หนูเข้าใจว่า เช่น ขณะที่กำลังเห็น ก็ให้ไตร่ตรองว่าทำไมเห็นถึงไม่ใช่เรา หนูเข้าใจว่านี่คือความหมายของประโยคที่ว่า เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ

เพราะการที่จะเข้าใจเห็นว่าไม่ใช่เรา ก็ต้องพิจารณาถึงเหตุปัจจัย

และนี่ก็คือกำลังเข้าใจในสิ่งที่ปรากฏ

หนูอยากทราบว่าที่หนูเข้าใจ ถูกต้องหรือผิดคะ และความหมายของคำว่า"เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ " มีความหมาย มีรายละเอียดอย่างไรคะ

กราบขอบพระคุณค่ะ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงๆ นั้น ละเอียดลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง การเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ คือ เข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่มีจริงๆ ที่กำลังมีกำลังปรากฏในขณะนั้น ซึ่งสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏนั้น มีลักษณะให้รู้ได้ ไม่ใช่ด้วยความอยากด้วยความหวังด้วยความต้องการ แต่เป็นกิจหน้าที่ของสภาพธรรมฝ่ายดี มีปัญญา เป็นต้น เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ไม่มีเรา ไม่ใช่เราแต่อย่างใด กว่าจะเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ก็ต้องอาศัยการฟัง การศึกษาเรื่องของสภาพธรรมที่มีจริงๆ ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีเล็กทีละน้อย ครับ
ขอเชิญคลิกฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ

ลักษณะของจิตเห็น-สิ่งที่ปรากฏทางตา
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

หลังจากหนูอ่านฟังแล้วคิดทบทวน ตอนนี้หนูเข้าใจคร่าวๆ แบบนี้ค่ะ ประมาณว่าคือ ความจริงลักษณะตัวจริงที่กำลังเห็นนั้นสั้นมากๆ แต่เรื่องราวก็จะอธิบายถึงลักษณะของจิตเห็นต่างๆ นาๆ เช่นเห็นคิดไม่ได้ เห็นเป็นเห็น เพื่อให้สติเริ่มเกิดเริ่มใส่ใจในลักษณะที่เห็นตามปกติในชีวิตประจำวัน ไม่อย่างนั้นเราก็คิดเรื่องคนเรื่องญาติเรื่องอื่นๆ ไปเรื่อย แล้วยิ่งเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธรรม แม้ขณะที่คิดว่ามีเราก็เป็นธรรมที่เกิดแล้ว สำหรับผู้ที่เข้าใจ ก็จะไม่มีการไปพยายามทำอะไรหรือพยายามเลี่ยงอารมณ์ แต่เข้าใจแม้ในขณะที่กำลังคิดแบบนั้นว่าเป็นธรรมเป็นสิ่งที่เกิดแล้วจึงปรากฏ แล้วก็ไม่ต้องไปพยายามวางอุเบกขา ในเมื่อสิ่งนั้นดับไปแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีสิ่งที่ดับไปแล้วเป็นอารมณ์ โดยในขณะนั้นไม่ต้องไปพยายามหาหมวดธรรมใดมาคิด แต่ทำความเข้าใจในสิ่งที่กำลังปรากฏ เมื่อเข้าใจมากขึ้น ปัญญาเขาก็จะทำกิจคลายความเห็นผิดเอง โดยที่ไม่ใช่เราไปพยายามคิดไตร่ตรองเรื่องปัจจัยเพื่อคลายความเห็นผิด ตอนนี้ หนูเริ่มเข้าใจแบบนี้แทนแล้วค่ะ