มนุษย์ทุกคนถูกลิขิตไว้ล่วงหน้าแล้วใช่หรือไม่
โดย paisan.ju  14 มี.ค. 2549
หัวข้อหมายเลข 917

อนาคตของมนุษย์ทุกคนถูกลิขิตไว้ล่วงหน้าด้วยเหตุปัจจัยแล้วใช่หรือไม่ อย่างไร ช่วยอธิบายให้หน่อยครับ

ขอบคุณครับ



ความคิดเห็น 1    โดย study  วันที่ 15 มี.ค. 2549

เรื่องอนาคตมีทั้งกรรมและวิบาก คงต้องแยกกว่าเป็นเรื่องๆ ดังนี้ ถ้าเป็นวิบากคือ ผลของกรรมที่ทำให้เป็นคนยากจน มีโรคมาก มีอายุสั้น เป็นต้น ต้องเป็นไปตามผลของกรรม แต่ทั้งนี้กรรมจะให้ผลต้องอยู่ที่ปัจจัยหลายอย่าง เช่น คติอุปธิ ปโยคะ และ กาละ เป็นต้น ส่วนเรื่องเหตุใหม่ คือ กรรมใหม่ ไม่มีกำหนดตายตัวว่าจะต้องเป็นอกุศลอย่างเดียว หรือกุศลอย่างเดียว ย่อมเป็นไปตามอุปนิสัยและสิ่งแวดล้อมต่างๆ คือ อาจเปลี่ยนพฤติกรรมเพราะเพื่อน หรือผู้ที่ตนอยู่ใกล้ เป็นต้น


ความคิดเห็น 2    โดย shumporn.t  วันที่ 17 มี.ค. 2549

สิ่งที่ดับไปแล้ว หมดไปแล้ว ล่วงไปแล้ว ไม่กลับมาอีก ส่วนสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ไม่มีใครบอกได้นอกจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้น ที่ทรงพยากรณ์ได้ปัจจุบันจะทำอะไรสำคัญกว่า จะทำบุญหรือทำบาป จะสะสมความเห็นถูกหรือความเห็นผิดหรือว่าไม่ทำอะไรเลยเพราะถูกลิขิตไว้แล้ว


ความคิดเห็น 3    โดย chatchai.k  วันที่ 18 มี.ค. 2549

ไม่มีผู้ใดลิขิตอนาคตของใคร ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม เมื่อมีเหตุปัจจัยพร้อมกรรมที่ได้กระทำแล้วก็ให้ผล ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว เมื่อถึงโอกาสอันควรกรรมนั้นๆ ก็ให้ผลดังนั้น ทุกคนจึงไม่ควรประมาท ควรเจริญกุศลทุกประการ โดยเฉพาะการเจริญปัญญา ด้วยการศึกษาพระธรรมให้เกิดความเข้าใจยิ่งขึ้น นับเป็นโอกาสอันประเสริฐ ที่ท่านได้เกิดเป็นมนุษย์และได้พบพระพุทธศาสนา ไม่มีใครลิขิตให้ท่านมาเกิดเป็นบุคคลนี้ และได้มาพบพระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผลของกุศลที่ท่านได้ทำไว้แล้ว


ความคิดเห็น 4    โดย paisan.ju  วันที่ 14 ม.ค. 2550

สืบเนื่องจากคำตอบของมูลนิธิฯ ที่ว่าส่วนเรื่องเหตุใหม่ไม่มีกำหนดตายตัว ย่อมแล้วแต่อุปนิสัยและสิ่งแวดล้อม ขอเรียนถามว่า อุปนิสัย และสิ่งแวดล้อมซึ่งจะได้รับในอนาคต ก็คือผลจากเหตุในอดีตนั่นเอง คงเปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่แล้ว กระผมจึงคิดว่า ดูคล้ายๆ กับว่า อนาคตมันแน่นอนตายตัว แต่ปัญญาของเราไม่สามารถรู้ได้เท่านั้นเอง มีแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์เดียวที่จะพยากรณ์ได้ ดังตัวอย่างมากมาย ในพระไตรปิฎก ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพยากรณ์อนาคตของบุคคลต่างๆ ไว้ ถ้าอนาคตไม่แน่นอน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงพยากรณ์อนาคตได้อย่างไรกัน


ความคิดเห็น 5    โดย study  วันที่ 15 ม.ค. 2550

เรื่องอนาคตของบางท่าน ที่มีอุปนิสัยอันดีงาม สะสมเหตุอันสมควรที่จะเป็นเช่นนั้น พระพุทธองค์จึงทรงพยากรณ์ แต่มีตัวอย่างบางท่านในพระไตรปิฎก เช่น พระเจ้าอชาตศตรู เป็นต้นถ้าเขาไม่ฆ่าบิดาเขาจะเป็นพระโสดาบันเมื่อฟังสามัญญผลสูตรจบ หรือบุตรเศรษฐีเมืองพาราณสี ถ้าเขาได้บวชตั้งแต่ปฐมวัยจะสำเร็จเป็นพระอรหันต์ แต่เขาไม่สำเร็จ เพราะ ทั้งพระเจ้าอชาตศตรู และบุตรเศรษฐี คบคนชั่วเป็นมิตร จึงมีเครื่องกั้นที่เป็นตัวแปรสำหรับบางท่าน เพราะฉะนั้น ในเรื่องของกรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ในตอนหนึ่งมีว่า เพราะกาล คติ อุปธิวิบัติ กุศลกรรมบางอย่างจึงไม่ให้ผล แต่เพราะ กาล คติ อุปธิสมบัติ อกุศลกรรมบางอย่างไม่ให้ผลกุศลกรรมบางอย่างให้ผล เรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นว่า บางครั้งเรื่องของเหตุใหม่และสิ่งแวดล้อมในอนาคต จึงมีเป็นตัวแปร ทำให้ไม่มีอะไรแน่นอน แต่สำหรับบางกรณีส่วนน้อยที่ดูเหมือนแน่นอน


ความคิดเห็น 6    โดย paisan.ju  วันที่ 15 ม.ค. 2550

ที่ว่า ถ้าพระเจ้าอชาตศัตรูเขาไม่ฆ่าบิดา เขาจะเป็นพระโสดาบันเมื่อฟังสามัญญผลสูตรจบหรือบุตรเศรษฐีเมืองพาราณสี ถ้าเขาได้บวชตั้งแต่ปฐมวัยจะสำเร็จเป็นพระอรหันต์ แต่เขาไม่สำเร็จเพราะ ทั้งพระเจ้าอชาตศัตรูและบุตรเศรษฐีคบคนชั่วเป็นมิตร จึงมีเครื่องกั้น จะเป็นไปได้ไหมครับ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงหมายถึงว่า พระเจ้าอชาตศตรู หรือบุตรเศรษฐีฯ มีบารมีที่สะสมมาแล้วซึ่งสามารถบรรลุธรรมได้แต่อย่างไรก็แล้วแต่ทั้งพระเจ้าอชาตศตรู และบุตรเศรษฐีฯ จะต้องได้คบกับคนชั่วเป็นมิตร เพราะเหตุปัจจัยในอดีต ไม่สามารถห้ามได้ ถ้าสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทำไมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ทรงไปโปรดพระเจ้าอชาตศัตรูตั้งแต่แรก ไม่ให้ไปคบกับพระเทวทัต


ความคิดเห็น 7    โดย devout  วันที่ 15 ม.ค. 2550

ถ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ฯ ทรงสามารถเปลี่ยนแปลงกรรมและวิบากของใครได้ คงทรงกระทำแล้วด้วยพระมหากรุณา แต่เนื่องจากธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา จึงเป็นไปตามเหตุปัจจัยที่ได้สะสมมาแล้ว เพราะคนเราย่อมสะสมทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว และเมื่อทิฏฐานุสัยยังไม่ได้ดับ ความเห็นผิดย่อมเกิดขึ้นได้ในกาลทุกเมื่อ


ความคิดเห็น 8    โดย olive  วันที่ 19 ม.ค. 2550

ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพยากรณ์อนาคตของบุคคลต่างๆ ไว้ ถ้าอนาคตไม่แน่นอน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงพยากรณ์อนาคตได้อย่างไรกัน คุณ paisan.ju

ทรงพยากรณ์แบบครอบคุมตามเหตุปัจจัย ตามกรรมของเหล่าสัตว์ที่จะเป็นไปโดยส่วนอดีตแต่พระองค์ก็ทรงแสดงเหตุผลด้วยเสมอ เช่น พระศาสนาจะยืนอยู่ 5000 ปีหรือมากกว่านั้นก็ด้วยการประพฤติของพุทธบริษัทเอง

อนาคตไม่แน่นอน อดีตก็ผ่านไปแล้ว ถ้าอยากให้อนาคตเป็นอย่างไรก็ทำปัจจุบันให้สอดคล้อง แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ากรรมที่เราทำในอดีต จะต้องตามมาในสักวัน แต่ถ้าเราเชื่อมั่น เราก็สามารถสร้างอนาคตอย่างที่คิดไว้ให้เกิดขึ้นได้ พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สร้างอนาคตไว้ให้ใคร เราเป็นคนสร้างเอง เราก็ต้องแก้มันด้วยตนเอง


ความคิดเห็น 9    โดย prapan  วันที่ 27 ก.พ. 2551

ผมคิดว่าสร้างเหตุที่ดีในปัจจุบันไว้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดครับ เพราะว่าผลที่ดีย่อมเกิดแน่ เป็นวิบากในอนาคตที่เราจะต้องได้รับ ไม่จำเป็นนะครับ ว่าจะต้องได้รับ กุศลวิบากในชาตินี้เท่านั้นเพราะสังสารวัฎยาวไกลมาก กุศลทั้งหลาย เหตุดีทั้งหลายที่ได้กระทำไว้แล้ว ย่อมให้ผลเมื่อเหตุปัจจัยพร้อม อาจเป็นภพชาติอื่น หรือ ภายในชาตินี้เลยก็ได้ครับ สิ่งที่สำคัญคือ เราควรอบรมเจริญปัญญา ให้เกิดด้วยการฟัง และศึกษาพระธรรมไปเรื่อยๆ ครับ


ความคิดเห็น 10    โดย Komsan  วันที่ 27 ก.พ. 2551
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 11    โดย chatchai.k  วันที่ 3 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ