[เล่มที่ 49] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้า 585
มหาวรรคที่ ๔
๑๓. อักขรุกขเปตวัตถุ
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 49]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้า 585
๑๓. อักขรุกขเปตวัตถุ
ภุมมเทวดาตนหนึ่งได้กล่าวเตือนอุบาสกคนหนึ่งว่า
[๑๓๓] บุคคลให้สิ่งใด สิ่งนั้นย่อมไม่มี แต่ผลอย่างอื่นที่น่าปรารถนา น่าใคร่มีมาก เพราะฉะนั้น ท่านจงให้ทาน แล้วท่านจักพ้นจากทุกข์และความฉิบหาย ทั้งจักได้ประสบสุขอันเป็นไปในปัจจุบันและสัมปรายภพเพราะทานนั้น ขอท่านจงตื่น เถิดอย่าได้ประมาท.
จบ อักขรุกขเปตวัตถุที่ ๑๓
อรรถกถาอักขรุกขเปตวัตถุที่ ๑๓
เรื่องอักขทายกเปรตนี้ มีคำเริ่มต้นว่า ยํ ททาติ น ตํ โหติ ดังนี้. เรื่องนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร?
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี มีอุบาสกชาวเมืองสาวัตถีคนหนึ่ง เอาเกวียนหลายเล่มบรรทุกสินค้าไปขายต่างประเทศ ขายสินค้าของตนในประเทศนั้นแล้ว ก็ซื้อเอาสินค้าต่างประเทศกลับมา เดินทางมุ่งไปกรุงสาวัตถี. เมื่ออุบาสกนั้นกำลังเดินทางเพลาเกวียนเล่มหนึ่งหักในดง. ลำดับนั้น บุรุษคนหนึ่งได้เอาผึ่งและขวานเพื่อจะตัดไม้ ออกจากบ้านตน เที่ยวไปในป่า ถึงที่นั้น พบอุบาสกนั้นผู้ถึงความโทมนัส เพราะเพลาเกวียนหัก
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้า 586
จึงคิดว่า พ่อค้านี้มาลำบากในดง เพราะเพลาเกวียนหัก อาศัยความอนุเคราะห์ จึงตัดท่อนไม้มาดามเพลาเกวียนให้มั่นคงแล้ว ประกอบเกวียนให้ไป.
สมัยต่อมา บุรุษนั้นทำกาละแล้ว บังเกิดเป็นภุมมเทวดาอยู่ในดงนั้นนั่นแหละ พิจารณาถึงกรรมของตน ในเวลาราตรี จึงไปเรือนของอุบาสกนั้น ยืนอยู่ที่ประตูเรือนกล่าวคาถาว่า :-
บุคคลให้สิ่งใด สิ่งนั้นย่อมไม่มี แต่ผลอย่างอื่นที่น่าปรารถนา น่าใคร่มีมาก เพราะฉะนั้น ท่านจงให้ทานแล้ว ท่านจักพ้นจากทุกข์และความฉิบหาย ทั้งจักได้ประสบสุขอันเป็นไปในปัจจุบันและสัมปรายภพเพราะทานนั้น ขอท่านจงตื่นเถิด อย่าประมาทเลย.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ยํ ททาติ น ตํ โหติ ความว่า ทายกย่อมให้ไทยธรรมใด ไทยธรรมนั้นแหละย่อมไม่มีโดยความเป็นผลแห่งทานนั้น ในปรโลก, โดยที่แท้ ทานอย่างอื่นที่มีผลน่าปรารถนา น่าใคร่ ก็มีอยู่มากทีเดียว เพราะฉะนั้น พวกท่านจงให้ทานนั่นแหละ คือ จงให้ทานโดยประการใดประการหนึ่งทีเดียว. ภุมมเทวดากล่าวเหตุในข้อนั้นว่า ครั้นให้แล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์และความฉิบหายทั้งสอง, อธิบายว่า ครั้นให้ทานแล้ว ย่อมพ้นทุกข์และความพินาศทั้งปัจจุบัน ทั้งสัมปรายภพ. ในข้อว่า อุภยํ เตน ทาเนน คจฺฉติ นี้ พึงประกอบความดังนี้ว่า เพราะการ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้า 587
ให้นั้น เขาย่อมเข้าถึง คือ ย่อมประสบสุขทั้ง ๒ คือ สุขในปัจจุบันและสุขในสัมปรายภพ ทั้งย่อมประกอบด้วยอำนาจหิตสุขทั้งแก่ตนและสังคม. บทว่า ชาครถ มา ปมชฺชถ ความว่า จงตื่นเพื่อยังทานอันห้ามอนัตถะทั้งสอง ยังประโยชน์ทั้งสองให้สำเร็จอย่างนี้ และจงจัดเตรียมอุปกรณ์ แล้วจงอย่าประมาทในทานนั้น. ก็ในที่นี้ เพื่อจะแสดงถึงความเอื้อเฟื้อ ท่านจึงกล่าวซ้ำ.
พ่อค้าพิจารณาถึงกิจของตนแล้ว กลับถึงกรุงสาวัตถี โดยลำดับ ในวันที่ ๒ จึงเข้าไปเฝ้าพระศาสดา ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่สมควรข้างหนึ่ง จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า. พระศาสดาทรงกระทำเรื่องนั้นให้เป็นอัตถุปปัตติเหตุ แล้วทรงแสดงธรรมแก่บริษัทผู้ถึงพร้อมแล้ว. เทศนานั้นได้มีประโยชน์แก่มหาชน ฉะนี้แล.
จบ อักขรุกขเปตวัตถุที่ ๑๓