ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
การที่เรารู้ว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี มีความไม่รู้มากย่อมเป็นความเข้าใจถูกระดับหนึ่ง แต่เมื่อรู้อย่างนั้นแล้วจึงควรเห็นประโยชน์ว่า เมื่อเป็นคนไม่ดี สิ่งที่ทำให้ดีขึ้นคืออะไร นั่นคือการได้เข้าใจถูกในพระธรรมในแนวทางถูกต้องโดยการเข้าไปหา ไปใกล้เสพคุ้นกับความเห็นถูก โดยนัยตรงกันข้ามถ้าเราเป็นคนไม่ดี มีคามไม่รู้มากแต่เราเสพคุ้นกับความเห็นผิด หรือในแนวทางที่ไม่ถูกต้องแล้วย่อมทำให้เป็นคนไม่ดีมากขึ้น สะสมความไม่รู้มากขึ้น จึงควรพิจาณาด้วยปัญญาว่าเมื่อเป็นคนไม่ดี มีความไม่รู้ควรทำอย่างไรจึงจะควรเพราะ ย่อมนำไปสู่การบรรลุมรรคผลและไม่บรรลุมรรคผลหรือสวรรค์และอบายภูมิครับ
[เล่มที่ ๔๑] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒-หน้าที่ ๑๘๘
ข้อความบางตอนจาก......
เรื่องโจรผู้ทำลายปม
"บุคคลใดโง่ ย่อมสำคัญความที่แห่งตนเป็นคนโง่ บุคคลนั้นจะเป็นบัณฑิตเพราะเหตุนั้นได้บ้าง ส่วนบุคคลใดเป็นคนโง่ มีความสำคัญว่าตนเป็นบัณฑิต บุคคลนั้นแล เราเรียกว่า 'คนโง่'
[เล่มที่ ๔๑] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒-หน้าที่ ๑๘๘
แก้อรรถว่า ก็เขารู้อยู่ว่า "เราเป็นคนโง่" เข้าไปหา เข้าไปนั่งใกล้คนอื่นซึ่งเป็นบัณฑิต อันบัณฑิตนั้นกล่าวสอนอยู่ พร่ำสอนอยู่ เพื่อประโยชน์แก่ความเป็นบัณฑิต เรียนเอาโอวาทนั้นแล้ว ย่อมเป็นบัณฑิตหรือเป็นบัณฑิตกว่าได้
[เล่มที่ ๔๑] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒-หน้าที่ ๑๘๘
สองบทว่า ส เว พาโล ความว่า ส่วนบุคคลใดเป็นคนโง่อยู่ เป็นผู้มีความสำคัญว่าคนเป็นบัณฑิตถ่ายเดียวอย่างนั้นว่า "คนอื่นใครเล่า จะเป็นพหูสูต เป็นธรรมกถึก ทรงวินัย มีวาทะกล่าวคุณเครื่องขจัดกิเลส เช่นกับด้วยเรามีอยู่" บุคคลนั้นไม่เข้าไปหา ไม่เข้าไปนั่งใกล้บุคคลอื่น ซึ่งเป็นบัณฑิต ย่อมไม่เรียนปริยัติเลย ย่อมไม่บำเพ็ญข้อปฏิบัติ ย่อมถึงความเป็นคนโง่โดยส่วนเดียวแท้
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ถ้าคบคนเห็นผิด หรือเข้าใจแนวทางที่ผิด ก็ทำให้สะสมความเห็นผิดมากขึ้น แต่ถ้าคบบุคคลที่เห็นถูกในแนวทางที่ถูก ก็จะทำให้ความไม่รู้ค่อยๆ น้อยลงและสามารถบรรลุ มรรค ผลในอนาคตได้ค่ะ
ส่วนหนึ่ง เพราะได้สั่งสมบุญไว้ในปางก่อน ที่เหลือ เป็นการสะสมเหตุปัจจัย (บุญและบาป) สำหรับชาตินี้และชาติต่อๆ ไป
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ