ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความบางตอนจาก
[เล่มที่ 66] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 454
ว่าด้วยสังขารไม่เที่ยง
[๘๐๑] คำว่า สังขารทั้งหลายหวั่นไหวแล้วตลอดทิศทั้งปวง
ความว่า สังขารทั้งหลายในทิศตะวันออก แม้สังขารเหล่านั้นก็หวั่นไหว
สะเทื้อน สะท้าน เอนเอียง เพราะเป็นสภาพไม่เที่ยงจึงเป็นสภาพอัน
ชาติติดตาม ชราห้อมล้อม พยาธิครอบงำ ถูกมรณะกำจัด ตั้งอยู่ใน
กองทุกข์ ไม่มีที่ต้านทาน ไม่มีที่หลีกเร้น ไม่มีที่พึ่ง เป็นสภาพไม่มีที่พึ่ง
สังขารทั้งหลายในทิศตะวันตก ในทิศเหนือ ในทิศใต้ ในทิศอาคเนย์
ในทิศพายัพ ในทิศอีสาน ในทิศหรดี ในทิศเบื้องต่ำ ในทิศเบื้องบน
ในสิบทิศ แม้สังขารเหล่านั้น หวั่นไหว สะเทื้อน สะท้าน เอนเอียง
เพราะเป็นของไม่เที่ยง จึงเป็นสภาพอันชาติติดตาม ชราห้อมล้อม พยาธิครอบงำ
ถูกมรณะกำจัด ตั้งอยู่ในกองทุกข์ ไม่มีที่ป้องกัน ไม่มีที่หลีกเร้น
ไม่มีที่พึ่ง เป็นสภาพไม่มีที่พึ่ง สมจริงตามภาษิตนี้ว่า
ก็วิมานนี้ สว่างรุ่งเรืองอยู่ในทิศอุดรแม้โดยแท้ แต่
บัณฑิตเห็นความชั่ว (โทษ) ในรูปแล้ว หวั่นไหวทุกเมื่อ
เพราะเหตุนั้น
ท่านผู้มีปัญญาดีย่อมไม่ยินดีในรูป
โลกอันมัจจุกำจัด อันชราห้อมล้อม ถูกลูกศร คือตัณหา
แทงติดอยู่ ลุกเป็นควันเพราะความปรารถนาทุกเมื่อ โลก
ทั้งปวงอันไฟติดทั่ว โลกทั้งปวงอันไฟให้ลุกสว่าง โลก
ทั้งปวงอันไฟให้ลุกรุ่งโรจน์ โลกทั้งปวงหวั่นไหว.
เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า สังขารทั้งหลายหวั่นไหวแล้วตลอดทิศทั้งปวง.
[๘๐๒] คำว่า เมื่อเราปรารถนาความเจริญเพื่อตน ความว่า
เมื่อเราปรารถนา ยินดี ประสงค์ รักใคร่ ชอบใจ ซึ่งความเจริญ คือ
ที่ป้องกัน ที่หลีกเร้น ที่พึ่ง ที่ดำเนิน ที่ก้าวหน้า เพื่อตน เพราะฉะนั้น
จึงชื่อว่า เมื่อเราปรารถนาความเจริญเพื่อตน.
[๘๐๓] คำว่า ไม่ได้เห็นซึ่งฐานะอะไรๆ อันไม่ถูกครอบงำ
ความว่า เราไม่ได้เห็นซึ่งฐานะอะไร อันไม่ถูกครองงำ คือได้เห็นฐานะ
ทั้งปวงถูกครอบงำทั้งนั้น ความเป็นหนุ่มสาวทั้งปวงถูกชราครอบงำ ความ
เป็นผู้ไม่มีโรคทั้งปวงถูกพยาธิครอบงำ ชีวิตทั้งปวงถูกมรณะครอบงำ
ลาภทั้งปวงถูกความเสื่อมลาภครอบงำ ยศทั้งปวงถูกความเสื่อมยศครอบงำ
ความสรรเสริญทั้งปวงถูกความนินทาครอบงำ สุขทั้งปวงถูกทุกข์ครอบงำ.
สมจริงดังภาษิตว่า
ธรรมในหมู่มนุษย์เหล่านี้ คือลาภ ความเสื่อมลาภ
ยศ ความเสื่อมยศ นินทา สรรเสริญ สุข ทุกข์ เป็น
ของไม่เที่ยง ไม่มั่นคง มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา.
เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ไม่ได้เห็นซึ่งฐานะอะไรๆ อันไม่ถูกครอบงำ
เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
โลกทั้งหมดไม่เป็นแก่นสาร สังขารทั้งหลายหวั่นไหว
แล้วตลอดทิศทั้งปวง เมื่อเราปรารถนาความเจริญเพื่อตน
ไม่ได้เห็นซึ่งฐานะอะไรๆ อันไม่ถูกครอบงำ.
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งครับ
โลกอันมัจจุกำจัด อันชราห้อมล้อม ถูกลูกศร คือตัณหา
แทงติดอยู่ ลุกเป็นควันเพราะความปรารถนาทุกเมื่อ โลก
ทั้งปวงอันไฟติดทั่ว โลกทั้งปวงอันไฟให้ลุกสว่าง โลก
ทั้งปวงอันไฟให้ลุกรุ่งโรจน์ โลกทั้งปวงหวั่นไหว.
ขอบคุณในธรรมทาน จากคุณpirmsombat ครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณหมอและทุกท่านครับ
ก็จริงอยู่นะคะว่าสังขารนั้นไม่เที่ยง แต่ในเมื่อเราเกิดมาแล้ว และจะต้องยู่ในสังขารนี้อีก
นานเท่าไรก็ไม่อาจทราบได้
ดังนั้นเราก็ควรที่จะดูแลสังขารของเราให้ดีที่สุด (ถ้าสังขารของเราดีตัวเรา
ก็จะดีไปด้วย และจะไม่เป็นภาระของผู้อื่นอีกด้วย)
แล้วถ้าเมื่อใดที่สังขารของเราเปลี่ยนไป หรือ จะต้องละจากสังขารนี้ไปก็
ไม่ต้องเป็นทุกข์นะคะ
(เพราะทุกคนที่เกิดมาจะต้องตายทุกคนนะคะ)
เรียนความเห็นที่ 7 ครับ
เชิญอ่านในเรื่อง ความเดิมความเปลี่ยน ในลิ้งนี้ ครับ
สังขาร
และเชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ
สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง
ขอขอบคุณ คุณผเดิม มากๆ นะคะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและอนุโมทนาคุณGraabphra คุณผู้ร่วมเิดินทาง คุณผเดิม
และ
ทุกท่านครับ