มกุฏพันธนเจดีย์
เช้าวันนี้ (22 ก.พ. 52) ออกจากโรงแรมเพื่อไปนมัสการมกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระแต่เช้า ที่บอกว่าโชคดีที่เมื่อเย็นวาน เขาปิดก่อน เพราะไม่อย่างนั้นจะได้กราบนมัสการในความมืด มองไม่เห็นอะไรชัดเจน เมื่อลงจากรถ มีเด็กผู้ชายในชุดนักเรียน มายืนสวด “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ... ”ด้วยเสียงใสแจ๋ว ขอเงินที่ประตูรถเลยทีเดียว เด็กตัวเล็กนิดเดียว หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู เลยให้เงินไป ๑๐ รูปี นึกสงสารเด็กว่า พระพุทธเจ้าคงจะเป็นที่พึ่งได้ในอัตภาพนี้เท่านั้น ถ้าสวดเพียงเพื่อขอเงินจากชาวพุทธอย่างเดียว หนูน้อยจะได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมเพื่อที่จะมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริงหรือไม่นะ
ได้กราบนมัสการและเวียนเทียนประทักษิณสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งอดีต เมื่อพระผู้มีพระภาคปรินิพพานแล้ว ก็เกิดแผ่นดินไหว และมีหลายท่านกล่าวภาษิตในทางธรรม เหตุการณ์นี้ยังความโศกสลดให้เกิดแก่ภิกษุผู้ยังไม่ปราศจากราคะ และยังธรรมสังเวชให้เกิดแก่ภิกษุผู้ปราศจากราคะแล้ว มัลลกษัตริย์ได้จัดการถวายพระเพลิงพระศพพระผู้มีพระภาค ภายหลังที่ตั้งพระศพ จัดเครื่องสักการะบูชาครบ ๗ วัน และภายหลังที่ท่านพระมหากัสสปเถระ พร้อมด้วยภิกษุบริษัทมาถวายบังคมพระศพเสร็จแล้ว ในหมู่ภิกษุของท่านนั้น ขณะที่ภิกษุทั้งหลายกำลังร้องไห้คร่ำครวญในข่าวปรินิพพานของพระผู้มีพระภาค ก็มีภิกษุรูปหนึ่งผู้บวชเมื่อแก่ชื่อ สุภัททะ กล่าวห้ามภิกษุทั้งหลายมิให้เศร้าโศก ควรจะดีใจว่า ต่อไปจะไม่มีใครมาห้ามทำอย่างนั้นอย่างนี้ ปรารถนาจะทำอะไรก็ทำได้ตามใจ ซึ่งท่านพระมหากัสสปเถระได้ปรารภเป็นเหตุเสนอให้สงฆ์ทำสังคายนา
เมื่อถวายพระเพลิงแล้ว ก็มีกษัตริย์และพราหมณ์จากแคว้นต่างๆ มาขอพระบรมสารีริกธาตุ ครั้งแรกมัลลกษัตริย์จะไม่ให้ แต่โทณพราหมณ์พูดเกลี้ยกล่อมให้เห็นแก่ความสงบ จึงได้ตกลงแบ่งให้ไป ต่างก็นำไปทำสตูปบรรจุและทำการฉลองในนครของตน
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
อ่านตอนต่อไปเชิญคลิก ครับ เสน่ห์อินเดีย 26
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนา