ถาม อาจารย์กล่าวว่า โลภะนั้นควรรู้ ผมก็ยังรู้ไม่หมด เพราะโลภะทั้งหลายมี ๘ ดวง หรือ ๘ ประเภท มีอสังขาริก ๔ ดวง สสังขาริก ๔ ดวง อสังขาริก เขาก็แปลกันว่า มีกำลัง หรือไม่ต้องอาศัยการชักชวน สสังขาริก ก็หมายความว่า มีกำลังน้อย หรือว่าต้องอาศัยการชักชวน ผมยังไม่เข้าใจเลยว่า ขณะโลภะเกิดนั้นน่ะ ไม่รู้ว่าโลภะนั้นเป็นอสังขาริกหรือสสังขาริก ผมจะยกตัวอย่างว่า ถ้าผมเห็นรถยนต์รุ่นใหม่คันหนึ่งเห็นว่ารถยนต์คันนี้สวยมาก และอยากจะได้รถยนต์คันนั้น ตัวอย่างนี้ขอถามอาจารย์ว่า เป็นโลภะอสังขาริกหรือสสังขาริก

ส. ท่านผู้ฟังอยากรู้คำ หรืออยากรู้ลักษณะของจิต เป็นลำดับ

ถาม อยากจะรู้ลักษณะของจิต

ส. เพราะฉะนั้น ต้องเริ่มจากไหนคะ รู้ลักษณะของโลภะเสียก่อน โดยขณะนี้หรือขณะใดก็ตามที่มีโลภะ ถ้าสติไม่ระลึกรู้ลักษณะของโลภะ ในขณะนั้น จะชื่อว่ารู้ลักษณะของโลภะไม่ได้ เพราะโลภะเกิดขึ้น แต่ว่าสติไม่ได้เกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของโลภะ เพราะฉะนั้น จะชื่อว่ารู้ลักษณะของโลภะไม่ได้ เพียงแต่รู้ชื่อโลภะ แต่ไม่ได้รู้ลักษณะของโลภะ เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะรู้ว่าโลภะต่างกันเป็น ๘ ประเภท จะต้องมีสติระลึกรู้ลักษณะของโลภะเสียก่อน ก่อนที่จะไปรู้ว่า โลภะต่างกันไปเป็น ๘ ประเภท โดยที่ไม่รู้ลักษณะของโลภะเลย แล้วท่านผู้ฟังเมื่อกี้นี้ ก็บอกแล้วว่า อยากจะรู้ลักษณะ เพราะฉะนั้น ก็ต้องเริ่มจากสติระลึกรู้ลักษณะของโลภะ แล้วถึงจะรู้ลักษณะที่ต่างกันออกไปเป็น ๘ ลักษณะว่า ขณะใดเป็นลักษณะของโลภะประเภทใดใน ๘ ประเภทนั้น

บรรยายโดย ท่าน อ. สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ข้อความบางตอนจาก... แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ ๙๘๐

อนุโมทนาค่ะ