กรรมกับการหนีออกจากวงยถากรรม?
โดย เจริญในธรรม  30 ม.ค. 2551
หัวข้อหมายเลข 7194

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยและเป็นที่พึ่งอันสุงสุด

เรียนถามจนท.มศพ.และท่านสหายธรรมทุกท่าน

วันนี้เป็นวันพระเลยเกิดข้อปัญหามาก อยากถามในหลายหัวข้อ ต้องขออภัยหากท่านไม่มี เวลาตอบครับ ผมเคยได้ยินมาว่า เราสามารถหนีออกจากวงยถากรรมได้ แต่กรรมไม่ดีและดีก็ยังต่อคิว ส่งผลอยู่ เปรียบเสมือนในตอนแรกเรามีบุญแค่แก้วน้ำ ๑ ใบ หากทำอกุศลก็เหมือนหยด น้ำหมึก1หยดลงซึ่งในน้ำต้องมีสีเริ่มขุ่นแน่ หากเราทำบุญมากๆ ทั้งการทำทาน รักษาศีล ทำ ภาวนา มากๆ ก็เหมือนการมีน้ำมากขึ้นมากกว่าแก้ว ๑ ใบ อาจเป็นน้ำ ๑ ตุ่มใหญ่ขึ้นมาได้ ซึ่งน้ำหมึกที่เปรียบเสมือนอกุศลก็จางลง ตรงนี้ท่านบอกว่าเราจะหนีออกจากวงยถากรรม ทำให้ กรรมเบาบางลงหรือกรรมไม่ดีตามเราไม่ทัน ส่งผลกับเรายังไม่ได้ ตรงนี้สามารถทำได้หรือ ไม่ครับ เป็นจริงเท็จประการใด แต่ผมก็เชื่อมั่นในกรรม และกรรมนี้ก็เป็นเผ่าพันธ์ เป็นเพื่อนพ้องกับเราเสมอครับ ขออนุโมทนาครับ



ความคิดเห็น 1    โดย ไตรสรณคมน์  วันที่ 31 ม.ค. 2551

วิปาก แปลว่า สุกงอม วิบากกรรม คือกรรมที่สุกงอมพร้อมที่จะให้ผลถ้าศึกษาจากพระไตรปิฎก จะทราบว่าไม่มีใครหนีวิบากกรรมไปได้เลย แม้แต่พระอัครสาวก คือท่านพระมหาโมคคัลลานะท่านยังถูกโจรทุบตีจนสิ้นชีวิตเพราะกรรมเก่ากรรม จึงเปรียบไว้เหมือนกับ "สุนัขไล่เนื้อ ไล่ทันเมื่อไหร่ก็ห้ำหั่นทันที" แต่ผู้ที่มีกุศลวิบากมาก ถึงคราวจะได้รับอกุศลวิบากบ้าง ย่อมเป็นทุกข์น้อยกว่าใช่มั้ยค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย ajarnkruo  วันที่ 4 ก.พ. 2551

บุญ ก็คือบุญ ครับ ส่วนบาป ก็คือบาป ทำไปแล้วจะมากจะน้อย ก็ต้องตามให้ผลแน่นอน ถ้ายังไม่ปรินิพพานเสียก่อน บุญที่กระทำแล้วก็ต้องให้ผลเป็นสุข บาปที่กระทำแล้วก็ต้องให้ผลเป็นทุกข์ แล้วแต่ว่าผลของกรรมใดจะสุกงอมและเผล็ดผล เช่น บางทีขณะที่รับประทานอาหารอร่อยๆ กำลังเสวยผลของบุญอยู่ดีๆ ก็เคี้ยวไปถูกกับก้อนหินในข้าว เพราะผลของบาปให้ผล เบียดเบียนขณะนั้น แต่ไม่ใช่ขณะเดียวกันความจริงแล้ว บุญเป็นสิ่งที่ควรเจริญ แต่เมื่อเจริญ ก็ไม่ควรหวังผลว่าจะให้ไปเจือจาง บาปที่ได้กระทำไปแล้วครับ เพราะผลย่อมสมควรแก่เหตุแน่นอน บุญทั้งหลายย่อมตามอุปถัมภ์ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ในทำนองเดียวกันกับบาปมากมาย เมื่อได้กระทำแล้ว ก็จะตามเบียดเบียน และตัดรอนทั้งในชาตินี้และชาติหน้าเช่นกัน