ตามหลักพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่องนี้มีอยู่ว่า ผู้ที่ถูกตำหนิ ถูกกล่าวร้ายถูกกล่าวตู่ ถูกให้ร้าย เป็นต้น เพราะอกุศลกรรมในอดีตแน่นอน ไม่ใช่ผลของกุศลกรรมผลของอกุศลกรรมโดยตรงทำให้เกิดในอบาย เศษกรรมที่เหลือย่อมส่งผลในปวัตติกาลดังข้อความบางตอนจากสัพพลหุสสูตรมีว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มุสาวาทอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย วิบากแห่งมุสาวาทอย่างเบาที่สุด ย่อมยังการกล่าวด้วยคำไม่เป็นจริงให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปิสุณาวาจาอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย วิบากแห่งปิสุณาวาจาอย่างเบาที่สุด ย่อมยังการแตกจากมิตรให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผรุสวาจาอันบุคคลแล้ว เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย วิบากแห่งผรุสวาจาอย่างเบาที่สุด ย่อมยังเสียงที่ไม่น่าพอใจให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัมผัปปลาปะอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย วิบากแห่งสัมผัปปลาปะอย่างเบาที่สุด ย่อมยังคำไม่ควรเชื่อถือให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์.......
สาธุ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๑ - หน้าที่ 221
พระพุทธเจ้าผู้ทรงครอบงำสิ่งทั้งปวง มีสาวกชื่อว่านันทะ
เรากล่าวตู่พระสาวกชื่อว่านันทะนั้น จึงได้ท่องเที่ยวไปใน
นรก สิ้นกาลนาน.
เราท่องเที่ยวไปในนรกตลอดกาลนานถึงหมื่นปี ได้ความ
เป็นมนุษย์แล้ว ได้รับการกล่าวตู่มากมาย.
เพราะกรรมที่เหลือนั้น นางจิญจมาณวิกาได้กล่าวตู่เรา
(พระพุทธเจ้าสมณโคดม) ด้วยคำอันไม่เป็นจริงต่อหน้าหมู่ชน. อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขออนุโมทนาครับ