ผู้เจริญเมตตาฌาณ...เมื่อไม่บรรลุธรรม...ย่อมเข้าสู่พรหมโลก
ข้อความต่อไปที่ว่า เมื่อแทงตลอดคุณธรรมที่สูงขึ้นไปยังไม่ได้ ย่อมไปบังเกิดในพรหมโลก ก็แสดงชัดอยู่แล้วว่า เป็นเรื่องการอบรมเจริญสติปัฏฐานควบคู่กันไปกับการเจริญกุศลอื่นทุกประการ ผลของเมตตาอย่างสูงที่มีความสงบมั่นคงขึ้นจนถึงปฐมฌาน ก็ย่อมทำให้เกิดในพรหมโลกขั้นปฐมฌานภูมิ เมื่อเจริญขึ้นถึงฌานที่สอง คือทุติยฌาน ก็ย่อมทำให้เกิดในพรหมโลกขั้นทุติยฌานพรหมภูมิ สูงขึ้นไปตามขั้นของฌาน แต่ที่สูงกว่านั้นก็คือ การรู้แจ้งอริยสัจจธรรมเป็นพระอริยบุคคลถึงความเป็นพระอรหันต์ที่จะไม่ต้องเกิดอีก เพราะฉะนั้นจึงมีข้อความที่ว่า "เมื่อแทงตลอดคุณธรรมที่สูงขึ้นไปยังไม่ได้ (คือยังไม่บรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์) ย่อมไปบังเกิดในพรหมโลก ฉะนั้น จึงไม่ใช่แต่เจริญเมตตาเพื่อหวังที่จะถึงอุปจารสมาธิอัปปนาสมาธิ โดยไม่เจริญสติปัฏฐาน เพราะจุดประสงค์ที่สำคัญที่สุดคือการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ซึ่งจะต้องเป็นผู้มีปกติอบรมเจริญสติปัฏฐาน และเมื่อเจริญสติปัฏฐาน กุศลอื่นๆ ก็ย่อมเจริญตาม ตามข้อความที่พระผู้มีพระภาคตรัสต่อไปว่า...
ก็ผู้ใดมีสติมั่นคงเจริญเมตตาอันหาประมาณมิได้ สังโยชน์ของผู้นั้นผู้เห็นธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งอุปธิกิเลสย่อมเบาบางลง หากว่าเขาไม่มีจิตคิดประทุษร้ายสัตว์แม้สักตัวเดียว เจริญเมตตาจิตอยู่ เพราะเจริญเมตตาจิตนั้นย่อมเป็นกุศล เขามีใจอนุเคราะห์สัตว์ทั้งปวง เป็นผู้ประเสริฐ กระทำบุญมาก
ข้อความใน อังคุตตรนิกาย เอกาทสกนิบาต เมตตาสูตร
[๒๒๒] แสดงอานิสงส์ของเมตตาไว้ ๑๑ ประการ คือ เพิ่มขึ้นอีก ๓ ประการ มีข้อความว่า...
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเมตตาเจโตวิมุตติอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ทำให้เป็นดุจยาน ทำให้เป็นที่ตั้ง ให้ตั้งมั่นโดยลำดับสั่งสมดีแล้ว ปรารภด้วยดีแล้ว พึงหวังอานิสงส์ ๑๑ ประการ ๑๑ ประการเป็นไฉน คือ
ย่อมหลับเป็นสุข ๑
ย่อมตื่นเป็นสุข ๑
ย่อมไม่ฝันลามก ๑
ย่อมเป็นที่รักแห่งมนุษย์ทั้งหลาย ๑
ย่อมเป็นที่รักแห่งอมนุษย์ทั้งหลาย ๑
เทวดาทั้งหลายย่อมรักษา ๑
ไฟ ยาพิษหรือศาสตราย่อมไม่กล้ำกราย ๑
จิตย่อมตั้งมั่นโดยรวดเร็ว ๑
สีหน้าย่อมผ่องใส ๑
เป็นผู้ไม่หลงใหลทำกาละ ๑
เมื่อไม่แทงตลอดคุณอันยิ่ง ย่อมเป็นผู้เข้าถึงพรหมโลก ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเมตตาเจโตวิมุตติอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ทำให้เป็นดุจยาน ทำให้เป็นที่ตั้ง ให้ตั้งมั่นโดยลำดับสั่งสมดีแล้ว ปรารภด้วยดีแล้ว พึงหวังอานิสงส์ ๑๑ ประการนี้แล
จบสูตรที่ ๕
..จากหนังสือ "เมตตา" เปิดอ่าน --> คลิกที่นี่
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ