มหาภูตรูป 2
โดย papon  5 ก.ย. 2556
หัวข้อหมายเลข 23526

เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน

กระผมยังนึกภาพไม่ออกนึกออกแต่ธาตุดินที่อาจารย์ผเดิมยกตัวอย่าง การที่เสียงอาศัยรูปอื่นเกิด แล้วเสียงแสดงถึงลักษณะของธาตุนั้นๆ ได้หรือไม่ และมีหนังสือให้ศึกษาหรือไม่

ขออนุโมทนาครับ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 6 ก.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ควรเข้าใจครับว่า สภาพธรรม มี 2 ลักษณะ ใหญ่ๆ คือ สามัญญลักษณะ และ วิเสสลักษณะ

สามัญญลักษณะ คือ ลักษณะทั่วไป ปกติของสภาพธรรมที่มีปัจจัยปรุงแต่ง ที่เป็น จิต เจตสิก รูป คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และ เป็นอนัตตา อันมีลักษณะเหมือนกันของสภาพธรรมทั้งหลาย

วิเสสลักษณะ คือ ลักษณะเฉพาะตัวของสภาพธรรม ที่แตกต่างกันไปตามลักษณะของสภาพธรรมที่แตกต่างกัน อย่างเช่น จิตเห็น ก็มี ลักษณะเฉพาะตัว คือ รู้สีเท่านั้น จะไปรู้เสียงก็ไม่ได้ หรือ จะมีลักษณะร้อนก็ไม่ได้ ธาตุดิน ก็มีลักษณะเฉพาะตัว คือแข็ง จะร้อนก็ไม่ได้ เพราะเป็นลักษณะเฉพาะตัวของธาตุไฟ เท่านั้น ครับ ส่วน เสียง ที่เป็น สัททรูป ก็มีลักษณะที่เฉพาะตัว คือ ดัง ที่กระทบกับ โสตปสาทรูปเท่านั้น แต่เมื่อเสียงเกิดขึ้น ก็มีมหาภูตรูปเกิดร่วมด้วย ทั้งธาตุดิน น้ำ ไฟ และลม รวมทั้งรูปที่เป็น อวินิพโภครูป เป็นต้น ครับ ดังนั้น ก็มีลักษณะของธาตุดิน เกิดร่วมด้วย แต่ลักษณะของแต่ละธาตุก็ไม่ปะปนกัน เพียงแต่เกิดพร้อมกันในขณะนั้น ดังนั้น เสียงไม่แข็ง เสียงดังเท่านั้น เพราะ ลักษณะเฉพาะตัวเป็นอย่างนั้น อย่างเช่น ขณะที่จับกระทบก้อนเหล็กแดง ถามว่าอะไรปรากฏเป็นสำคัญ ครับ ความร้อนมาก ทั้งๆ ที่จริง ก้อนเหล็กแดงนั้น ก็มี ธาตุดิน ที่เป็นลักษณะแข็งด้วย แต่ เหมือนไม่ปรากฏเลย เพราะความปรากฏชัดในขณะนั้น คือ ความร้อน ธาตุไฟที่รุนแรงมาก นั่นเอง เสียงก็เช่นกัน ก็มีลักษณะเฉพาะ คือ กระทบหู ที่ดังเท่านั้น ถามว่า มีธาตุดินไหม มีครับ เพียงแต่เราพูดกันทั่วไป เสียงมองไม่เห็น ทำให้ไม่ปรากฏลักษณะแข็งให้ปรากฏ หากแต่ว่า ความจริงเกิดพร้อมกัน เมื่อมีความดังของเสียงมาก ก็ทำให้กระจกแตกได้ เสียง เพียงกระทบหู แต่ ความแข็ง ที่กระทบวัตถุอื่น ทำให้แตกทำลายได้ ครับ จึงควรแยกลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละสภาพธรรม และควรเข้าใจการทำหน้าที่ของสภาพธรรมที่แตกต่างกันไป ตาม วิเสสลักษณะ แต่เกิดร่วมกันได้ เพียงแต่จะรู้หรือไม่เท่านั้นเอง ครับ เพราะจะต้องรู้ด้วยปัญญาเป็นสำคัญ ครับ

ส่วน หนังสือที่สามารถอ่านเพิ่มเติมโดยเฉพาะเรื่องรูป คือ พระอภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๖ รูปสังคหวิภาค ขออนุโมทนา ครับ


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 6 ก.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ที่สำคัญจะต้องมีความเข้าใจอย่างมั่นคง ว่า ธรรม เป็นจริงแต่ละหนึ่ง โดยไม่ปะปนกัน มหาภูตรูป ๔ ก็เป็นสภาพธรรมที่มีจริง แต่ละหนึ่ง และ รูปธรรมประเภทอื่นๆ ก็โดยนัยเดียวกัน แต่เวลาเกิดก็เกิดเป็นกลุ่ม ตามควรแก่กลุ่มของรูปนั้นๆ ขึ้นอยู่กับสมุฏฐานของรูปนั้นๆ สำหรับกลุ่มของรูปที่มีเสียงเกิดร่วมด้วยนั้นจะมีรูปรวมกันเกิน ๘ รูปเกิดจากจิตเป็นสมุฏฐาน ก็มี เกิดจากอุตุเป็นสมุฏฐาน ก็มี ซึ่งจะต้องมีเสียงเกิดร่วมด้วย เสียงก็เกิดพร้อมกับมหาภูตรูป นั่นเอง สภาวลักษณะของเสียง คือ มีการกระทบกับโสตปสาทเป็นลักษณะ เสียงจะกระทบกับตาไม่ได้ กระทบจมูกไม่ได้ กระทบลิ้น ไม่ได้ เป็นต้น ความเป็นจริงของธรรมเป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น ใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เมื่อได้ฟังได้ศึกษาในส่วนของรูปธรรม ก็จะทำให้มีความเข้าใจยิ่งขึ้น ว่าเป็นธรรมที่มีจริง ไม่ใช่เรา เป็นการค่อยๆ ขัดเกลาความไม่รู้ ความเห็นผิดไปทีละเล็กทีละน้อย และ เข้าใจเท่าที่จะเข้าใจได้ ที่สำคัญ คือ ไม่ขาดการฟัง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย j.jim  วันที่ 6 ก.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย wannee.s  วันที่ 6 ก.ย. 2556

ไม่ว่าอย่างไร เสียงจะเกิดโดยปราศจาก มหาภูตรูปไม่ได้ ค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย orawan.c  วันที่ 6 ก.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย papon  วันที่ 7 ก.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ