ธรรมะ คือสิ่งที่มีจริง ไม่มีตัวตน ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เกิดขึ้นและดับไปโดยเหตุปัจจัย ปรมัตถธรรมมี 4 ประเภท คือ จิต เจตสิก รูป และนิพพาน ซึ่งรูปปรมัตถ์ เป็นรูปธรรม และ จิต เจตสิก นิพพานเป็นนามธรรม
ผมมีข้อสงสัยตรงที่นามธรรมเป็นสภาพรู้ แต่ทำไมนิพพานถึงเป็นนามธรรมครับ
พระนิพพานเป็นนามธรรม เพราะสิ่งใดไม่ใช่รูป สิ่งนั้นเป็นนามธรรมแต่เป็นนามธรรมที่ไม่เกิดดับ
นิพพานเป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิดและดับ แสดงว่าไม่มีการรับรู้ แต่ นามธรรมเป็นสภาพรู้ ผมก็ยังไม่เข้าใจว่า ทำไมนิพพานเป็นนามธรรมครับ
ธรรมะมี 2 อย่าง คือ รูปและนาม เมื่อไม่เป็นรูปก็จัดเป็น นาม
นิพพานเป็น นาม เพราะน้อมไปสู่อารมณ์ นิพพานเป็นอารมณปัจจัย
สังคีติสูตร
[๒๒๗] ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ธรรม ๒ ที่พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็นเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ตรัสไว้โดยชอบแล้วมีอยู่แลพวกเราทั้งหมดด้วยกัน พึงสังคายนา ไม่พึงกล่าวแก่งแย่งกันในธรรมนั้น การที่พรหมจรรย์นี้พึงยั่งยืนตั้งอยู่นาน นั้นพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ชนมาก เพื่อความสุขแก่ชนมาก เพื่อความอนุเคราะห์แก่โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูลเพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ธรรม ๒ เป็นไฉน นาม ๑ และรูป ๑
สวัสดีครับ ขอแทรกความรู้ตามที่ได้ศึกษามานะครับ
สามารถศึกษาโดยตรงได้จาก คัมภีร์มูลยมก ครับ ซึ่งพระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้ใน นามบทแห่งมูลยมก ครับ ขอกล่าวคร่าวๆ ดังนี้นะครับ นิพพานเป็น อเหตุกํ นามํ เป็นนามที่ไม่ประกอบด้วยเหตุ ที่กล่าวว่า นิพพานเป็นนาม เพราะว่า นาม ด้วยอรรถว่า น้อม นิพพานเป็นที่น้อมเข้าไปรู้โดยโลกุตตรจิตครับ
อนุโมทนาครับ
สัมภเวสี