ผู้ที่ปฏิบัติธรรม...ทำไมยังกลัวผี
โดย oom  4 ต.ค. 2550
หัวข้อหมายเลข 5006

ผู้ที่ปฏิบัติธรรม แต่ยังกลัวผีอยู่ เป็นเพราะยังมีโทสะอยู่หรือใช่หรือไม่ หรือเป็นเพราะเหตุอื่น



ความคิดเห็น 1    โดย study  วันที่ 4 ต.ค. 2550

ผู้ที่กลัวผี กลัวสัตว์ร้าย กลัวความเจ็บ กลัวความตาย เพราะยังละโทสะยังไม่ได้ จริงอยู่ บางท่านแม้ยังละโทสะไม่ได้ แต่เป็นผู้มีจิตใจเข้มแข็ง มีคุณธรรม มีศีลบริสุทธิ์ มีสมาธิ (ได้ฌาน) มีปัญญา เป็นต้น อาจอยู่ป่าตามลำพังโดยไม่กลัวผีหรือสัตว์ร้าย แต่ใจลึกๆ ของผู้มีกิเลสย่อมกลัวตายเป็นธรรมดา

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...

บุคคล ๒ จำพวก เมื่อฟ้าผ่าไม่สะดุ้ง


ความคิดเห็น 2    โดย oom  วันที่ 4 ต.ค. 2550

ขอบพระคุณมากค่ะ จะได้ไปบอกให้เพื่อนฟังว่า ถ้ายังกลัวผีอยู่ ก็เป็นโทสะ


ความคิดเห็น 3    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 4 ต.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ขณะที่กลัว ขณะนั้น เวทนา ความรู้สึกเป็นโทมนัสเวทนา ซึ่งเกิดกับจิตที่เป็นโทสมูลจิต คำว่า ผู้ปฏิบัติธรรมคืออย่างไร ธรรมปฏิบัติหน้าที่ โดยอาศัยการฟังให้เข้าใจ และเมื่อเข้าใจแล้ว ธรรมนั้นเองปฏิบัติให้รู้ตามความเป็นจริงว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา นี่คือการปฏิบัติที่ถูกต้อง ไม่มีตัวตนจะพยายามไปปฏิบัติ และการดับกิเลสขั้นแรกคือ ดับความเห็นผิด ดังนั้น โทสะก็ย่อมมี ก็เป็นเหตุปัจจัยให้กลัวผี ถึงแม้บางท่านอาจจะกล่าวว่าไม่กลัวผี กลัวอย่างอื่นได้ไหม แล้วถ้าเป็นผู้ที่มีความกลัวอยู่ อบรมปัญญาได้หรือเปล่า ความกลัวก็มีจริงเป็นธรรมครับ ปัญญาต้องรู้ทั่วว่า ความกลัวเป็นธรรม ไม่ใช่เรา นี่คือหนทางการดับกิเลส มิใช่ว่าไม่ให้ความกลัวเกิด เป็นไปไม่ได้ แต่เกิดแล้วควรรู้ความจริงของสิ่งที่เกิดนั้น เพราะเราถูกความไม่รู้ยึดติดว่า เป็นเราที่กลัว เป็นเราที่จะปฏิบัติครับ ค่อยๆ ฟังไปนะ

ขออนุโมทนาครับ

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์


ความคิดเห็น 4    โดย wannee.s  วันที่ 5 ต.ค. 2550

ในพระไตรปิฎก มีแสดงไว้ ภิกษุรูปหนึ่ง เป็นคนขี้กลัว ขี้ตกใจ พระพุทธเจ้าก็ทรงแสดงธรรม ไม่ใช่แต่ในบัดนี้ ที่ภิกษุนี้เป็นคนขี้กลัว แม้ในอดีตก็เคยขี้กลัว ขี้ตกใจ ภายหลังได้ฟังธรรมะจากพระพุทธเจ้าแล้วก็ได้บรรลุเป็นพระโสดาบันค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย Buppha  วันที่ 5 ต.ค. 2550

ขออนุโมทนา

อาการ กลัว วิตกกังวล เป็นเจ้าเรือนมีอยู่ในปุถุชนทั่วๆ ไปค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย ครูโอ  วันที่ 8 ต.ค. 2550

เพราะปุถุชนยังมีความรักตัวเองมาก มีกิเลสหนา จึงไม่ปรารถนาในอารมณ์ที่ไม่น่าพึงพอใจทุกประการ ที่ต้องทุกข์ใจบ่อยๆ ก็เป็นเพราะว่าไม่มีใครที่จะได้รับกุศลวิบากตลอดเวลา เวลาที่ได้รับอกุศลวิบากทางทวารต่างๆ ที่ไม่เป็นไปตามที่ตนต้องการ จึงเกิดโทสมูลจิตอันประกอบไปด้วยโทมนัสเวทนา หวาดกลัวในภัยที่เกิด หรือแม้ยังไม่ได้รับวิบากนั้นๆ ก็เกิดความคิดปรุงแต่งจิตให้หวาดกลัวในภัยทุกๆ อย่างที่จะเกิดในภายหน้าหรือที่จะทำอันตรายให้กับขันธ์ ๕ อันเป็นที่รักของตน ที่ตนเข้าไปยึดไว้ได้เช่นกัน


ความคิดเห็น 7    โดย sirijata  วันที่ 8 ต.ค. 2550

เนื่องจากอยู่ชมรมคนกลัวผี เพราะโทสะ โมหะยังมากอยู่ จึงขอเล่าเคล็ดลับจากประสบการณ์ ให้เพื่อนสมาชิกลองนำไปใช้ดูนะคะ คือ มีความอ่อนน้อม (ต่อสรรพสัตว์+ผี) ถือศีล ๕ ให้มั่นคง เจริญสติปัฏฐาน ทำกุศลมากๆ อุทิศส่วนกุศลและแผ่เมตตาเป็นประจำ พบว่าผีไม่ค่อยมายุ่งด้วยค่ะ ถ้ามาหา ก็แบบเกรงใจหรือเพราะเขาทุกข์ร้อนจริงๆ


ความคิดเห็น 8    โดย ครูโอ  วันที่ 8 ต.ค. 2550

ที่ร้ายเสียยิ่งกว่า ผี (อมนุษย์) เป็นมาร คืออนุสัยกิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในจิตของเราเอง ไม่ใช่ผีที่เป็นเพียงรูปารมณ์หยาบๆ ที่มากระทบจักขุปสาท แล้วจักขุวิญญาณเกิดขึ้นเห็นแล้วก็ดับ ภวังคจิตเกิดดับ แล้วมโนทวารรู้รูปารมณ์นั้นต่อ ทำให้เกิดจิตที่คิดนึกทางใจว่าเป็นผี โดยที่แท้ จิตก็มีบัญญัติเป็นอารมณ์ไปเสียแล้วครับ เหตุนี้ ผู้ที่มีปรกติเจริญสติ ควรระวังมารที่นอนเนื่องในจิตของตน ที่จะส่งลูกสมุนให้ปะทุขึ้นมาเป็นอกุศลจิตได้ตลอดเวลาขณะที่เราตื่นดีกว่าครับ


ความคิดเห็น 9    โดย เซจาน้อย  วันที่ 11 พ.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 10    โดย nopwong  วันที่ 26 ธ.ค. 2555

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 11    โดย ใหญ่ราชบุรี  วันที่ 2 ก.พ. 2558

สาธุ อนุโมทนา และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ


ความคิดเห็น 12    โดย peem  วันที่ 20 ธ.ค. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 13    โดย chatchai.k  วันที่ 9 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 14    โดย yu_da2554hotmail  วันที่ 3 มี.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ


ความคิดเห็น 15    โดย Jarunee.A  วันที่ 2 ธ.ค. 2566

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ