เพราะไม่รู้ว่าธรรมคืออะไร และอยู่ที่ไหน
โดย เมตตา  22 ม.ค. 2567
หัวข้อหมายเลข 47302

สนทนาปัญหาธรรม วันอังคารที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๗

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 47

๘. ปฐมกุกกุฏารามสูตร

มิจฉามรรค ชื่อว่า อพรหมจรรย์

[๕๖] ข้าพเจ้าได้สดับแล้วอย่างนี้ :-

สมัยหนึ่ง ท่านพระอานนท์และท่านพระภัททะอยู่ ณ กุกกุฏาราม ใกล้กรุงปาฏลิบุตร ครั้งนั้น ท่านพระภัททะออกจากที่เร้นในเวลาเย็น เข้าไปหาท่านพระอานนท์ ได้ปราศรัยกับท่านพระอานนท์ ครั้นผ่านการปราศรัย

พอให้ระลึกถึงกันแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ถามท่านพระอานนท์ว่า ท่านอานนท์ ที่เรียกว่า อพรหมจรรย์ๆ ดังนี้ อพรหมจรรย์เป็นไฉนหนอ. ท่านพระอานนท์ตอบว่า ดีละๆ ท่านภัททะ ท่านช่างคิด ช่างแสวงหาปัญหา ช่างไต่ถาม ก็ท่านถามอย่างนี้หรือว่า ท่านอานนท์ ที่เรียกว่า อพรหมจรรย์ๆ ดังนี้ อพรหมจรรย์เป็นไฉนหนอ.

ภ. อย่างนั้น ท่านผู้มีอายุ.

อา. มิจฉามรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ คือ มิจฉาทิฏฐิ ฯลฯ มิจฉาสมาธิ นี้แลเป็นอพรหมจรรย์.

จบปฐมกุกกุฏารามสูตรที่ ๘


อ.คำปั่น: เวลาได้ฟังเริ่มต้นแม้อย่างในวันนี้ ท่านอาจารย์ก็ไม่ได้ไปไหนไกลเลย ก็กลับมาตั้งต้นที่ ความละเอียดลึกซึ้งของ คำว่า ธรรม ทุกครั้งของการสนทนาท่านอาจารย์ก็จะให้ได้ฟังได้ศึกษาให้ได้มั่นคงในคำนี้โดยตลอด อย่างที่ได้ฟังในวันนี้ ก็เห็นเลยครับว่า ถ้าไม่ฟังไม่ได้พึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะไม่ได้มีความเข้าใจเลยว่า ธรรมคืออะไร ไม่มีความเข้าใจเลยจริงๆ ครับ

ท่านอาจารย์: และไม่รู้ความลึกซึ้งด้วย เพราะไม่รู้ว่า ธรรมคืออะไร และอยู่ไหน เพราะฉะนั้น ฟังธรรมต้องมีความเคารพในความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากคำที่เราได้ฟัง จึงรู้ว่า กว่าพระองค์จะได้ตรัสรู้ ทรงบำเพ็ญบารมีคุณความดีที่จะไม่ให้อกุศลเกิดขึ้นแทรกคั่น โดยที่ว่า ต้องบำเพ็ญความอดทนที่จะรู้ว่า ทั้งวันเป็นอกุศล

เพราะฉะนั้น ฟังเผินๆ ไม่ได้เลย ฟังทุกคำละอะไรหรือเปล่า? ถ้าฟังแล้วไม่ได้ละ ประโยชน์มีจริงๆ หรือเปล่า? เพราะขณะนั้นไม่ละ เพราะต้องการ นี่ค่ะ ความละเอียดต้องอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่ไปละเอียดด้วยการพยายามทำ แต่เห็นความลึกซึ้งอย่างยิ่งของธรรม ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ บำเพ็ญพระบารมีเพื่อตรัสรู้ และทรงแสดงความจริงให้คนอื่นได้เริ่มเห็นความลึกซึ้ง จนกระทั่งบำเพ็ญบารมีเพื่อรู้ความจริง ไม่ใช่ในฐานะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงในฐานะผู้ฟังคำของพระองค์ด้วยความเคารพ

อันนี้ละอะไรบ้างหรือเปล่า? เห็นไหม ต้องไตร่ตรอง ไม่ใช่ตาม ต้องเป็นปัญญาของตนเอง ฟังอย่างนี้ ละอะไรบ้างหรือเปล่า?

อ.คำปั่น: ฟังอย่างนี้ละอะไรบ้างหรือเปล่า

ท่านอาจารย์: เห็นไหม ต้องไตร่ตรอง ต้องรู้ ต้องตรง ต้องจริง

อ.คำปั่น: ยังไม่ได้ละอะไรเลยครับท่านอาจารย์

ท่านอาจารย์: ฟังอย่างนี้ ละหนทางผิด ละความหวังความคิดที่จะบรรลุธรรม เพราะรู้ว่า ธรรมอยู้ไหน ลึกซึ้งแค่ไหน ขณะนี้ไม่รู้มากมายแค่ไหน เดี๋ยวนี้มีสิ่งที่มีจริงๆ รู้แค่ไหน เพื่อรู้อะไร รู้ความจริงของสิ่งที่กำลังมีให้รู้ แต่ก็ไม่สามารถจะรู้ได้ด้วยตัวเอง ต้องฟัง คำ ผู้ที่ได้ทรงตรัสรู้ความจริงถึงที่สุดของสิ่งที่มีจริงๆ ในชีวิตประจำวันทั้งหมด และก็เริ่มละบ้าง ไม่มีใครสามารถที่จะไปทำอะไรได้เลยนอกจากความเข้าใจถูกต้องในความลึกซึ้งเท่านั้นที่จะละ เห็นไหม ละหนทางผิด ละความต้องการเป็นอริยสัจจธรรม เริ่มต้นถูกไหม ถ้าไม่เริ่มต้นอย่างนี้ ถูกไหม

อ.คำปั่น: ถ้าไม่เริ่มต้นอย่างนี้ไม่ถูกเลยครับท่านอาจารย์

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น จะเรียนสักเท่าไหร่ จะได้ยินได้ฟังสักเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่เห็นความลึกซึ้งว่า เพื่อละ เพราะแต่ละคำ แต่ละลักษณะของสภาพธรรมลึกซึ้งอย่างยิ่ง แค่ฟังไม่สามารถจะละความไม่รู้ และการประจักษ์แจ้งความจริงได้เพียงแค่ฟัง แต่เริ่มรู้เริ่มเข้าใจถูกต้องจนกว่าจะมั่นคงขึ้น.

ขอเชิญอ่านได้ที่ ...

ธรรมลึกซึ้ง

ไม่ว่าอะไรที่ลึก ไม่เท่ากับความลึกซึ้งของธรรม

ขอเชิญฟังได้ที่ ...

ธรรมที่เป็นหนทาง

ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม

ฟังเพื่อรู้ความลึกซึ้งของธรรม

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 22 ม.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ