ขอนอบน้อมในพระรัตนตรัยไว้เป็นที่พึ่งสูงสุดครับ เท่าที่ผมได้เข้ามาดูในweb นี้ ก็เป็นประโยชน์มากๆ เลยครับ ทำให้ผมรู้ทางธรรมมากขึ้น และกระจ่างขึ้นในหลายหัวข้อ ก็ขอขอบคุณทุกท่าน และอนุโมทนาบุญในธรรมทานครับ ขอบคุณด้วยความจริงใจครับ แต่ได้ดูในหลายหัวข้อส่วนใหญ่จะเป็นธรรมแนวทางวิปัสสนาและเนื้อหาทางพระอภิธรรม แต่ผมเองก็ปรารถนาที่จะศึกษาธรรมที่จะเข้าถึงซึ่งพระนิพพานเช่นกัน แต่ในตอนนี้ขอรวยทรัพย์ในโลกมนุษย์ก่อน ผมคิดว่าการมีเงินทอง ทรัพย์สินทำให้เราทำบุญได้มาก และทำให้ทำบุญได้ง่าย ไม่มีกังวลและรู้ว่าการทำบุญนอกจากทานแล้ว มีบุญที่สูงกว่าก็คือ ศีล และภาวนา แต่ยังไงก็ขอรวยก่อน มีคำถามครับ
๑. พระพุทธเจ้าได้กล่าวเกี่ยวกับวิธีที่จะเป็นเศรษฐีไว้ไหมครับ และกล่าวว่าอย่างไรครับ ที่ผมรู้มาต้องทำบุญในที่นี้คือ ทำทาน และทำงานที่เป็นสัมมาอาชีวะ มีวิธีใดที่รวยในชาตินี้ตามแบบพระพุทธเจ้าครับ ขอบคุณครับ
ปฏิปทาหรือข้อปฏิบัติเพื่อการมีทรัพย์มากมีทั้งเหตุในอดีตและเหตุในปัจจุบัน ปฏิปทาหรือเหตุในอดีตคือการให้ทาน ไม่ตระหนี่ เหตุในปัจจุบันอยู่ที่การรู้จักขยัน แสวงหาทรัพย์ รู้จักรักษาทรัพย์ รู้จักคบคนดีเป็นเพื่อน รู้จักใช้ชีวิตที่พอเหมาะ และเว้นจากอบายมุขทั้งหลาย สมดังข้อความในพระสูตรดังต่อไปนี้
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...
ธรรมเป็นไปเพื่อความสุขในปัจจุบัน [อุชชยสูตร]
รวยเป็นสิ่งสมมติ เงินก็เป็นสิ่งสมมติ เป็นอารมณ์ของจิตคิดที่ปรากฏ ธรรมารมณ์ รู้ได้ทางเดียว คือ ทางมโนทวารครับ ถ้าเกิดว่า ยังเกินกำลังปัญญาของเราที่จะละ สิ่งเหล่านี้ได้ ก็ควรที่จะศึกษาพระธรรม เพื่อให้เข้าใจ และรู้ (แม้เรื่องราว) ให้เท่าทัน อกุศล ภายหลังจะได้ไม่เดือดร้อนไปกับสิ่งสมมติมากมาย เพราะความสูญเสียในสิ่งอัน เป็นที่รักหรือการไม่ได้ดังที่ใจเราปรารถนา ล้วนเป็นสัจจธรรม และจะต้องเกิดกับทุก คนในสักวัน ตราบที่เรายัง "เวียนเกิดเวียนตาย" อยู่ในสังสารวัฏฏ์ครับ
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...
ธรรมารมณ์ที่ไม่ควรเสพ และควรเสพ
เงิน รวย มั่งคั่ง มั่งมี ฐานะดี เจริญทรัพย์ มหาเศรษฐี
"สิ่งสมมติเหล่านี้" เป็นธรรมารมณ์ที่ควรเสพให้น้อยลง หรือควรเสพให้ติดมากขึ้นดี ... ควรแบบไหนก็เลือกไม่ได้จริงๆ ครับ ตามแต่การสั่งสมของจิต และอัธยาศัยของ ท่าน ก็ฟัง และศึกษาธรรมต่อไปแล้วกันนะครับ ธรรมะดีๆ ในเว็บนี้มีให้ฟังเยอะแยะ จริงๆ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยหลายประการในการเป็นเศรษฐี แต่ปัจจัยหลักคงไม่พ้นในเรื่องกุศลในอดีตที่ได้ทำมา แต่เมื่อประกอบกับความเพียร (ปโยคะ) ย่อมทำให้ เป็นเศรษฐีที่มั่งมีมากขึ้น แต่ถ้าไม่ได้ประกอบกุศลไว้มากในอดีต หรือทำอกุศล ไว้หรือปวารณาพระภิกษุไว้แล้วถวายไม่ถวายตามที่ปวารณาหรือน้อยกว่า เขาก็ ไม่มีทางเป็นเศรษฐีได้เลย แม้จะขยันอย่างไรเพราะกรรมนั้นให้ผล จนกว่าจะ หมดกรรมนั้นไป เป็นต้น ดังนั้นกุศลกรรมที่ทำไว้จึงเป็นประการสำคัญมากกว่า ประการอื่นๆ
เรื่อง เป็นเศรษฐีด้วยกุศลในอดีตที่ทำไว้ ด้วยการน้อมใจไปในสิ่งที่ปรารถนา
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ เล่ม ๓ ภาค ๑ - หน้าที่ 405
ปฏิปทาเพื่อเป็นพราหมณ์มหาศาล
[๓๒๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีก คือภิกษุเป็นผู้ ประกอบด้วย ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา เธอมีความปรารถนา อย่างนี้ว่า ไฉนหนอ! เราเมื่อตายไปแล้ว พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่ง พราหมณ์มหาศาลเถิด ดังนี้ก็มี ... ว่า ไฉนหนอ! เราเมื่อตายไปแล้ว พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งคฤหบดีมหาศาลเถิด ดังนี้ก็มี เธอจึงตั้งจิตนั้น อธิษฐานจิตนั้น เจริญจิตนั้น ความปรารถนาและวิหารธรรมเหล่านั้นอันเธอ เจริญแล้วอย่างนี้ ทำให้มากแล้วอย่างนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความสำเร็จในภาวะ นั้นๆ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้มรรค นี้ปฏิปทา เป็นไปเพื่อความสำเร็จใน ความเป็นสหายแห่งคฤหบดีมหาศาล
เรื่อง เป็นเศรษฐีไม่ได้ ถ้ากรรมบางอย่างให้ผล เช่นไม่ทำตามที่ปวารณาไว้ เป็นต้น
ขออชิญคลิกอ่านได้ที่...
การค้าขาย [วิณิชชสูตร]
เรื่อง ยังยากจนแม้มีทรัพย์ภายนอกมาก แต่ไม่มีทรัพย์ภายใน
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...
ทรัพย์ ๗ ประการ [ปฐมธนสูตร]
เรื่อง ควรที่จะเบื่อหน่าย เราเกิดมาเป็นเศรษฐีมานับไม่ถ้วน แล้วและก็ไม่พ้นไปจากทุกข์ อบรมหนทางดับกิเลสนะ
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...
เหมือนบุคคลผู้มีความสุข [สุขิตสูตร]
ขออนุโมทนาครับ