เรื่องปาฏิหาริย์ในพระสูตร ควรใส่ใจหรือไม่ อย่างไร?
ในพระไตรปิฎกแสดงปาฏิหาริย์ ไว้ ๓ อย่าง คือ อิทธิปาฏิหาริย์ ๑ อาเทศนาปาฏิหาริย์ ๑ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ ๑ ควรใส่ใจในอนุสาสนีปาฏิหารย์โปรดอ่านรายละเอียดจากพระไตรปิฎกโดยตรง
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ... เกวัฏฏสูตร [ว่าด้วยเรื่อง ปาฏิหาริย์ ๓]
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
เรื่องปาฏิหารย์ในพระสูตร ควรใส่ใจหรือไม่ อย่างไร?
สิ่งใดที่พระองค์แสดงสิ่งนั้น ย่อมเป็นประโยชน์ ซึ่งปาฏิหารย์ ๓ อย่าง ๑. อิทธิปาฏิหารย์ (แสดงฤทธิ์ได้) ๒. อาเทศนาปาฏิหารย์ (รู้จิตดักใจคนได้) ๓. อนุสาสนีปาฏิหารย์ (การพร่ำสอนให้บรรลุ) ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าและสาวกมากมาย ย่อมประกอบด้วย ปาฏิหารย์ ๓ อย่างนี้ซึ่งเมื่อคิดแยบคายย่อมนำมาซึ่งความเลื่อมใสต่อพุทธบริษัท แต่ในบรรดา ปาฏิหารย์ ๓ อย่างนี้ ปาฏิหารย์ ๒ อย่างข้างต้นไม่ประเสริฐเท่ากับ อนุสาสนีปาฏิหารย์ที่สามารถทำให้ดับกิเลสได้ ดังตัวอย่างในพระไตรปิฎก ที่พราหมณ์ผู้หนึ่ง ไม่ชื่นชม ปาฏิหารย์ ๒ ข้อต้นเพราะเหมือนรูปลวง เหมือนการหลอกลวงแต่ท่านชอบใจอนุสาสนีปาฏิหารย์เพราะสารถทำให้เข้าใจตามความเป็นจริง และเห็นเองแก่ผู้ที่ฟังครับ
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่
เรื่อง อนุสาสนีปาฏิหารย์ประเสริฐที่สุด
อยากทราบว่า ปาฏิหารย์ ๒ ข้อแรกนั้น มีมาก่อนพระพุทธเจ้าตรัสรู้หรือไม่คะ
<b
ปาฏิหาริย์ ๑. อิทธิปาฏิหาริย์ เหาะเหิน เดินอากาศ ได้ หายตัวได้ ฯลฯ ๒. อาเทศนาปาฏิหาริย์ ดักใจ ทายใจ หรือรู้ใจคนอื่นได้ ปาฏิหาริย์ ๒ ข้อนี้ มีมาก่อนที่ พระพุทธเจ้า จะตรัสรู้ค่ะ
สาวกมากมาย ย่อมประกอบด้วย ปาฏิหารย์ ๓ อย่างนี้
ดังคำกล่าวนี้สาวกที่ประกอบด้วยปาฏิหารย์ ๓ อย่างนี้ ต้องบรรลุโลกุตระธรรมแล้วใช่มั้ยคะ
ขออนุโมทนาครับ
Thanks
ยินดีในกุศลจิตค่ะ