พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 436
ข้อความบางตอนจาก
มัลลิกาสูตร
บุคคลค้นหาด้วยจิตตลอดทุกทิศ ไม่ได้พบใครซึ่งเป็นที่รัก ยิ่งกว่าตนในที่ ไหนๆ เลย สัตว์ทั้งหลายเหล่าอื่นก็รัก คนมากเช่นนั้นเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ผู้รักตนจึงไม่ควรเบียดเบียนผู้อื่น.
เรื่อง ผู้ที่รักตนเองคืออย่างไร
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 427
ข้อความบางตอนจาก ปิยสูตร
[๓๓๕] พระผู้มีพระเจ้าตรัสว่า ถูกแล้วๆ มหาบพิตร เพราะว่า ชน บางพวกย่อมประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจา ใจ ชนเหล่านั้นไม่ชื่อว่ารักตน ถึงแม้พวกเขาจะกล่าวอย่างนี้ว่า เราทั้งหลายมีความรักตน ถึงเช่นนั้นพวกเขาก็ชื่อว่าไม่มีความรักตน ข้อนั้นเป็นเพราะเหตุไร ก็เพราะเหตุว่า ชนผู้ไม่รักใคร่กันย่อมทำความเสียหายให้แก่ผู้ไม่รักได้โดยประการใด พวกเขาเหล่านั้นย่อมทำความเสียหายแก่ตนด้วยตนเองได้โดยประการนั้น พวกเขาเหล่านั้นจึงชื่อว่าไม่รักตน ส่วนว่า ชนบางพวกย่อมประพฤติสุจริตด้วยกาย วาจา ใจ พวกเหล่านั้นชื่อว่ารักตน ถึงแม้พวกเขาจะกล่าวอย่างนี้ว่า เราไม่รักตน ถึงเช่นนั้นพวกเหล่านั้นก็ชื่อว่ารักตน ข้อนั้นเป็นเพราะเหตุไร ก็เพราะเหตุว่าชนผู้รักใคร่กันย่อมทำความดีความเจริญให้แก่ชนผู้ที่รักใคร่กันได้โดยประการใด พวกเหล่านั้นย่อมทำความดีความเจริญแก่ตนด้วยตนเองได้โดยประการนั้น ฉะนั้น พวกเหล่านั้นจึงชื่อว่ารักตน.
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
แ่ต่อกุศลเกิดขึ้น ขณะนั้นก็ไม่ใช่ผู้ที่รักตน เช่นกัน
ถ้ารักตน ก็ต้องเป็นคนดี ฟังธรรม อบรมปัญญา เจริญกุศลทุกประการ
ไม่ทำให้คนอื่นและตนเองเดือดรัอนค่ะ
ยินดีในกุศลจิตครับ