้เป็นที่ระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย ในยามที่พระพุทธองค์ทรงจาริกไปประทับ ณ สถานที่อื่นหรือหลังจากที่ทรงดับขันธปรินิพพานแล้ว พอมาถึงยุคนี้ ซึ่งเป็นยุคที่คนมีปัญญาน้อย คุณธรรมก็เสื่อมลง การนำเสนอที่เคารพต่อพระรัตนตรัยจริงๆ ก็เปลี่ยนรูปแบบไปมาก ด้วยความเจริญทางวัตถุ ซึ่งดูเหมือนว่าจะดี แต่ถ้าดูแล้วไม่ได้ศึกษาตาม ก็คงจะดีขึ้นจริงๆ ไม่ได้ เพราะขาดความสนใจ ที่จะศึกษาพระธรรมเพิ่มเติม กลายเป็นเพียงความสนุกไปกับเรื่องราว พุทธประวัติ แต่ไม่เข้าถึงสาระแก่นสารจริงๆ ของคำสอน และไม่เข้าถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ซึ่งขอถึงเป็นสรณะ โดยการกราบไหว้ทุกวัน ที่อันตรายกว่า คือสำหรับผู้ที่ดูแบบเผินๆ ก็อาจจะเกิดความเห็นผิดยิ่งขึ้น เพราะขาดความเข้าใจในสาระของภาพยนตร์ที่ (อาจจะ) ถูกดัดแปลงไปมาก ก็เป็นได้ครับ
เห็นด้วยค่ะ แต่อย่าลืมว่าในบรรดาผู้ที่ศึกษาพระธรรมวินัยเอง ก็ยังมีคนที่เข้าใจผิดๆ โดยส่วนตัวเห็นว่า การ์ตูนเป็นอีกรูปแบบหนึ่งในการนำเสนอ ให้แก่เด็กๆ และเยาวชน ซึ่งโดยมากเป็นชาวพุทธโดยชื่อ อย่างน้อยๆ ก็ช่วยให้พวกเขาได้รู้พระพุทธประวัติและเกิดความซาบซึ้ง ซึ่งอาจจุดประกายให้พวกเขาสนใจที่จะศึกษาต่อไป สหายธรรมหลายๆ ท่าน เท่าที่ทราบต่างก็ได้เดินทางผิดกันมาแล้ว แต่ก็ยังมีวันที่ท่านมาพบทางที่ถูก เพราะรู้ว่าหนทางนั้น "โมฆะ"
ถ้าเค้าทำได้ดี และสอดแทรกสาระที่จะเป็นการสนับสนุนให้ผู้อื่น ได้ศึกษาธรรมะด้วย อันนี้ก็น่าอนุโมทนาครับ อย่างการ์ตูน animation "พระพุทธเจ้า The life of Buddha" ก็มีการอ่านข้อความจากพระพุทธพจน์โดยตรง เสียงของนักพากย์ก็นุ่มนวลชวนฟัง ดูจบแล้วก็ปีติครับ ส่วนที่ทำผิดๆ เพี๊ยนๆ ไปก็พอจะทำใจได้ว่า จะต้องออกมาในรูปแบบที่คนทำเข้าใจคนดู คือต้องการสื่อให้คนดูดูหนังของตนแล้วไม่เบื่อเร็ว จนต้องเดินออกโรงก่อนจบ แต่ถ้าเป็นภาพยนตร์ คงต้องทำใจเผื่อไว้มากๆ ก่อนว่า "ไม่มีอะไรที่จะสมบูรณ์แบบจริงๆ " นอกจากพระธรรมคำสอนที่ได้แสดงไว้อย่างละเอียดครบถ้วน ดีแล้วในพระไตรปิฎกครับ
อนุโมทนาครับ
ก็ทำใจยากค่ะ อีกอย่างพระไตรปิฎกตั้งหลายเล่มขนาดนั้น รายละเอียดเนื้อหามีมากมาย อาจไปตัดเนื้อความสำคัญเข้าโดยไม่ตั้งใจได้ ลำพังแค่อ่านก็อาจตีความผิดพลาดไปต่างๆ นาๆ ง่ายอยู่แล้ว ถ้าทำเป็นภาพยนตร์จริง เนื่องด้วยความวิจิตรของจิต อาจทำให้ผู้ชมซึ่งมีหลากหลายพื้นฐาน มองเห็นกงจักรเป็นดอกบัว และกลับมองดอกบัวเป็นกงจักรไปได้เหมือนกัน คิดว่าเป็นเรื่องเสี่ยงมากกว่าค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...
ว่าด้วยธรรม ๒ อย่างที่เป็นเหตุให้พระสัทธรรมเลือนหาย และตั้งมั่น [อธิกรณวรรคที่ ๒]
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
การจัดสร้างพระไตรปิฎกฉบับภาพยนตร์
ไม่ทราบว่า อันนี้ใครเป็นคนจัดหรือคะ (ส่วนตัวอยากทำเหมือนกัน แต่ต้องศึกษาพระธรรมให้มากกว่านี้ก่อน แหะๆ ในอนาคตอ่ะนะ)
ถ้าอะไรจะเกิด ก็หนีไม่พ้นจะต้องเกิด ถ้าผู้สร้างเค้าจะทำ และภายหลัง เค้าจะสามารถทำได้จนสำเร็จ เค้าก็คงจะไม่เลิกล้มแน่นอน นอกจากว่าจะมีเหตุอื่นๆ เป็นอุปสรรค แต่ถ้าเลือกได้ ขอเลือกไม่สนับสนุนอะไร ที่จะเป็นชนวนให้เกิดความเห็นผิดดีกว่าครับ โดยส่วนตัวไม่ห้าม แต่ก็ไม่สนับสนุน เพราะสาระสำคัญกว่ามีให้ศึกษาครบถ้วนสมบูรณ์แล้วในพระไตรปิฎก และจากชีวิตประจำวันธรรมะมีอยู่ในขณะนี้ครับ
ขออนุโมทนาค่ะ เห็นด้วยว่า การนำมาทำภาพยนต์ ต้องแปลงเนื้อหาจากหนังสือเป็นบทภาพยนต์และเพื่อไม่ให้ผู้ชมเบื่อ ก็อาจต้องมีการต่อเติมเนื้อหา หรือสรรหาผู้แสดงที่สามารถเป็นตัวดึงดูดผู้ชม ก็ได้แต่หวังว่าเนื้อหาคงไม่ผิดเพี้ยนไปจากเดิมมากนัก