ขอนอบน้อมถามแด่ท่านวิทยากรประจำเว็บนะครับว่า เทวดาหรือพรหมสามารถล่วงรู้วาระจิตของมนุษย์ได้หรือไม่ หรือสามารถล่วงรู้ความคิดในใจของปุถุชนคนธรรมดาอย่างพวกเราได้หรือไม่ ถ้าสามารถล่วงรู้ได้ นี่จึงอาจจะเป็นเหตุผลที่พระพุทธเจ้าทรงขึ้นไปสอนเรื่องอภิธรรมให้แก่เหล่าเทวดาใช่หรือไม่ครับ เพราะเหล่าเทวดาสามารถจะเข้าใจเรื่องจิตได้โดยไม่ยากเมื่อเทียบกับมนุษย์ส่วนใหญ่ที่ยากที่จะเห็นการเกิดดับของจิต
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
เทวดาหรือพรหมสามรถล่วงรู้จิตของมนุษย์และเทวดาได้ครับ ส่วนการเข้าใจอภิธรรมนั้น การรู้ว่าบุคคลนั้น บุคคลนี้คิดอะไร ไม่ใช่เป็นการรู้อภิธรรม หรือรู้จิตตามนัยอภิธรรม ซึ่งการรู้จิตที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน (อภิธรรมในชีวิตประจำวัน) ด้วยการอบรมเจริญสติปัฏฐานว่า จิตเป็นธรรมไม่ใช่เรา การรู้จิตว่าบุคคลนั้นบุคคลนี้คิดอะไร ยังไม่ใช่ปัญญาที่รู้ว่าจิตเป็นธรรม ก็ยังมีสัตว์ บุคคลอยู่นั่นเองไม่ได้ละความเป็นเราว่ามีแต่จิต ดังนั้นเหตุผลที่แสดงอภิธรรมที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จึงไม่ใช่เพราะเทวดาสามารถรู้จิตของมนุษย์ได้ครับ แต่พระพุทธองค์ทรงทราบว่า เทศนาใดเหมาะควรที่จะทำให้บุคคลใดบรรลุด้วยเทศนาใดก็ทรงแสดงเทศนานั้น ถ้าจะบรรลุด้วยสมมติสัจจะก็ทรงแสดงสมมติสัจจะ ถ้าบรรลุด้วยปรมัตถสัจจะ (อภิธรรม เป็นต้น) ก็ทรงแสดงปรมัตถสัจจะ หากสัตว์นั้นบรรลุด้วยเทศนานั้นครับ
เชิญคลิกอ่านข้อความในพระไตรปิฎกเพิ่มเติมในเรื่องพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมประเภทใดแล้วหมู่สัตว์บรรลุก็ทรงแสดงธรรมนั้น
อรรถกถาเวปุลลปัพพตสูตร .. สมมติเทศนาและปรมัตถเทศนา
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอบพระคุณมากครับ
ขออนุโมทนา.
เท่าที่ทราบนะคะ...
ผู้ที่จะล่วงรู้วาระจิตของผู้อื่นได้ ต้องเป็นผู้ที่บรรลุอภิญญาขั้นเจโตปริยญาณ ซึ่งเกิดขึ้นได้ด้วยอาศัยทิพพจักขุ ปุถุชนผู้ที่ไม่ได้อภิญญาจิต ไม่ว่าจะอยู่ในภูมิมนุษย์ สวรรค์ หรือ พรหมก็ไม่สามารถล่วงรู้จิตของผู้อื่นได้โดยถ่องแท้ค่ะ และถึงแม้ว่าบุคคลนั้นจะได้เจโตปริยญาณแล้วก็ตาม
ก็ไม่อาจจะหยั่งรู้จิตของผู้ที่มีคุณธรรมสูงกว่าตนได้ ดังข้อความในพระสูตรที่ได้อัญเชิญมาค่ะ...
[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๒๖๖ บรรดาบทเหล่านั้น ปุถุชนผู้ได้เจโตปริยญาณ ย่อมรู้จิตของปุถุชนด้วยกัน แต่ไม่รู้จิตของพระอริยเจ้า. ถึงในพระอริยเจ้าทั้งหลาย พระอริยบุคคลชั้นต่ำ ย่อมไม่รู้จิตของพระอริยบุคคลชั้นสูง แต่พระอริยบุคคลชั้นสูง รู้จิตของพระอริยบุคคลชั้นต่ำ.
ป.ล. รบกวนท่านผู้รู้ได้โปรดนำหลักฐานมาแสดง เพื่อเป็นการศึกษาร่วมกันว่า การได้อัตภาพเป็นเทวดาและพรหมนั้น สามารถทำให้รู้วาระจิตของคนอื่นได้ค่ะ
ขอแสดงความคิดเห็นค่ะ
ปัญญาของแต่ละบุคคลมีหลายระดับ ต่างกันตามการสั่งสมของแต่ละบุคคล เช่น บางบุคคลเป็นผู้ที่ฉลาดมาก สามารถพิจารณาถึงจิตใจของคนอื่น ด้วยอาศัยการกระทำทางกาย ทางวาจาของบุคคลนั้น หรือแม้แต่เทวดาเห็นภิกษุดมกลิ่นดอกบัวก็รู้ว่าท่านพอใจในกลิ่น ก็มาเตือน แต่ไม่สามารถรู้ละเอียดถึงจิตใจของบุคคลนั้นได้ นอกจากได้อภิญญา ซึ่งเป็นปัญญายิ่งพิเศษค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
การรู้จิตมีหลายระดับ ดังเช่นปัญญาก็มีหลายระดับ การรู้จิตก็มีหลายระดับ ตามความเห็นที่ ๕ ได้กล่าวมา ซึ่งในพระไตรปิฎกแสดงไว้หลายตัวอย่างครับ ว่าเทวดานั้นสามารถรู้จิตของบุคคลอื่น แม้จะไม่ได้เจโตปริยญาณ ดังนั้นการรู้จิตของผู้อื่นจึงมีหลายระดับครับ เชิญคลิกอ่านได้ดังนี้ครับ
อนุรุทธสูตร ....ว่าด้วยภรรยาเก่าของพระอนุรุทธะ (เทวดารู้จิตของพระอนุรุทธะ) เรื่องพระนางสามาวดี การรักษาอุโบสถเพียงกึ่งหนึ่ง (เทวดารู้จิตของดาบส) ตโปกรรมสูตร ตบะอื่นไม่อำนวยประโยชน์ (มารรู้ความปริวิตกแห่งจิตของพระพุทธเจ้า) สีวิราชชาดก บริจาคดวงตาเป็นทาน (ท้าวสักกะรู้จิตของพระโพธิสัตว์)
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอบคุณค่ะ.สำหรับข้อความจากพระสูตรที่ท่านได้ยกมาเพื่อศึกษาร่วมกัน ทั้งนี้คงต้องขึ้นอยู่กับ คำจำกัดความของ "การล่วงรู้วาระจิต" เพราะการล่วงรู้วาระจิตในลักษณะดังกล่าว (คห 6) แม้มนุษย์หรือสัตว์ (โพธิสัตว์กำเนิด) ที่สะสมบารมีมาพอก็รู้ได้เช่นกันค่ะ